"ไอติม พริษฐ์" เสนอไอเดีย ลดภาระงานครูให้ตรงจุด เริ่มต้นที่การตัดงบฯ โครงการไม่จำเป็น
วันที่ 15 ก.ค.68 "ไอติม" พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก พริษฐ์ วัชรสินธุ - ไอติม - Parit Wacharasindhu ระบุว่า…
[ ลดภาระงานครูให้ตรงจุด เริ่มที่การตัดงบโครงการ-กิจกรรมที่ไม่จำเป็น ออกจาก งบ 69 ในที่ประชุมสัปดาห์นี้ ]
ผมเห็นข่าวที่ รมว. ศึกษาธิการ กำลังเตรียมดึงครูที่เกินเกณฑ์จากโรงเรียนขนาดเล็กไปทำงานด้านธุรการเพื่อหวังลดภาระงานครู แล้วมีทั้งข้อสงสัยและข้อกังวลว่าแนวทางดังกล่าว อาจเป็นการ “แก้ปัญหาไม่ตรงจุด”
1. ผมเชื่อว่าเราทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าเราต้องเร่งลดภาระงานครูที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน เพื่อคืนครูให้ห้องเรียน และคืนคุณค่าให้วิชาชีพครู ซึ่งล้วนจะส่งผลบวกต่อผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา
2. อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอของ รมว. ในการเกลี่ยครูที่เกินเกณฑ์จากโรงเรียนขนาดเล็ก ให้ไปทำหน้าที่ธุรการ-การเงิน-พัสดุแทน (ตามรายละเอียดเท่าที่ปรากฏในบทสัมภาษณ์) ไม่น่าจะเป็นแนวทางการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพที่สุด
2.1. หากข้อเสนอของ รมว. หมายถึงการรอให้ครูที่เกินเกณฑ์จากโรงเรียนขนาดเล็กเกษียณอายุ เพื่อนำอัตราและงบประมาณสำหรับตำแหน่งดังกล่าว ไปเปิดรับพนักงานธุรการแทนที่จะเปิดรับครู (ซึ่งเป็นการตีความบทสัมภาษณ์ รมว. ในแง่ดี) ผมเห็นว่าแม้แนวทางดังกล่าวอาจแก้ปัญหาในอนาคตได้บ้าง แต่จะไม่สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันท่วงที
2.2. แต่หากข้อเสนอของ รมว. หมายถึงการดึงครูที่เกินเกณฑ์จากโรงเรียนขนาดเล็ก ไปทำหน้าที่เป็นพนักงานธุรการตามสถานศึกษาตั้งแต่วันนี้ (ซึ่งดูสอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของ รมว.มากกว่า) ผมเห็นว่าแนวทางดังกล่าว ไม่น่าจะเป็นการแก้ปัญหา แต่อาจจะเป็นการซ้ำเติมปัญหาเพราะแนวทางนี้เป็นการบั่นทอนการทำงานของครูที่ถูกโยกให้ไปทำงานธุรการแทน เพราะเป็นการบังคับให้เขาต้องไปทำงานที่เขาไม่ได้สมัครเข้ามาทำ และไม่ตรงกับทักษะที่เขาได้เล่าเรียนหรือพัฒนาสะสมมา
3. แม้โดยหลักการแล้ว แนวคิดเรื่องการเพิ่มอัตราของพนักงานธุรการ (โดยคนที่สมัครเป็นพนักงานธุรการจริงๆ) อาจเป็นวิธีการหนึ่งในการลดภาระงานครูได้ แต่คำถามที่เราต้องถามลึกลงไปกว่านั้น คือครูจำเป็นต้องมีภาระงานมากขนาดที่เป็นอยู่ตั้งแต่แรกหรือไม่ - นอกจากงานธุรการ-การเงิน-พัสดุ งานอีกประเภทหนึ่งที่เพิ่มภาระงานครูโดยไม่จำเป็น คือโครงการหรือกิจกรรมต่างๆที่สถานศึกษาถูก “ขอความร่วมมือ” ให้ต้องทำ และทำให้ครูต้องใช้เวลาไปกับทั้งการจัดกิจกรรมที่อาจไม่ก่อประโยชน์สูงสุดให้ผู้เรียน รวมถึงการเขียนรายงานและกรอกข้อมูลยิบย่อยเพื่อส่งกลับไปที่หน่วยงานต้นเรื่อง
4. ดังนั้น หาก รมว. เอาจริงกับการยกเลิกหรือปรับลดโครงการและกิจกรรมลักษณะนี้ ท่าน รมว. จะไม่เพียงแต่ลดภาระงานครูได้จริงและโดยเร็ว แต่ท่านยังจะได้ประหยัดงบประมาณที่ไม่จำเป็นจากโครงการดังกล่าว เพื่อนำงบไปใช้กับภารกิจที่เป็นประโยชน์กับผู้เรียนกว่า
5. จึงเป็นจังหวะที่ประจวบเหมาะพอดีที่สัปดาห์นี้ หน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการ จะเรียงคิวเข้ามาชี้แจงในที่ประชุม อนุฯ กมธ. งบ 69 เพื่อของบประมาณไปดำเนินโครงการและกิจกรรมดังกล่าว (เช่น การประเมิน ITA ของสถานศึกษา / โรงเรียนสีขาว) - หากท่าน รมว. เห็นว่าโครงการไหนสามารถยกเลิกหรือปรับลดได้ ก็หวังว่าท่านจะขอความร่วมมือจาก สส. พรรคท่าน และ สส. รัฐบาล มาร่วมกันตัดงบประมาณดังกล่าว เพื่อร่วมกันคืนครูให้ห้องเรียน และคืนภาษีให้ประชาชน ไปพร้อมๆกันครับ