ปชน.ลังเลโหวตให้ใคร หวั่นหักหลังผิดสัญญา มองกดดันยุบสภาทางเลือกดีที่สุด
สำหรับการนัดเปิดประชุมสภา เพื่อเลือกนายกฯ คนใหม่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เมื่อพิจารณาตามข่าวที่ออกมาว่าพรรคประชาชน ( ปชน.) จะประชุมตัดสินใจในวันที่ 1 ก.ย. ช่วงบ่าย ส่วนตัวจึงคิดว่าโหวตวันที่ 3 ก.ย. 2568 ไม่น่าจะทัน เนื่องจากหากจะมีการโหวตเลือกนายกฯ จะต้องแจ้ง สส. ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน ดังนั้น จะเหลือวันที่ 4 - 5 ก.ย. 2568 ที่เป็นไปได้จะโหวตเลือกนายกฯ
นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 กล่าวว่า ถ้าเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย สภาฯ ก็ไม่มีความมั่นคง การบริหารราชการแผ่นดินก็จะไปไม่รอด ต้องรอพรรค ปชน.ซึ่งเป็นพรรคที่ให้คะแนนกับกลุ่มรัฐบาล ตอนนี้ทุกฝ่ายก็เสียงข้างน้อยอยู่แล้ว เพราะแยกขั้วกันอย่างชัดเจนเสียงก้ำกึ่งกัน ไม่มีฝั่งไหนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่ง
ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรค ปชน. ตั้งแต่เวลา 13.00 น. จะมีการประชุมนัดพิเศษของ สส.ปชน. เพื่อกำหนดทิศทางโหวตเลือกนายกฯ คนใหม่ แกนนำพรรคได้มีแนวทางตัดสินใจไว้เบื้องต้นแล้ว มีการประเมินฉากทัศน์ไว้คร่าว ๆ ว่า หากสนับสนุนพรรคใดพรรคหนึ่งเป็นรัฐบาลแล้ว ต่อไปพรรคเพื่อไทย หรือพรรคภูมิใจไทย อาจเติมเสียงเพิ่มเติมด้วยการดูด สส.เข้าไป จนทำให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก และจะเบี้ยวเงื่อนไขของ ปชน. ทำให้พรรค ปชน.ต้องตกที่นั่งลำบาก และเสียภาพลักษณ์จากประชาชน ดังนั้นการกดดันให้นำไปสู่การยุบสภา ณ เวลานี้เลยน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด พรรคจะรอการประชุมของวิปฝ่ายค้าน และวิปรัฐบาล วันที่ 1-2 ก.ย. 2568 เพื่อดูวาระการโหวตเลือกนายกฯคนใหม่ หลังจากนั้นจึงตัดสินใจทิศทางในการสนับสนุน หรือไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใด
วันที่ 31 ส.ค. เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์รูปภาพนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมข้อความเป็นประวัตินายชัยเกษม ซึ่งเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ว่า “ไม่ต้องห่วงเรื่องความพร้อม ผมพร้อมทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมือง ไม่มีปัญหา”
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่ว่าพรรค ปชน.จะเลือกข้างไหนรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นก็จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าพรรค ปชน.ไม่รับเงื่อนไขจะยุบสภาฯหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า การยุบสภาฯเป็นอำนาจของนายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ที่จะเสนอความเห็นขึ้นทูลเกล้าฯ ยังต้องพิจารณาว่าจะทำหรือไม่ทำอย่างไร พรรคเพื่อไทยจะพูดคุยในประเด็นนี้ในที่ประชุมพรรควันที่ 2 ก.ย.
