ทบ. ยกระดับมาตรการต่อต้าน "โดรน" หลังพบมีความพยายามบินตรวจการณ์ที่ตั้งทางทหาร
"กองทัพบก" บูรณาการทุกภาคส่วน ยกระดับมาตรการรับมือภัยคุกคามจาก "โดรน" หลังพบมีความพยายามบินตรวจการณ์ที่ตั้งทางทหาร
วันที่ 2 สิงหาคม 2568 มีรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก กองทัพบก Royal Thai Army ได้ประกาศระบุว่า กองทัพบกบูรณาการทุกภาคส่วน ยกระดับมาตรการรับมือภัยคุกคามจากโดรน หลังพบมีความพยายามบินตรวจการณ์ที่ตั้งทางทหาร
ตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เรื่องห้ามมิให้ผู้ใดบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน หรือ "โดรน" ที่ควบคุมการบินจากภายนอก, ทุกวัตถุประสงค์การใช้งาน, และทุกพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารหรือหน่วยงานด้านความมั่นคงที่ได้รับมอบหมาย มีอำนาจในการใช้ระบบต่อต้านโดรน (Anti-Drone System) รวมถึงสามารถดำเนินการทำลายโดรนจากภาคพื้นดินได้ทันที
ในการนี้ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ถึง 4 และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 1 ถึง 4 ดำเนินมาตรการตามแนวทางดังต่อไปนี้
- ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด โดยมีรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (ฝ่ายทหาร) เป็นผู้รับผิดชอบในการหารือ และประสานการปฏิบัติกับส่วนราชการ หน่วยงาน และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยให้ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคเป็นผู้ทำหน้าที่ควบคุม และวางแผนภาพรวมในการป้องกันและต่อต้านการใช้โดรนไม่ทราบฝ่าย
- ให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ จังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัด หน่วยงานความมั่นคง ภาคเอกชน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งจัดตั้งชุดเคลื่อนที่เร็ว ประกอบด้วยกำลังจากฝ่ายพลเรือน ตลอดจนตำรวจจากสถานีตำรวจภูธร และสารวัตรทหาร เพื่อดำเนินการสกัดกั้น และติดตามจับกุมผู้บังคับหรือใช้โดรนไม่ทราบฝ่าย
สำหรับแนวทางการใช้อาวุธในการต่อต้านอากาศยานไร้นักบิน แบ่งเป็นกรณี ดังนี้
1. กรณีมีการใช้อาวุธก่อน หรือพบพฤติการณ์เป็นภัยคุกคามร้ายแรง ที่อาจกระทบต่อชีวิตของกำลังพลและประชาชน รวมถึงอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ ให้หน่วยที่วางกำลังตามแนวชายแดนสามารถใช้อาวุธประจำกายหรืออาวุธประจำหน่วยเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามได้ทันที
2. กรณีตรวจพบในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 และ 2
- พื้นที่แนวหน้า : สามารถใช้ทั้งมาตรการ Soft Kill และ Hard Kill ได้
- พื้นที่ส่วนหลัง : ให้ใช้ Soft Kill เป็นลำดับแรก หากไม่สามารถดำเนินการได้ จึงให้ใช้ Hard Kill โดยต้องใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูง และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือทรัพย์สินของประชาชน
3. กรณีตรวจพบในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 และ 4
- ให้เน้นการใช้มาตรการ Soft Kill ก่อนเป็นลำดับแรก หากสถานการณ์จำเป็น ให้ใช้มาตรการ Hard Kill ตามความเหมาะสม
- การใช้อาวุธให้ถือเป็นความรับผิดชอบหลักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยหน่วยทหารสามารถใช้อาวุธได้เฉพาะในขอบเขตที่ตั้งและพื้นที่รับผิดชอบของหน่วย โดยใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูง และต้องไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็น หรือทราบเบาะแสเกี่ยวกับการบังคับ หรือปล่อยอากาศยานไร้นักบิน ที่อาจฝ่าฝืนประกาศดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วนความมั่นคง 1374 ตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ทบ. ยกระดับมาตรการต่อต้าน "โดรน" หลังพบมีความพยายามบินตรวจการณ์ที่ตั้งทางทหาร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สถานทูตสวีเดน แจงเอง ยืนยันยังไม่ระงับการขาย "กริพเพน" ให้ประเทศไทย
- กต.เตรียมประชุมทูตไทยในต่างแดน เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อประชาคมโลก
- กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ชายแดน ขอประชาชนช่วยแจ้งหากเห็นโดรนบินไม่ได้รับอนุญาต
- คณะทูตเห็นใจ-ดูของจริง กัมพูชาถล่มพลเรือน เยี่ยมศูนย์พักพิง-น้ำตาคลอยันสนับสนุนการกระทำไทย
- ทบ. ยกระดับมาตรการต่อต้าน "โดรน" หลังพบมีความพยายามบินตรวจการณ์ที่ตั้งทางทหาร
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath