กมธ.ทหาร เรียกสอบ "มทบ.18-กรมพลาธิการทหารบก" ทำน้ำมันหาย กว่า 2 แสนลิตร
วันนี้ (27 ส.ค.2568) นายเชตวัน เตือประโคน สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน ในฐานะคณะกรรมาธิการการทหารสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง กรณีน้ำมันดีเซลที่หายไป จากมณฑลทหารบกที่ 18 สระบุรี จำนวน 215,000 ลิตร เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2565 ได้มีการรายงานให้ผู้บัญชาการทหารบกทราบในอีก 1 ปีต่อมา ซึ่งกองทัพบกได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ ซึ่งน้ำมันหายออกไป 1 ปีเต็ม แต่จากการตรวจสอบตั้งแต่ 1-12 ต.ค.2566 ก็ไม่มีคำตอบ
จากนั้นจึงได้ทำหนังสือไปกระทรวงกลาโหม ก็ยังไม่มีคำตอบ วันที่ 14 พ.ย.2566 ก็ได้ส่งหนังสือไปยังกองทัพบก และกระทรวงกลาโหม ให้ชี้แจงกลับมา ก็ได้แจ้งว่า ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จ และคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงได้ขอขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 29 พ.ย.2566 แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีหนังสือ ชี้แจงใด ๆ ออกมา
จากนั้น วันที่ 22 ม.ค.2567 กรรมาธิการก็ได้ส่งหนังสือให้มีการชี้แจง แต่ก็ยังไม่ได้รับความร่วมมืออีกเช่นเดิม วันที่ 27 มี.ค.2567 จึงได้ยื่นหนังสือไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องการขาดความร่วมมือของกองทัพ ต่อการดำเนินงานและอำนาจหน้าที่ของกรรมาธิการ เพื่อให้หน่วยงานดังกล่าวแสวงหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ดังนั้นเมื่อมีกรณีที่สองเกิดขึ้นจึงขอทวงถามคำชี้แจงในกรณีแรกด้วย
กรณีที่สองน้ำมันหายไปจาก กรมพลาธิการทหารบก จ.นนทบุรี จำนวน 10,000 ลิตร ซึ่งได้รับทราบผลการสืบสวนข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 14 ม.ค. แต่จากวันที่ 14 ก.ค. จนถึงวันนี้เป็นเวลา 1 เดือนครึ่ง กองทัพบกก็ไม่ได้มีการออกมาแถลงข่าวว่า น้ำมันหาย เพราะที่ผ่านมากองทัพมักจะสอบกันเองแล้วเรื่องก็เงียบ
เมื่อเป็นข่าวเกิดขึ้นก็บอกแค่ว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่สุดท้ายก็ไม่เคยได้รับทราบคำตอบเรื่องเหล่านี้เลย
เหตุการณ์น้ำมันหายครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2566 ตอนนั้น ผอ.กองเชื้อเพลิงคนใหม่ กำลังจะเข้ารับตำแหน่ง แต่พบว่า มีน้ำมันหายไป 10,000 ลิตร จึงไม่กล้าเซ็นรับ ตอนนั้นไม่มีรายงานไม่มีการสอบสวน จึงไม่ทราบว่าเป็นการคุยกันเองหรือไม่
ยื้อจนมีการสั่งซื้อน้ำมันรายใหญ่เอกชนเจ้าหนึ่ง ในวันที่ 9 พ.ย. จำนวน 9,000 ลิตร และให้นำมาส่งในวันที่ 10 พ.ย. ซึ่งเป็นเวลาวันเดียวหลังจากที่สั่งซื้อ แต่คนที่สั่งซื้อไม่ได้มีอำนาจในการสั่งซื้อน้ำมัน ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า เป็นการสั่งซื้อน้ำมันมาชดเชยน้ำมันที่หายไปหรือไม่ เพราะปริมาณใกล้เคียงกัน
นายเชตวัน กล่าวว่า เวลาผ่านไปเป็นปี กำลังพลในหน่วย เห็นว่าเรื่องนี้ไม่เป็นธรรมจึงไปร้องเรียน ทำให้กองทัพสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง แต่ก็ล่าช้าเหมือนเดิมจนมีข่าวออกมา จึงรู้ว่าน้ำมันหายไป และทำให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.กลาโหม ในขณะนั้น ถึงขั้นร้องออกมาว่า “โอ้โห น้ำ มันระเหยออกมาขนาดนั้นเลยหรือ”
นายเชตวัน กล่าวว่า ล่าสุดได้ผลสอบออกมาแล้ว แต่พบข้อสงสัยในเอกสารว่า มียอดขาดไป แล้ว และได้สั่งซื้อน้ำมันโดยส่วนตัวมาลงที่สถานีจ่ายของกรมเชื้อเพลิง พลาธิการ ทบ. รวม 9,000 ลิตร ซึ่งเป็นการยอมรับว่า มีน้ำมันหายไปจริง แต่ซื้อน้ำมันกลับมาด้วยเงินส่วนตัว
ในเอกสารยังระบุด้วยว่า มีความเชื่อว่า น้ำมันสูญหายจริง และได้รับความเสียหาย แต่เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า หายจริงและเกิดความเสียหายแก่ข้าราชการ สุดท้ายการกระทำจึงถือว่าไม่เป็นการทุจริตต่อราชการ จึงเกิดคำถามว่า ทำไมไม่เป็นการทุจริต เพราะมีการสั่งซื้อเมื่อคืนแล้วใช่หรือไม่
เมื่อน้ำมันสูญหายไปแล้ว และไม่รู้ว่าสูญหายไปไหน หายไปอย่างไร ใครเอาไป ทำตอนไหน แต่พอวันหนึ่งมีคนรู้ว่าหายเกิดขึ้น แล้วเอากลับมาชดใช้คืน อย่างนี้เป็นการไม่ทุจริตหรือ นี่มันมาตรฐานเดียวกับนาฬิกายืมเพื่อนเลย พอคืนเสร็จแล้วก็ไม่ มีความผิด
พร้อมกันนี้ นายเชตะวันได้ยกการตรวจสอบของกองทัพบก เป็นไปตามระเบียบ คือหากพบว่ามีการสูญหาย ก็ต้องมีการรายงาน แล้วตั้งกรรมการตรวจสอบได้ข้อสรุปออกมา และมีการชดใช้และรายงานต่อ ผบ.ทบ. ต่อไป
แต่สิ่งที่กองทัพบกดำเนินการ คือเมื่อมีน้ำมันสูญหาย ไม่ได้มีการรายงาน ไม่ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบ แต่มีการชดใช้ ก่อนที่จะมีการร้องเรียน และตั้งกรรมการสอบ จึงมีข้อสรุปออกมาและสุดท้ายไม่เกิดการทุจริต
ดังนั้นคิดว่า แม้จะมีการซื้อคืนชดเชยในภายหลังแล้ว แต่ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เกิดขึ้นแล้ว เรื่องของการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
เมื่อถามว่า น้ำมันที่หายไปเกิดจากการระเหยหรือมีการยักยอก นายเชตวัน กล่าวว่า ในส่วนของมณฑลทหารบกที่ 18 จำนวน 200,000 ลิตร ไม่น่าจะระเหยได้แน่ ๆ แต่ในส่วนของกรมพลาธิการทหาร ไม่ได้มีการชี้แจงว่าระเหย เป็นการพูดเล่นมากกว่า ผลสอบออกมาก็คือหายจริง ๆ
ทั้งนี้คณะกรรมาธิการจะเชิญกองทัพบก เข้ามาชี้แจงในกรรมาธิการทหารในวันพรุ่งนี้ (28 ส.ค.) ถึงข้อเท็จจริงขาดหายไปของน้ำมัน และสอบถามถึงการดำเนินการที่ล่าช้า เพราะรอให้มีการปรับเลื่อนตำแหน่ง ซึ่งทราบมาว่า คนเดิมได้ปรับเลื่อนตำแหน่ง เป็นถึงรองนายพล และสอบถามถึง พยานที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ ว่าได้รับความเสียหายจากการปรับเลื่อนตำแหน่งด้วยหรือไม่
อ่านข่าว : เส้นทางธุรกรรม “เงินพันล้าน” สอบ “อลงกต” โยง 6 ชื่อผู้ครองที่ดิน
ด่วน ทหารเหยียบกับระเบิดขาขวาขาด บริเวณปราสาทตาควาย
"จรูญเกียรติ" แย้มมี 30 คน สัมพันธ์เส้นเงินคดี "อดีตพระอลงกต" ยักยอกทรัพย์