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า การยุบสภาถือเป็นทางออกทางหนึ่ง เพื่อไม่ให้บ้านเมืองเกิดทางตัน สมมุติเกิดกรณีพรรค ปชน.ไม่ตัดสินใจร่วมมือกับพรรคใดเลย บ้านเมืองจะไปอย่างไรต่อ ทางออกเรื่องการยุบสภาก็มีคนวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่าสามารถทำได้และทำไม่ได้ มันเกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญด้วย ในอนาคตคงจะต้องมีความชัดเจนในประเด็นนี้ ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถ้ายุบสภาแล้วมีคนไปร้องต่อศาลจะทำอย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า “มันก็พูดยาก ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่มันก็สามารถเกิดขึ้นได้และเกิดขึ้นแล้ว”
นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพูดคุยกับพรรค ปชน. เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ว่า เห็นแกนนำพรรค ปชน.หลายคนพูดว่าหัวใจสำคัญของการตัดสินใจเรื่องนี้ อยู่ที่การจะดูว่าใครจะอยู่ในความควบคุมได้มากที่สุด แต่มองว่าไม่น่าจะเป็นการควบคุม อยู่ที่ว่าสิ่งที่เขาเสนอสามารถเป็นไปตามข้อตกลงได้หรือไม่ ดูเหมือนเขาจะสนใจพรรคภูมิใจไทย การพิจารณาไม่ใช่เรื่องของการควบคุมได้
แต่สิ่งสำคัญคือการที่จะปล่อยให้พรรคภูมิใจไทยมาเป็นหัวหน้ารัฐบาล ในเวลาอีก 4 เดือน ก่อนจะมีการเลือกตั้ง คือเขากระโดงจะกลับไปเป็นแบบเดิมหรือไม่ ในการตีความของพรรคภูมิใจไทย เพราะขณะนี้อยู่ในกระบวนการที่จะนำที่ของหลวงกลับมาในช่วงสิ้นเดือนนี้ เช่นเดียวกับเรื่องการฮั้ว สว. ที่กำลังเข้าสู่การเปิดประเด็นจับกุม ซึ่งขณะนี้ติดอยู่ที่ กกต. ได้บอกไปว่า หากติดใจเรื่องนี้ ก็ไม่เป็นไรแต่ขออย่าให้มีกระบวนการแทรกแซง
อยากให้พิจารณาว่า เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญที่เป็นหัวใจสำคัญ ใครจะทำเต็มที่ได้มากกว่ากัน พรรคเพื่อไทยยืนยันในเรื่องนี้มาตลอด ในเรื่องการยกมือโหวตตรงกัน คือให้มีการตั้ง ส.ส.ร. จึงถามว่าใครคือผู้มีบทบาทในการควบคุม สว. หากให้พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะมีหลักประกันอะไรกับพรรค ปชน. พรรค ปชน.เองก็ไม่ได้เข้าไปเป็นรัฐมนตรี จะรอให้อภิปรายไม่ไว้วางใจตนคิดว่าไม่ทัน ถ้าพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลก็มีอำนาจในการยื่นเรื่องยุบสภา
กรณีที่โหวตแคนดิเดต ปชน.เป็นนายกฯ ไม่ได้ แล้วพรรคก้าวไกลตอนนั้นเคยขอเวลา 10 เดือน ( ให้ สว.ชุดเฉพาะกาลหมดวาระ แล้วโหวตนายกฯ ไม่ต้องใช้เสียง สว. ) เพื่อไทยประกาศไปชัดเจนตั้งแต่แรก ว่ารอการตัดสินใจไม่ได้ แต่วันนี้อยากจะร่วมมือกัน ลืมเรื่องเก่าๆ ขณะนี้ทุกคนยอมรับว่าปล่อยประเทศให้พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชนที่มีเสียงร่วม 360 เสียงเป็นฝ่ายค้านไม่ได้ ในขณะที่รัฐบาลมีเพียง 143 เสียง ไม่มีประเทศไหนมาเจรจาด้วย เพราะไม่มีความเชื่อมั่น
หากพรรค ปชน.ไม่ร่วมกับเรา ก็ยังไม่ตัดสินใจว่า จะเป็นฝ่ายค้านหรือยุบสภา ถ้าเขาเลือกพรรคภูมิใจไทยก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ ส่วนพรรคเพื่อไทยก็มีกระบวนการตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ที่จะต้องหาทางออกในหลายๆ ทางที่เป็นไปได้ ขอให้สถานการณ์ชัด ตอบให้ชัดว่าจะสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยหรือพรรคเพื่อไทย และมีข้อกังวลอะไรบอกมาให้ชัด และข้อกังวลนั้นจะหาทางป้องกันอย่างไร
