ศาลอุทธรณ์แก้โทษ "ลุงพล" เป็นจำคุก 26 ปี คดีน้องชมพู่ ส่วน "ป้าแต๋น" พิพากษายกฟ้อง
(13 ส.ค. 68) ศาลอุทธรณ์ภาค 4 นัดอ่านคำพิพากษาคดีฆาตกรรมเด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ ซึ่งหายตัวไปจากบ้านพักภายในหมู่บ้านกกกอก จังหวัดมุกดาหาร เมื่อปี 2563 ซึ่งต่อมาศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุกนายไชย์พล วิภา 20 ปี ส่วนภรรยายกฟ้อง
นายไชย์พล วิภา และนางสมพร หลาบโพธิ์ จำเลยที่ 1-2 เดินทางมาที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร เพื่อรับฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 คดีเด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ น้องชมพู่ วัย 3 ขวบหายไปจากบ้านพักภายในหมู่บ้านกกกอก ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหารเมื่อ ปี 2563 ซึ่งต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกนายไชย์พล 20 ปี ใน 2 ข้อหา คือ พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครอง และ ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย /ส่วนภรรยายกฟ้อง
เช่นเดียวกับ นางพชรมน พชรภัสรส์ ชื่อเดิม นางสาวิตรี วงค์ศรีชา และ นายอนามัย วงค์ศรีชา พ่อและแม่น้องชมพู่ ก็เดินทางมารับฟังคำพิพากษาในเวลา 09.30 นาที
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 เด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ น้องชมพู่ วัย 3 ขวบหายไปจากบ้านพักภายในหมู่บ้านกกกอก ทำให้ชาวบ้านมากกว่า 200 ชีวิตออกตามหา ต่อมาในช่วงค่ำวันที่ 14 พฤษภาคม พบเป็นศพอยู่ในสภาพเปลือยกาย อยู่บนภูเหล็กไฟ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร จากนั้นตำรวจภูธรภาค 4 และ ชุดสืบสวนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ลงพื้นที่คลี่คลายคดีนานกว่า 1 ปี กระทั่งวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ตำรวจได้ออกหมายจับนายไชย์พล โดยเชื่อว่า มีส่วนเกี่ยวข้องในการเสียชีวิตของเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ส่วนนางสมพร ก็ถูกดำเนินคดี 1 ข้อหาเช่นกัน
ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ ภาค 4 แก้โทษให้นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล โดยเพิ่มโทษจำคุกจากเดิม 20 ปี เป็น 26 ปี คำตัดสินใหม่ระบุว่าลุงพลมีความผิดฐานเจตนาฆ่าโดยเล็งเห็นผล, พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปโดยไม่มีเหตุอันสมควร และอำพรางศพ ซึ่งเป็นการแก้ข้อหาจากศาลชั้นต้นที่ตัดสินว่าเป็นการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น