‘ตำรวจไซเบอร์’ ส่งสำนวน ‘คลิปเสียงฮุน เซน’ ให้อัยการสูงสุดพิจารณา
"ตำรวจไซเบอร์" ส่งสำนวน "คลิปเสียงฮุน เซน"ให้อัยการสูงสุดพิจารณา ยันมีผู้ร่วมกระทำผิดมากกว่า 1 คน จ่อออกหมายจับอินเตอร์โพล
วันนี้ (14 ก.ต.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (ผบก.สอท.1) นำสำนวนการสอบสวนคดี “คลิปเสียงนายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา จำนวน 50 หน้า รวม 1 แฟ้ม ให้อัยการสูงสุดพิจารณา พร้อมมีความสมควรสั่งฟ้องนายฮุน เซน ต่อศาลอาญา โดยมีนายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้รับสำนวน
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า กรณีที่นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีกับผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ "Samdech Hun Sen of Cambodia" ซึ่งมีการเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม กับ สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา โดยเห็นว่าอาจเข้าข่ายเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร และความผิดอาญาอื่นที่เกี่ยวข้อง
ต่อมาคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนของ บก.สอท.1 ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในเบื้องต้น พบว่า พฤติการณ์ในคดีดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดที่ได้กระทำนอกราชอาณาจักรไทย ซึ่งตามบทบัญญัติของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 กำหนดให้อัยการสูงสุดเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ หลังการสอบสวนแล้วเสร็จทางคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน บก.สอท.1 จึงได้นำสำนวนการสอบสวนพร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องส่งให้อัยการสูงสุดเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 กำหนดให้อัยการสูงสุดมีอำนาจมอบหมายให้พนักงานอัยการ หรือพนักงานสอบสวนรายใดดำเนินการสอบสวนแทนได้ ทั้งนี้เป็นดุลพินิจของท่านอัยการสูงสุดในการพิจารณาดำเนินการ
สำหรับผู้กระทำความผิดนั้นเป็นแอดมินเพจจำนวนมากกว่า 1 คน ส่วนสมเด็จฮุนเซนฯเป็นผู้กระทำผิดร่วมด้วยหรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่อยู่ในสำนวนการสอบสวน
สำหรับสำนวนคดี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และอดีต ผบ.ตร. ยื่นเรื่องให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เกี่ยวกับเรื่องการสั่งฆ่านักการเมืองพรรคฝ่ายค้านของกัมพูชา จะแบ่งการสอบสวนไปอีกจำนวนหนึ่ง
ด้านนายศักดิ์เกษมกล่าวว่า ในส่วนขั้นตอนของอัยการสูงสุด หลังจากรับสำนวนแล้วอัยการสูงสุดจะส่งสำนวนให้สำนักงานอัยการสอบสวน เพื่อพิจารณาสำนวนคดีว่า ความผิดนี้เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 20 เป็นความผิดนอกราชอาณาจักรหรือไม่ หากเห็นว่าเป็นความผิดนอกราชอาณาจักร สำนักงานอัยการการสอบสวนจะส่งความเห็นให้อัยการสูงสุด ในฐานะเป็นพนักงานสอบสวนคดีนอกจากราชอาณาจักรตามกฎหมาย หรือให้อัยการสูงสุดมอบหมายให้ตั้งพนักงานสอบสวนคนใดคนหนึ่ง หรือพนักงานอัยการเข้าร่วมสอบสวน ซึ่งหลังการสอบสวนจัดส่งสำนวนกลับมาให้อัยการสูงสุดพิจารณาว่าคดีมีมูลพอฟ้องหรือไม่ หากคดีมีมูลพอฟ้องจะยื่นฟ้องต่อศาลอาญา จากนั้นหากจำเลยไม่มาปรากฏตัวที่ศาลจะต้องมีการขอออกหมายจับจากอินเตอร์โพลตามขั้นตอนต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 'ภูมิธรรม' ปัด 'ทักษิณ' ครอบงำ 'อุ๊งอิ๊ง' ลั่นอดีตนายกฯ เป็นผู้เชี่ยวชาญ รู้หลายเรื่อง
- นายห้างประจักษ์ชัย คอนเฟิร์ม! คิวงาน ลำไย ไหทองคำ ยังแน่นยาว
- เตือนภัย นายหน้าเถื่อน หลอกทำงานแคนาดา เก็บเงิน 5 หมื่น-2 แสน ปิดบริษัทหนี
ติดตามเราได้ที่