บสย. จัดมาตรการ ‘กระบะ (มือสอง) พี่ มีคลังค้ำ’ หนุนเครื่องมือหากิน SMEs
บสย. เปิดตัวมาตรการ "กระบะ (มือสอง) พี่ มีคลังค้ำ" เตรียมวงเงินค้ำประกันสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ซื้อรถกระบะ เป็นเครื่องมือทำมาหากินง่ายขึ้น
นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า บสย. ได้ขยายความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการซื้อรถกระบะเชิงพาณิชย์ ในการประกอบอาชีพและทำธุรกิจ ล่าสุดได้เปิดตัวมาตรการ กระบะ (มือสอง) พี่ มีคลังค้ำ เบื้องต้นได้จัดเตรียมวงเงินค้ำประกันสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท โดยเริ่มดำเนินการระยะแรก 500 ล้านบาท
ทั้งนี้ เป็นการดำเนินการต่อยอดจากมาตรการค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถกระบะใหม่ กระบะพี่ มีคลังค้ำ ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือน มี.ค. 2568 ที่ผ่านมา เพื่อให้การช่วยเหลือ SMEs ครอบคลุมทั้งการซื้อรถกระบะใหม่ และรถกระบะมือสอง มุ่งช่วย SMEs รายย่อย กลุ่มเกษตรกร และธุรกิจขนส่งขนาดเล็ก ที่อาจมีรายได้ไม่สม่ำเสมอ สามารถเข้าถึงสินเชื่อซื้อรถกระบะได้ง่ายขึ้น
ตั้งเป้าว่าจากมาตรการนี้ จะช่วยปลดล็อกธุรกิจ ให้สามารถเดินหน้าต่อได้อย่างยั่งยืน ทั้งช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ซบเซาให้กลับมาคึกคัก ซึ่งจะส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในภาพรวม
ปัจจุบันตลาดรถกระบะมือสองมีมูลค่าประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท คิดเป็นประมาณ 3.8 หมื่นคัน ซึ่งหดตัวลงต่อเนื่อง ประกอบกับราคารถกระบะมือสองที่ปรับลงอย่างรวดเร็ว เป็นผลจากในปี 2566-2567 มีรถกระบะถูกยึดเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า ทำให้สถาบันการเงินเข้มงวดและระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ
อย่างไรก็ตาม ด้วยมาตรการดังกล่าวของ บสย. ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยชดเชยความเสี่ยง เพื่อจะสร้างความมั่นใจให้กับสถาบันการเงิน (ไฟแนนซ์) กล้าปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยคาดว่าจากมาตรการนี้ จะช่วยผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการซื้อรถกระบะมือสองเข้าถึงสินเชื่อได้กว่า 7,600 ราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบกว่า 3,400 ล้านบาท รักษาการจ้างงานกว่า 1.53 แสนตำแหน่ง และสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท
ขณะที่สัดส่วนการปล่อยสินเชื่อรถกระบะมือสอง 60% เป็นกลุ่ม Non Bank ที่เหลืออีก 40% เป็นกลุ่มสถาบันการเงินและบริษัทในเครือ
สำหรบจุดเด่นของมาตรการ กระบะ (มือสอง) พี่ มีคลังค้ำ จะช่วย SMEs ลดภาระทางการเงิน ด้วยสิทธิประโยชน์ ฟรี ค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 3 ปีแรก โดยรัฐบาล กระทรวงการคลังเป็นผู้ออกค่าธรรมเนียมค้ำประกันให้ และในส่วนปีที่ 4-7 คิดค่าธรรมเนียมค้ำประกันต่ำเพียง 1.5% ต่อปี ของภาระค้ำประกันในแต่ละปี
ตัวอย่างเช่นภาระสินเชื่อปีที่ 4 คงเหลือ 3 แสนบาท SMEs จะจ่ายค่าธรรมเนียมค้ำประกันเพียง 4,500 บาทเท่านั้น พร้อมค้ำประกันนานสูงสุด 7 ปี หรือ 84 งวด วงเงินค้ำประกันสูงสุดถึง 8 แสนบาทต่อราย สิ้นสุดรับคำขอค้ำประกันภายในวันที่ 30 ธ.ค. 2568
ส่วนกรณีที่ SMEs ที่ถือหนังสือค้ำประกัน บสย. ประสบปัญหาไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดต่อได้จนกลายเป็นหนี้เสีย และรถถูกยึดขายทอดตลาดเสร็จสิ้นแล้ว โดยไฟแนนซ์พิจารณาส่งยอดหนี้คงเหลือมาเคลมกับ บสย. ลูกหนี้ที่ถูกจ่ายเคลมภายใต้มาตรการนี้ สามารถเข้าร่วมมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ บสย. พร้อมช่วย หรือ มาตรการ 3 สี ม่วง เหลือง เขียว ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับความสามารถในการชำระหนี้
ผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการดังกล่าว สามารถลงทะเบียนได้ที่ LINE OA : @tcgfirst พร้อมบริการตรวจสุขภาพทางการเงิน โดยจองคิวขอรับคำปรึกษาทางการเงิน ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บสย. Call Center โทร. 02-890-9999
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- บสย. หารือสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย หนุนมาตรการ 'กระบะพี่ มีคลังค้ำ'
- บสย. หารือสถาบันการเงิน-กลุ่มลีสซิ่ง ปลดล็อก SMEs ซื้อรถกระบะใหม่
- บสย. ผนึก อ.ส.ค. ค้ำประกันฯ ธุรกิจโคนม-แฟรนไชส์ MILK LAND
ติดตามเราได้ที่