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยคิดถึงว่าปลายทางจะไม่เป็นฝ่ายค้านใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “เปล่าครับ ยังไม่มีการตัดสินใจ มีแต่เพียงว่าอยากจะร่วมการตั้งรัฐบาล โดยให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ แล้วจะดำเนินการตามนั้น วาระแห่งชาติคือต้องเปลี่ยนแปลงสภาพการเมืองที่ผิดเพี้ยนแบบนี้ ให้มีการรีเซตใหม่คือต้องไปแก้รัฐธรรมนูญ อยากให้ตั้งรัฐบาลเร็วที่สุด เพราะหากปล่อยสภาพแบบนี้ไว้ก็เป็นรัฐบาลเป็ดง่อย
พรรค ปชน.ยังไม่เคยเลือกนายกฯจากนอกพรรค ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ถ้าจะประเดิมด้วยพรรคภูมิใจไทย ต้องมีหลักประกันว่าประเทศจะไม่เสียหาย ส่วนเพื่อไทยจะสร้างหลักประกันอะไรให้พรรค ปชน.มั่นใจ ก็เป็นสิ่งที่พรรค ปชน.ต้องถามมา ตอนนี้เขายังไม่ตอบว่า จะชัดเจนเมื่อไร เขาบอกว่า กลไกโครงสร้างในพรรคเยอะ ต้องถามจากส่วนต่างๆ ตนบอกว่าไม่เป็นไร ขอให้พรรค ปชน. ใช้เวลาให้เต็มที่ แต่เมื่อเสร็จแล้วให้แจ้งเราด้วย”
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวจากพรรคภูมิใจไทย ว่า ในพรรคยืนยันว่า ขณะนี้เสียงสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค เป็นนายกรัฐมนตรีเพียงพอจำนวน 138 เสียง ประกอบด้วย ภูมิใจไทย 69 เสียง กล้าธรรม 25 เสียง พลังประชารัฐ 18 เสียง รทสช. กลุ่มนายสุชาติ ชมกลิ่น 16 เสียง ประชาธิปัตย์ 2 เสียง ไทยสร้างไทย 3 เสียง พรรคเล็ก 4 เสียง และเป็นธรรม 1 เสียง หากรวมกับพรรค ปชน. 143 เสียง จะได้ 281 เสียง ซึ่งพรรคภูมิใจไทยจะพยายามควบคุมไม่ให้เสียงเกิน 290 เสียง เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์เดิมที่พรรค ปชน.และพรรคภูมิใจไทยสื่อสารกันว่า จะไม่ให้เสียงเกินความจำเป็น ไม่ให้กลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากตาม ปชน.กังวล
พรรค ปชน.เตรียมทำข้อตกลง สนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาล หรือ MOA ( memorandum of agreement ) ระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับพรรค ปชน. จะมีสาระสำคัญคือ การดำรงสถานะของการเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมย์เดิมที่พรรคภูมิใจไทยได้ให้คำมั่นกับพรรคประชาชนไว้ หากเป็นพรรคเพื่อไทยนั้นมีศักยภาพที่จะเติมเสียงเกินครึ่งของสภา แต่พรรคภูมิใจไทยไม่สามารถทำได้ จึงเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญ ที่ ปชน.จะโหวตให้นายอนุทิน ชาญวีรกูลเป็นนายกฯ
น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลังการประชุมพรรคว่า ได้หารือเรื่องการเตรียมความพร้อมเลือกตั้ง โดยให้คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครของพรรค เตรียมเสนอชื่อผู้สมัคร สส. ต่อคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ภายใน 15 วัน เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เราทุกคนทราบว่า ในอนาคตไม่ช้าก็เร็วต้องเลือกตั้งอยู่แล้ว นี่คือการเตรียมความพร้อมตามปกติ
ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรค ปชน.นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรค ปชน. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีตัวแทนพรรคเพื่อไทยระบุว่า หาก ปชน.ไม่ตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่งจะยุบสภาฯ ว่า พรรคเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องรอให้ ปชน.ตัดสินใจ สามารถดำเนินการตามที่ต้องการได้ เราเรียกร้องตั้งแต่วันคลิปหลุดให้ยุบสภา เพื่อให้มีรัฐบาลใหม่มีความชอบธรรมทางการเมือง แก้ปัญหาประเทศได้ ตั้งแต่วันนั้นเราเรียกร้องแล้ว เพียงแต่ผู้มีอำนาจ ณ เวลานั้น ไม่ตอบสนองข้อเรียกร้องดังกล่าว อำนาจการยุบสภาฯอยู่ที่รักษาการนายกฯ นายภูมิธรรม เวชยชัย ทำได้เลย ไม่ต้องรอให้ ปชน.ตัดสินใจ เหตุผลที่เราต้องประชุมด้วยความหนักใจในวันนี้ เพราะก่อนหน้านี้ไม่ยุบสภา.
"ทีมข่าวการเมือง"