กูรูเมืองนอก เตือน! 5 จุดสกปรกที่สุดในห้องพักโรงแรม ที่หลายคนอาจไม่เคยนึกถึง
ห้องพักในโรงแรมอาจดูสะอาดเอี่ยมเมื่อคุณเพิ่งเช็คอิน แต่ความจริงแล้วอาจซ่อนเชื้อแบคทีเรียและไวรัสในจุดที่คุณคาดไม่ถึง
นอกจากจุดที่หลายคนคาดไว้ เช่น อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์แล้ว จุดที่เราสัมผัสบ่อยอย่างรีโมตและสวิตช์ไฟก็พบว่ามีเชื้อโรคสะสมอยู่มาก ตามรายงานจากหลายงานวิจัย
งานศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮูสตันพบว่า ห้องพักโรงแรมบางแห่งมีปริมาณแบคทีเรียมากกว่าที่อนุญาตในโรงพยาบาลถึง 10 เท่า โดยพบเชื้อจากอุจจาระด้วย
เอนซา ลาเตร์เรเนีย หัวหน้าฝ่ายแม่บ้านจากโรงแรมแห่งหนึ่งในอิตาลี เผยกับ Travel & Leisure ว่า พนักงานทำความสะอาดมักใช้เวลาเพียง 30 นาทีต่อห้อง และอาจละเลยการเช็ดทำความสะอาดของตกแต่งบางอย่างไปเลย
นี่คือรายชื่อจุดที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคซึ่งผู้เชี่ยวชาญเตือนให้ระวัง พร้อมคำแนะนำที่ควรปฏิบัติทันทีเมื่อคุณเข้าพักในโรงแรม
5 จุดสกปรกที่สุดในห้องพักโรงแรม
ของตกแต่ง
“ตอนที่ฉันทำงานในโรงแรม สิ่งแรกที่ฉันมักจะโยนไปไว้มุมห้องไกล ๆ คือหมอนตกแต่งและผ้าปูปลายเตียง” มาเรีย ดีเอโก้ ที่ปรึกษาด้านการเดินทางจากซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวกับนิตยสารท่องเที่ยว
“พวกนี้ไม่เคยถูกซักทำความสะอาดเลย”
ผ้าปูที่นอนแบบผ้าหุ้มผ้านวมก็เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้เช่นกัน
“โรงแรมส่วนใหญ่จะไม่ซักผ้าหุ้มผ้านวมใหญ่ พวกเขาจะซักแค่ผ้าปูที่นอนเท่านั้น” พนักงานโรงแรมเก่าคนหนึ่งเคยเขียนใน Reddit เมื่อปีที่แล้ว
พื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อย
ดีเอโก้กล่าวว่า เธอก็ระมัดระวังเป็นพิเศษกับสวิตช์ รีโมต โทรศัพท์ และจุดสัมผัสสำคัญอื่น ๆ
รานี ชีมา ที่ปรึกษาการเดินทางจากลอสแองเจลิส บอกว่าโทรศัพท์ในห้องพักโรงแรมนั้นทำให้เธอรู้สึกขยะแขยงที่สุด
“ฉันรู้สึกแย่มากกับตัวโทรศัพท์ ไม่มีใครทำความสะอาดมันเลย” ชีมากล่าว
พรมก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งสะสมเชื้อโรค
โดยตามคำกล่าวของชีมา โรงแรมหรูหลายแห่งเริ่มเปลี่ยนจากการใช้พรมมาเป็นพื้นแข็งหรือพรมขนาดเล็กแทน
Max Vakhtbovycn
อ่างอาบน้ำ
งานวิจัยพบว่าห้องน้ำในโรงแรมสกปรกยิ่งกว่าบนเครื่องบิน โดยเฉพาะบริเวณเคาน์เตอร์
แต่ที่น่าตกใจกว่าคือ อ่างอาบน้ำยังเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคมากมาย พบว่ามีแบคทีเรียสูงกว่าฝารองนั่งโถส้วมถึง 40 เท่า ตามการสำรวจของ WaterFilterGuru.com ในปี 2023
“ฉันก็ไม่เคยแช่อ่างในโรงแรมเลย เว้นแต่ว่าเป็นโรงแรมห้าดาวสุดหรู และอ่างนั้นต้องไม่ใช่อ่างที่มีระบบเจ็ตน้ำ” มาเรีย ดีเอโก้กล่าว
เพราะอ่างที่มีระบบเจ็ตน้ำสามารถกักเก็บแบคทีเรียได้มากกว่า และมักไม่ได้รับการฆ่าเชื้ออย่างทั่วถึงตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
จุดที่มักถูกมองข้ามและเข้าถึงยาก
ตามคำบอกของลาเตอเรเนียจากโรงแรม Canne Bianche Lifestyle จุดอย่างพัดลมเพดาน ราวม่าน ฝักบัว และบริเวณอื่นๆ มักถูกละเลยไม่ทำความสะอาด
ลาเดลล์ คาร์เตอร์ ผู้ก่อตั้ง Royal Expression Travels จากรัฐแมริแลนด์ บอกว่าเธอมักสังเกตสัญญาณเตือนอื่น ๆ
“เมื่อเข้าไปในห้องแล้วพบพอร์ตชาร์จที่เต็มไปด้วยฝุ่นข้างเตียง หรือโคมไฟข้างเตียงที่มีคราบเกาะอยู่ มันบอกฉันว่า แม้จะทำความสะอาดเบื้องต้น แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นั้นถูกมองข้ามไป” คาร์เตอร์เผยกับ Fox News Digital
แก้วน้ำและถังใส่น้ำแข็ง
จากรายงานพบว่าพนักงานทำความสะอาดมักเช็ดแก้วน้ำระหว่างที่แขกพัก ไม่ได้เปลี่ยนแก้วใหม่
“ส่วนตัวแล้ว ฉันไม่เคยใช้แก้วหรืถ้วยในห้องโดยไม่ล้างทำความสะอาดก่อน” คาร์เตอร์กล่าว
“โดยปกติฉันจะต้มน้ำในกาต้มน้ำแล้วล้างแก้วแต่ละใบอย่างละเอียดก่อนใช้”
“ไม่ใช่เรื่องความกลัว แต่เป็นเรื่องของนิสัยที่ดี” เธอกล่าวเสริม
ถังใส่น้ำแข็งก็อาจกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อถัดไปได้
ในเหตุการณ์การระบาดของไวรัสโนโรที่โรงแรมแห่งหนึ่ง แขกบางคนอาเจียนลงในถังน้ำแข็ง ซึ่งส่งผลให้เชื้อแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ไบรอัน แลบัส อาจารย์ร่วมด้านระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยเนวาดา ลาสเวกัส กล่าวกับ Travel and Leisure เมื่อปีที่ผ่านมา
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ถังน้ำแข็งควรมีถุงรองเพื่อความสะอาดปลอดภัย
หากไม่สะดวก ควรพกแก้วน้ำและกระติกน้ำแข็งเล็กๆ ไปเอง
หากรู้สึกว่าสิ่งใดในห้องผิดปกติ อย่าลังเลที่จะแจ้งพนักงานที่แผนกต้อนรับ ตามคำแนะนำของคาร์เตอร์
พนักงานจะจัดให้ทำความสะอาดห้องใหม่ หรือย้ายคุณไปยังห้องพักอื่นทันที