โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

สำรวจเศรษฐกิจโลกสองขั้วปี 68 ใครโตพุ่ง ใครสะดุดพิษภาษีทรัมป์

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 16 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เศรษฐกิจโลกปี 2568 กำลังส่งสัญญาณการพลิกโฉม เมื่อหลายประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ทั้งสหรัฐฯ แคนาดา ยูโรโซน สหราชอาณาจักร และจีนแผ่นดินใหญ่ ต่างถูกปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัว GDP หลังตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 2 ออกมาดีกว่าคาด ขณะเดียวกันดัชนี PMI ทั่วโลกก็ปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม โดยเฉพาะดัชนี Composite Output ซึ่งสะท้อนภาพรวมกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เริ่มมีแรงขับเคลื่อนชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกประเทศที่จะได้อานิสงส์จากแนวโน้มดังกล่าว โดย อินเดียและบราซิล กลับถูกปรับลดคาดการณ์การเติบโตทั้งปี 2568 และ 2569 เหตุเพราะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ที่สูงกว่าที่เคยประเมินไว้

รายงานชี้ว่า แม้การประกาศภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคมจะช่วยสร้างบรรยากาศเชิงบวกในตลาดการเงิน โดยคู่ค้าส่วนใหญ่ถูกเก็บภาษีในระดับที่ต่ำกว่าชุดแรกเมื่อเดือนเมษายน แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของมาตรการภายใต้กฎหมาย Section 232 และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับคู่ค้าหลักอย่างจีน แคนาดา และเม็กซิโก ซึ่งอาจทำให้กรอบความตกลงทางการค้าบางส่วนเผชิญปัญหา

ด้านเงินเฟ้อในสหรัฐฯ เริ่มสะท้อนแรงกดดันจากต้นทุนภาษีที่สูงขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ภาคธุรกิจพยายามดูดซับต้นทุนผ่านสต๊อกสินค้าหรือการลดมาร์จิ้น ล่าสุดข้อมูลเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมบ่งชี้ว่าผู้บริโภคเริ่มเผชิญราคาสินค้าที่แพงขึ้น โดย เงินเฟ้อสินค้าหลัก (Core Goods Inflation) เพิ่มขึ้น 0.5 จุดแตะ 1.1% ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่กลางปี 2566 ขณะที่ข้อมูลดัชนี PMI ของสหรัฐฯ ก็ยืนยันแรงกดดันด้านราคาในภาคการผลิตยังอยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย

เมื่อหันไปดูนโยบายการเงิน รายงานคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) มีโอกาสกลับมาใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายเร็วกว่าที่เคยคาด หลังตัวเลขการจ้างงานอ่อนแอลง แม้ฐานที่ตั้งไว้ยังเป็นการปรับลดดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในเดือนธันวาคม เนื่องจากเฟดยังเป็นห่วงแรงกดดันเงินเฟ้อจากภาษี สำหรับตลาดล่วงหน้าก็สะท้อนความเชื่อมั่นว่าจะมีการลดดอกเบี้ยรวมราว 0.60% ใน 3 ครั้งสุดท้ายของปี และประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยเฟดอาจอยู่ที่ราว 3% ภายในสิ้นปี 2569 จากระดับปัจจุบัน 4.25%-4.50%

ในยุโรป ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ลดดอกเบี้ยนโยบายลงครึ่งหนึ่งจากระดับสูงสุดหลังโควิด และไม่น่าจะมีการลดเพิ่มจากระดับปัจจุบันที่ 2% ขณะที่ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างบราซิลและรัสเซียเริ่มส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงิน หลังเศรษฐกิจเผชิญแรงกดดันชัดเจน

ส่วนแนวโน้มปี 2569 คาดว่าหลายภูมิภาคจะกลับมาฟื้นตัวจากแรงหนุนของนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายและมาตรการกระตุ้นการคลัง โดยเฉพาะในสหรัฐฯ และเยอรมนี แต่สำหรับ ตะวันออกกลาง คาดว่าการเติบโตจะถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ลดลงในระยะยาว

อ้างอิง: S&P Global Market Intelligence

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

เปิดเวทีประชันงบ บจ. SET จัดหนัก 34 หลักทรัพย์ เรียงคิวร่วม Oppday 20 ส.ค. นี้

31 นาทีที่แล้ว

กูรูชี้จับตาความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ผู้กุมชะตาราคาทองคำ แนะย่อตัวซื้อ 51,000 บาท

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่นๆ

หนุ่มจีนคลั่งรัก ถูกแฟนสาววัย 17 หลอกขายให้แก๊งคอลฯ ในเมียนมา ก่อนถูกซ้อมเรียกค่าไถ่

Thaiger

ทรัมป์ขยายภาษีนำเข้าเหล็ก-อะลูมิเนียม 50% รวมสินค้า 407 ประเภท

กรุงเทพธุรกิจ

รัสเซียโจมตียูเครน ท่ามกลางความพยายาม "ทรัมป์" ผลักดันสันติภาพ

Thai PBS

ทรัมป์ลั่นไม่ส่งทหารไปยูเครนแต่อาจสนับสนุนทางอากาศ

กรุงเทพธุรกิจ

ทรัมป์แบะท่าสนับสนุนทางอากาศ ยันไม่ส่งทหารภาคพื้นดินไปยูเครน

PostToday

ไอดอลสาวโชว์หน้าสดหลังเลิกงาน ต่างสุดขั้วแทบไม่เชื่อสายตา อึ้งซ้ำหลังรู้อายุ

Thaiger

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...