รัฐมนตรีพาณิชย์ กางแผน แก้สินค้าเกษตรตกต่ำ - ปราบนอมินี - รับมือภาษีทรัมป์ | TNN ช่อง16

เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รมว.พาณิชย์ กางแผน แก้สินค้าเกษตรตกต่ำ ปราบนอมินี - รับมือภาษีทรัมป์

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าในเรื่องการเดินหน้าเรื่องการเจราภาษีกับสหรัฐนั้นขณะนี้คงต้องรอความคืบหน้าและผลของการเจรจาที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจา ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจาเรื่องนี้ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนกรณีที่ประเทศเวียดนามได้บรรลุการเจรจาภาษีกับทางสหรัฐฯแล้ว โดยถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้าที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯอยู่ที่อัตรา 20% และมีเงื่อนไข คือ ยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯเหลือที่อัตรา 0% อยู่ด้วย ดังนั้นประเทศไทยเองก็ต้องรอดูเงื่อนไขของเราก่อนว่าจะมีข้อได้เปรียบหรือเสียเปรียบเมื่อเทียบเวียดนามอย่างไรบ้าง

ขณะที่การทำงานและการแบ่งงานของกระทรวงนั้น เมื่อถามว่าในฐานะรัฐมนตรีว่าการจะกำกับดูแลกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเองหรือไม่ นายจตุพร ระบุว่าขณะนี้ยังไม่ได้หารือกันในส่วนนี้ แต่ทุกอย่างนั้นเดินหน้าตามนโยบายที่รัฐบาลวางไว้ไม่มีปัญหา

ส่วนการแก้ปัญหาสินค้าสวมสิทธิ์เพื่อส่งออกจากประเทศไทยที่ตอนนี้กำลังถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษจากสหรัฐฯ นายจตุพรกล่าวว่าในเรื่องนี้ได้มอบหมายให้นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นคนที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ เป็นประธานในการแก้ปัญหาเรื่องนี้และการปราบปรามธุรกิจนอมินี ซึ่งก็จะทำงานอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรราคาตกต่ำ มองว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ต้องทำงานร่วมกันกับกระทรวงต่างๆ โดยจะนัดหมายรัฐมนตรีว่าการการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาหารือกันเพราะเรื่องการแก้ปัญหามีทั้งเรื่องต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์นับเป็นปลายน้ำที่จะเอาไปขาย ดังนั้นต้องแก้ปัญหาไปด้วยกัน

พร้อมย้ำว่าการทำงานวันนี้ต้องไม่มีพรมแดน ต้องช่วยกันทั้งหมด โดยในช่วง 2 – 3 วันนี้ตนจะเดินทางไปยังต่างจังหวัดเพื่อดูแนวทางการแก้ปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำ เพื่อวางแผนการแก้ปัญหา และในสัปดาห์หน้าจะเข้ากระทรวง

เมื่อถามว่านโยบายที่จะดำเนินการเป็นพิเศษนั้นรัฐมนตรีพาณิชย์ระบุว่า ในวันนี้ต้องเน้นในเรื่องของนโยบายช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย

ตรงนี้สำคัญที่สุดโดยจะมีการนำเอาภาคเอกชนมาจับคู่ธุรกิจมาช่วยกันรับซื้อสินค้า ทั้งนี้มองว่าประเทศไทยนั้นมีโอกาสใหม่ในเรื่องของตลาดสินค้า การเจรจาการค้า และการทำ FTA ซึ่งในส่วนนี้กำลังดูอยู่ ที่ต้องทำควบคู่ไปหลายอย่าง ซึ่งงานทุกอย่างเป็นความท้าทายแต่ก็พร้อมที่จะทำเต็มที่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง