BCP เปิดงบไตรมาส 2 รายได้ขาย 1.25 แสนล้าน หนุน “อีบิทดา” แตะ 3.66 พันลบ.
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส2 และงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
สำหรับไตรมาส 2/2568 กลุ่มบริษัทบางจากมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 125,827 ล้านบาท ลดลง 7% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 20% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วน EBTDA อยู่ที่ 3,664 ล้านบาท ลดลง 71% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 66% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำโรสุจากการดำเป็นงานปกติ (ที่ไม่รวมรวมรายการพิเศษ) 1,247 บาท ลดลง 29% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นกว่า 100% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน ได้รับผลกระทบจากการปรับลดลงของของราคานั้นที่ส่งผลให้เกิด Inventory Loss จำนวน 3,472 ล้านบาท (รวมการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือ (NRV)
อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งระหว่างอิหร่าน-อิสราเอลและปริมาณสต็อกน้ำมันสำเร็จรูปทั่วโลกที่ปรับลดลง หนุนให้ Crack Spread ปรับตัวดีขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้ค่าการกลั่นพื้นฐานของกลุ่มบริษัทฯ เพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 4.45 ดอลลาร์/บาร์เรล อย่างไรก็ดี Crack Spread ที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้เกิดผลขาดทุนจากสัญญา
ซื้อขายส่วนต่างน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันล่วงหน้า 891 ล้านบาท
สำหรับอัตรากำลังการกลั่นเฉลี่ยในไตรมาส 2/2568 ลดลงเทียบไตรมาสก่อนหน้า จากการชะลอการกลั่น (Slowdown) ของโรงกลั่นศรีราชาเป็นเวลา 28 วัน ในเดือนพ.ค. 68 เพื่อดำเนินการปรับปรุงและเพิ่ม ประสิทธิภาพหน่วยกลั่นตามแผน แต่เพิ่มขึ้นเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
เนื่องจากในไตรมาส 2/2567 โรงกลั่นพระโขนงมีการปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ตามวาระ กลุ่มธุรกิจการตลาด มีปริมาณจำหน่ายอ่อนตัวลงเล็กน้อยโดยหลักมาจากกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม ซึ่งค่าการตลาดสุทธิของกลุ่ม บริษัทฯ โดยหลักอ่อนตัวตาม Inventory Loss ที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ดีหากไม่รวมผลกระทบจาก Inventory Loss ค่าการตลาดของ กลุ่มบริษัทสามารถเติบโตขึ้น 5% เทียบไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการช่องทางการจำหน่ายเพื่อรักษาระดับ ความสามารถในการทำกำไรในสภาวะการแข่งขันสูง กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด มีปริมาณการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า เพิ่มขึ้นเทียบไตรมาสก่อนหน้า จากปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นจากการเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูฝน
อย่างไรก็ตามบริษัทฯรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนใน บริษัทร่วมจากโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในประเทศสหรัฐอเมริกาลดลง Q00 จากอัตราการทำกำไรต่อหน่วยที่อ่อนตัวลง ตาม Spark Spread
กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ มีปริมาณการจำหน่ายไบโอดีเซลลดลงตามความต้องการในการบริโภคที่ ชะลอตัว ขณะที่ยอดจำหน่ายเอทานอลลดลงตามแผนบริหารการขายของกลุ่มบริษัท สำหรับกลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ มีปริมาณการจำหน่ายที่ลดลงเทียบไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากในไตรมาส 1/2568 มีการจำหน่ายมากกว่ากำลังผลิตตามสัญญา (Overlift)
สำหรับรายการพิเศษในไตรมาส 2/2568 กลุ่มบริษัทฯ รับรู้ผลกำไรจากรายการพิเศษ (ไม่รวมขาดทุนจาก Inventory ตราสารอนุพันธ์ และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน) สุทธิรวม 30 ล้านบาท โดยหลักมาจากการกลับรายการตั้งสำรองผลขาดทุนจากสัญญาซื้อขายน้ำมันของ บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด มหาชน หรือ BSRC ที่สามารถชดเชยการด้อยค่าของธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติตามราคาน้ำมันคาดการณ์ล่วงหน้าที่ลดลง และธุรกิจไฟฟ้าพลังงานลม ในฟิลิปปินส์ได้ทั้งหมด