บอนด์ยีลด์ญี่ปุ่นอายุ 20 ปี พุ่งสูงสุดรอบ 26 ปี กังวลรัฐออกพันธบัตรเพิ่ม ต่างชาติชะลอซื้อ
บอนด์ยีลด์ญี่ปุ่นอายุ 20 ปี พุ่งสูงสุดรอบ 26 ปี กังวลรัฐออกพันธบัตรเพิ่ม ต่างชาติถอนลงทุน เดือนก.ค. วูบเหลือ 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
วันที่ 21 ส.ค. 2568 อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) รัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 20 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี นักลงทุนกังวลนโยบายการคลังแบบขยายตัว ต่างชาติชะลอซื้อเดือนก.ค. ลดลงเหลือ 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุยาวพิเศษ (super-long yield) แตะ 2.655% สูงกว่าระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ในปี 2542 หรือเมื่อ 26 ปีก่อน ขณะที่พันธบัตรอายุ 10 ปี อยู่ที่ 1.61% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 ส่วนพันธบัตรอายุ 30 ปี ปรับขึ้นแตะ 3.18% ใกล้กับระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 3.2% ในเดือนก.ค.
นักลงทุนคาดการณ์ว่า รัฐบาลอาจออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังพรรคร่วมรัฐบาลพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งสภาสูงเดือนก.ค. ซึ่งอาจเพิ่มการออกพันธบัตรและยิ่งกดดันพันธบัตรระยะยาว ขณะเดียวกันความกังวลเรื่องเงินเฟ้อก็เป็นอีกปัจจัยกดดันพันธบัตรอายุยาวพิเศษ และสร้างแรงกดดันต่อธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ความต้องการลงทุนในพันธบัตรชะลอตัว โดยข้อมูลจากสมาคมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ญี่ปุ่นระบุว่า การซื้อสุทธิพันธบัตรที่มีอายุมากกว่า 10 ปีโดยนักลงทุนต่างชาติในเดือนก.ค. ลดลงเหลือ 4.8 แสนล้านเยน (3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือเพียงหนึ่งในสามของปริมาณในเดือนมิ.ย. ซึ่งสะท้อนการถอนตัวของนักลงทุนต่างชาติหลังเข้าซื้ออย่างมากในช่วงครึ่งปีแรก
อาทารุ โอกุมูระ นักกลยุทธ์อัตราดอกเบี้ยอาวุโสจาก SMBC Nikko Securities กล่าวว่าเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ลงทุนในพันธบัตรระยะยาวพิเศษในครึ่งปีแรก การชะลอซื้อสุทธิอย่างรุนแรง สร้างความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นกับเส้นอัตราผลตอบแทน (yield curve) ระยะยาวในอนาคต
ทั้งนี้ การปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของบอนด์ยีลด์ อายุ 10 ปี อาจส่งผลต่อการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนและการลงทุนของภาคธุรกิจ เนื่องจากพันธบัตรอายุ 10 ปีถือเป็นเกณฑ์ชี้วัดต้นทุนการกู้ยืมระยะยาวที่จะมีผลต่อทั้งอัตราดอกเบี้ยจำนองและการจัดหาเงินทุนของธุรกิจ