โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ส่อง 8 สินทรัพย์ยอดฮิต หุ้นไทยลบหนักสุด 11% จากต้นปี ตลาดหุ้นเวียดนาม - ทองคำ บวกเกิน 30%

Thairath Money

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ภาพไฮไลต์

ผ่านมาแล้ว 8 เดือนเต็มสำหรับปี 2568 ภาพรวมการลงทุนทั่วโลกยังคงเต็มไปด้วยความผันผวน โดยสินทรัพย์ที่โดดเด่นที่สุดคือ หุ้นเวียดนาม และ ทองคำ ที่สร้างผลตอบแทนทะยานขึ้นกว่า 30% นับจากต้นปี

สวนทางกับสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ เช่น ราคาน้ำมัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดหุ้นไทย ที่ยังคงจมอยู่ในแดนลบอย่างหนัก สะท้อนภาพความเปราะบางและความไม่แน่นอนที่นักลงทุนต้องเผชิญ

สำหรับตลาดหุ้นไทย ปัจจัยกดดันหลักยังคงหนีไม่พ้น "ประเด็นการเมืองในประเทศ" ที่ยังไร้ความชัดเจน หลังเกิดการเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรี สถานการณ์สุญญากาศทางการเมืองได้บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง

ประกอบกับความผันผวนจากปัจจัยต่างประเทศที่ซ้ำเติมเข้ามา ทำให้นักวิเคราะห์ต่างมองตรงกันว่า ทิศทางของ SET Index ในระยะต่อไปจะขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เป็นสำคัญ

Thairath Money พาส่องผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 2568 ของ 8 สินทรัพย์การลงทุนยอดนิยม พร้อมเปิดมุมมองนักวิเคราะห์ ตลาดหุ้นไทย เอายังไงต่อดี ?

ภาพรวมผลตอบแทน 8 สินทรัพย์ยอดนิยม

ข้อมูลภาพรวมผลตอบแทนของสินทรัพย์ จาก Finnomena ชี้ให้เห็นว่า "หุ้นเวียดนาม" กลายเป็นดาวเด่นที่สร้างผลตอบแทนสูงสุด โดยดัชนี VN Index ที่พุ่งทะยานกว่า +32.8% นับจากต้นปี (YTD) สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุน

ในทางกลับกัน "ตลาดหุ้นไทย" กลับให้ผลตอบแทนน่าผิดหวัง โดยดัชนี SET Index ปรับตัวลดลงหนักที่สุดถึง -11.7% (YTD) กดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศที่ไร้เสถียรภาพ ขณะที่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่าง "ทองคำ" ยังคงเป็นที่พักเงินชั้นดี โดยให้ผลตอบแทน 31.4% ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่รออยู่ข้างหน้า

ผลตอบแทน 8 สินทรัพย์ยอดนิยม นับตั้งแต่ต้นปี 2568 (ข้อมูล ณ 31 ส.ค. 68) มีดังนี้

  • หุ้นเวียดนาม +32.8%
  • ทองคำ +31.4%
  • หุ้นตลาดเกิดใหม่ +17.0%
  • ดัชนี S&P 500 +13.1%
  • หุ้นตลาดพัฒนาแล้ว +12.7%
  • หุ้นญี่ปุ่น +7.1%
  • ดอลลาร์สหรัฐฯ -7.5%
  • ราคาน้ำมัน -10.8%
  • หุ้นไทย -11.7%

หุ้นไทยดิ่งเหว การเมืองในประเทศเคว้ง-ต่างประเทศซ้ำเติม

ปัจจัยกดดันหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังไม่ฟื้นตัว มาจากทั้งประเด็นความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ ประกอบกับความผันผวนจากปัจจัยต่างประเทศที่นักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการค้าโลกอีกครั้ง

อย่างไรก็ดี มุมมองจากนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ต่างสอดคล้องกันว่า สถานการณ์การเมืองไทยคือตัวแปรสำคัญที่สุดที่จะกำหนดทิศทางของดัชนี SET Index ในระยะต่อไป

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ชี้ว่า แม้ข่าวที่ศาลอุทธรณ์รัฐบาลกลางสหรัฐฯ พิพากษาว่ามาตรการภาษีของทรัมป์เป็นสิ่งผิดกฎหมาย จะเป็นผลดีในระยะยาวหากมีการยกเลิกจริง แต่ในระยะสั้นกลับสร้าง "ความไม่แน่นอน" ให้กับตลาด

เนื่องจากคำตัดสินจะยังไม่มีผลบังคับใช้ทันทีเพื่อเปิดทางให้รัฐบาลยื่นอุทธรณ์ต่อไป ประเด็นนี้ซ้ำเติมความกังวลเดิมที่มีเรื่องแรงกดดันทางการเมืองต่อธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อยู่แล้ว ส่งผลให้ ดอลลาร์สหรัฐฯ และทองคำ อาจปรับตัวขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) จนกว่าตลาดจะคลายความกังวลลง

สำหรับปัจจัยในประเทศ มองว่าการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในสัปดาห์นี้ (คาดการณ์ 3-5 ก.ย.) หลังจากที่คุณแพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่ง จะเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยมากที่สุด ซึ่งผลลัพธ์อาจเป็นได้ทั้งบวกและลบ

แม้ตลาดจะรับรู้ข่าวการพ้นตำแหน่งของนายกฯ มาบ้างแล้ว แต่ความไม่ชัดเจนว่าใครจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำคนต่อไป จะทำให้ดัชนีฯ ผันผวนอย่างหนัก โดยให้กรอบการเคลื่อนไหวก่อนทราบผลไว้ที่ 1,200-1,250 จุด

กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ แนะ "ลดความเสี่ยง" และรอความชัดเจนทางการเมือง โดยมองว่าหากคุณอนุทิน ชาญวีรกูล ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือหากมีการส่งสัญญาณยุบสภาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า อาจกลบปัจจัยบวกจากการมีนายกฯ คนใหม่ไปทั้งหมด ล่าสุดได้ปรับพอร์ตโดยนำหุ้น DELTA, MTC, GLOBAL และ ADVANC ออก คงเหลือเพียง GULF และ SCB

ด้านฝ่ายวิจัยฯ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด วิเคราะห์ว่า "จุดเปลี่ยนทางการเมืองไทย" คือตัวกำหนดทิศทาง SET Index อย่างแท้จริง หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติถอดถอนคุณแพทองธาร ชินวัตร และคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ นำมาสู่สุญญากาศทางการเมืองที่ทุกฝ่ายกำลังพยายามหาทางออกเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่

สถานการณ์ปัจจุบันยังคงมีความผันผวนสูง การเร่งจัดตั้งรัฐบาลใหม่ให้ได้โดยเร็วที่สุดจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพและผลักดันการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2569 ให้เดินหน้าต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม การหาข้อสรุปยังเป็นไปได้ยากและอาจนำไปสู่การยุบสภาในอนาคตอันใกล้

บล.เอเซีย พลัส เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยมีโอกาสผันผวนในระยะสั้น แต่หากการเมืองมีทิศทางที่ชัดเจนขึ้น ก็มีโอกาสที่ตลาดจะฟื้นตัวได้ดี โดยอ้างอิงข้อมูลในอดีตเมื่อ 2 ปีก่อน ตอนที่มีการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี ดัชนีฯ สามารถปรับตัวขึ้นได้เฉลี่ยถึง 10% ในช่วง 2 เดือนถัดมา พร้อมให้มุมมองหุ้นที่อาจได้รับ Sentiment เชิงบวกตามขั้วการเมือง ดังนี้

  • หากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต่อ: แนะนำ BTS, BEM, ADVANC, SC, SIRI
  • หากพรรคภูมิใจไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล: แนะนำ STECON, STPI

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่ตลาดยังผันผวน แนะนำให้เลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ได้แก่ หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง (MTC, SPALI), หุ้นที่ได้ประโยชน์จากประเด็นภาษี (CPF)

รวมถึงการกระจายความเสี่ยงไปยัง ตลาดต่างประเทศ หรือ DR โดยยกตัวอย่าง AAPL80 เพื่อรอรับกระแสเปิดตัว iPhone 17 และ SANOFI80 ซึ่งเป็นหุ้นที่มีความผันผวนต่ำ ตอบโจทย์สภาวะตลาดที่มักจะปรับฐานในเดือนกันยายน

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

https://www.facebook.com/ThairathMoney

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ส่อง 8 สินทรัพย์ยอดฮิต หุ้นไทยลบหนักสุด 11% จากต้นปี ตลาดหุ้นเวียดนาม - ทองคำ บวกเกิน 30%

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thairath Money

คนสูงวัยในไทยยังทำงานต่อเพราะรายได้น้อย รายจ่ายเยอะ ธปท. แนะออม - ลงทุนตั้งแต่อายุน้อยเป็นเรื่องดี

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

หุ้น Alibaba พุ่งสูงสุดในรอบ 3 ปี AI เครื่องจักรทำเงินใหม่ เสริมจักรวาลอีคอมเมิร์ซ กางแผนซุ่มทำชิป

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

Deviled Egg Co.เปลี่ยนเมนูไข่ธรรมดาสู่อาหารระดับกูร์เมต์ สร้างรายได้กว่า 40 ล้านบาท

SMART SME

สนามบินอู่ตะเภา ติดหล่มรัฐบาลล่ม ขีดเส้นตาย 1 เดือน หากตกลงไม่ได้ จ่อเลิกสัญญา

ฐานเศรษฐกิจ

อสังหามอง 'ยุบสภา' ทางออกวิกฤตการเมือง รีเซตศก. ห่วงแก้หนี้บ้าน 5 ล้านล้านสะดุด

MATICHON ONLINE

“บางกอกแอร์เวย์ส” ทุ่ม 7 พันล้าน ซื้อเครื่องบินใหม่ 10 ลำ ปลายปีซื้ออีก 20 ลำ คาดสิ้นปีผู้โดยสาร 4.3 ล้านคน

เดลินิวส์

'จตุพร' กำชับข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่องเพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชน

VoiceTV

ดอยซ์แบงก์-สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปล่อยกู้บ.STI โครงการดาวเทียมไทยคม 10 มูลค่า 184 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Manager Online

บางกอกแอร์เวย์ส ทุ่ม 400 ล้านบาท ขยายสนามบินตราด สร้างลานจอด- ขยายรันเวย์

MATICHON ONLINE

เช็กไทม์ไลน์ โอนเงินไร่ละพัน 1-4 ก.ย.นี้ วงเงินรวม 20,580 ล้านบาท!

PPTV HD 36

ข่าวและบทความยอดนิยม

ราคาทองวันนี้ 25 สิงหาคม 2568 ล่าสุด ราคาปรับลดลง 50 บาท ราคาทองรูปพรรณ บาทละ 52,400 บาท

Thairath Money

ราคาทองวันนี้ 27 สิงหาคม 2568 ล่าสุด ราคาปรับเพิ่ม 200 บาท ราคาทองรูปพรรณ บาทละ 52,850 บาท

Thairath Money

ราคาทองวันนี้ล่าสุด 22 สิงหาคม 2568 ปรับเพิ่ม 50 บาท ราคาทองรูปพรรณ บาทละ 52,350 บาท

Thairath Money
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...