‘สุเมธ’ กางกลยุทธ์ 3 ขั้น พลิกบทบาทใหม่ กนอ. ขับเคลื่อน ศก.ไทยยั่งยืน
นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ ผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวถึงแนวทางการนำวิสัยทัศน์ 5 แกนหลักสำคัญ หรือ R-A-P-I-D ที่ได้ประกาศไว้ครั้งเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ กนอ.เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2568 ให้บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรมว่า ได้มีการสังเคราะห์วิสัยทัศน์ R-A-P-I-D จนแปลงออกมาเป็นนโยบายหลัก 4 ด้านสำคัญ นำไปสู่การปฏิบัติอย่างรูปธรรม สะท้อนบทบาทใหม่ของ กนอ.ในการเป็นแพลตฟอร์มขับเคลื่อนเศรษฐกิจแห่งอนาคตอย่างยั่งยืน’ ประกอบด้วย 1.การสร้างรายได้อย่างยั่งยืน ผ่านการจัดตั้งหน่วยธุรกิจเศรษฐกิจใหม่ (New Economy Business Unit) โดยเปิดพื้นที่ให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมออกแบบ และบูรณาการโมเดลธุรกิจใหม่ๆ, 2.นำนวัตกรรมและองค์ความรู้ ยกระดับการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมและบริการแก่ผู้ประกอบการ สร้างมาตรฐานการให้บริการที่สะดวก รวดเร็ว มีความยืดหยุ่น เพื่อดึงดูดผู้ที่มีศักยภาพสูง (Global Talent) และสตาร์ทอัป (Startup) จากทั่วโลกให้เข้ามาทำงาน และพัฒนาธุรกิจในประเทศไทย, 3.พัฒนาทุนทรัพยากรมนุษย์ของ กนอ.ให้มีสมรรถนะสอดรับกับบริบทใหม่ โดยเน้นทักษะด้านการทำงานร่วมกับระบบ AI รวมถึงการบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ และ 4.ยกระดับบทบาทด้านการกำกับดูแลและส่งเสริมผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม ให้สามารถเติบโตอย่างมั่นคง บนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยการสร้างระบบสนับสนุนและการประเมินผลที่ยึดหลัก ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) อย่างจริงจัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ เสริมสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจ และความยั่งยืนในทุกมิติ
“เพื่อให้บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม กนอ.ต้องขับเคลื่อนแผนงานเชิงยุทธศาสตร์ในระยะสั้น กลาง และยาว ปรับตัวสู่แพลตฟอร์มเศรษฐกิจอุตสาหกรรมแห่งอนาคตอย่างยั่งยืน ตอบโจทย์โลกยุคใหม่ในทุกมิติ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน กฎหมาย เทคโนโลยี และระบบความร่วมมือ ให้เกิดเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (ECO Industry Town) ที่เป็นหัวใจของวิสัยทัศน์ R-A-P-I-D” นายสุเมธ ระบุ
นายสุเมธ ระบุด้วยว่า ในระยะสั้น กนอ.จะเริ่มจากการวางฐานระบบแพลตฟอร์มกลาง ปรับบทบาทจากผู้จัดการพื้นที่ไปสู่ผู้วางระบบนิเวศอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ผ่านการสร้างความเข้าใจร่วมกับหน่วยงานรัฐ เอกชน และชุมชน เป็นกลไกความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่เชื่อมทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมกำหนดทิศทางพัฒนานิคมอุตสาหกรรม ขณะที่ ระยะกลาง กนอ.จะขยายขอบเขตการดำเนินการให้ครอบคลุมทั้งโครงสร้างพื้นฐานและระบบความร่วมมือ
โดยเร่งเดินหน้านำร่อง 3 โครงการเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอัจฉริยะ (Smart-Green Estate) เปิดศูนย์กลางอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Green Investment Hub) ในทุกภูมิภาคหลักของประเทศ เพื่อดึงดูดการลงทุนคุณภาพสูงที่ให้ความสำคัญกับ ESG สร้างความร่วมมือเชิงวิชาการพัฒนาเป็นแหล่งรวมผู้มีศักยภาพสูง (Talent Pool) เป็นต้น นำไปสู่การดำเนินการระยะยาว ที่ กนอ.จะเปลี่ยนผ่านจากผู้บริหารพื้นที่ ไปสู่แพลตฟอร์มขับเคลื่อนเศรษฐกิจการลงทุนของประเทศ
โดยออกแบบฐานข้อมูลผู้ประกอบการ (Open Indutrial Platform) เชื่อมโยงข้อมูล ทุนทรัพยากรพมนุษย์ และบริการจากภาครัฐและเอกชนเข้าด้วยกันได้อย่างเป็นระบบ ตั้งเป้าให้ 70% ของพื้นที่นิคมฯทั้งหมดพัฒนาเป็น Eco Industrial Town ภายในปี 2028 ตลอดจนเปิดรับการลงทุนใหม่ในภาคอุตสาหกรรมที่มุ่งเป้าสู่ก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ด้วยกลไกห่วงโซ่อุปทานสีเขียว (Green Supply Chain) ที่มีประสิทธิภาพ