โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

จับตาประเดิมจีบีซี! ‘บิ๊กเล็ก’อุบเงียบกรอบเจรจา/20จว.อีสานเกาะติด‘โดรน’

ไทยโพสต์

อัพเดต 4 สิงหาคม 2568 เวลา 7.01 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"ในหลวง-พระราชินี" พระราชทานดอกไม้และตะกร้าสิ่งของเยี่ยมกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และทรงรับทุกคนไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ จิตอาสาฯ ร่วมกันสร้างบ้านหลังใหม่ให้ครอบครัว "ส.ต.ธีรยุทธ" กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานความช่วยเหลือด้านปศุสัตว์ผู้เลี้ยงสัตว์ที่ได้รับผลกระทบ “มทภ.2” ประชุม 20 ผู้ว่าฯ อีสาน เข้มมาตรการกำจัดโดรน สั่งจับตาสถานที่สำคัญ ศาลากลางจังหวัด-คลังอาวุธ-สถานีขนส่ง "ทอ." พบโดรนบินสำรวจจำนวนมากในหลายพื้นที่ ชี้ภัยร้ายแรง จับตาถก GBC 4-7 ส.ค. “บิ๊กเล็ก” ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ยันเป็นกรอบที่ได้รับการอนุมัติจาก สมช.แล้ว

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยกำลังพลและราษฎรที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเมื่อเวลา 07.00 น. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ว่าที่ พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปมอบแก่จ่าสิบเอกพนมกร จันทะวงษ์, จ่าสิบเอกศิวกร วาสันเที๊ยะ, จ่าสิบเอกจุลพล หวังหล้า, จ่าสิบโทโอฬาร สิงหาระโท, พลทหารภีรพัฒน์ กุทอง, พลทหารจักริน ลุงกอ, พลทหารณัฎฐพล เรียกจำรัส, พลทหารวีรทัศน์ สุขประเสริฐ, พลทหารสิทธิชัย เปี่ยมสุข และพลทหารนครินทร์ โสตะวงษ์ กำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา และเข้ารับการรักษาพยาบาล ณ โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมทรงรับผู้บาดเจ็บทั้งหมดไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ การได้รับพระราชทานพระมหากรุณาในครั้งนี้ ยังความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่กำลังพลและครอบครัวอย่างหาที่สุดมิได้

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ในความห่วงใยต่อกำลังพลและประชาชนของพระองค์ท่านที่ได้รับความเดือดร้อน โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กองทัพบก ร่วมกับส่วนราชการ เร่งดำเนินการสำรวจความเสียหายและดำเนินการฟื้นฟูโดยเร่งด่วน ซึ่งศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับมณฑลทหารบกที่ 26 และภาคประชาชน ได้ร่วมดำเนินการก่อสร้างบ้านหลังใหม่ให้แก่ครอบครัวของ ส.ต.ธีรยุทธ กระจ่างทอง สังกัดกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 (ปตอ.2 พัน.2) ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ปะทะ ณ ฐานตาฮอง 2 ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ

วันเดียวกันนี้ ตามที่เกิดการสู้รบบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยเฉพาะการขาดแคลนอาหารสัตว์สำหรับเลี้ยงโค กระบือ และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยในความทุกข์ยากของพสกนิกรผู้ประสบภัย มีพระราชกระแสรับสั่งให้มูลนิธิชัยพัฒนาประสานความร่วมมือกับกองทัพบก และหน่วยงานด้านปศุสัตว์ ในการดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ในการนี้ กรมการสัตว์ทหารบก ร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนา, กรมปศุสัตว์ และศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ ได้สนับสนุนหญ้าฟ่อนแห้งจำนวน 25,000 ฟ่อน เพื่อแจกจ่ายให้แก่เกษตรกรในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 และพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมจัดรถบรรทุกลำเลียงอย่างต่อเนื่อง โดยวันที่ 2 ส.ค.68 กรมการสัตว์ทหารบกได้ลำเลียงหญ้าฟ่อนแห้งจำนวน 1,100 ฟ่อน จาก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ไปยังพื้นที่ อ.พนมดงรัก และ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ การส่งมอบความช่วยเหลือในครั้งนี้ มิใช่เพียงแค่การบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ท่าน ที่ทรงใส่พระทัยต่อความทุกข์สุขของราษฎรอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ กองทัพบกยังคงดำเนินภารกิจในการสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนในทุกมิติ ด้วยจิตสำนึกในหน้าที่และพันธกิจแห่งความมั่นคง พร้อมเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนในทุกโอกาส

จับหาแอนตี้โดรนป้องกันจว.

พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ได้มีการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 20 จังหวัดภาคอีสาน ผ่านระบบ VTC เรื่องมาตรการกำจัดโดรน โดยให้ผู้ว่าแต่ละจังหวัด ในฐานะ ผอ.กอ.รมน.จังหวัด ให้แต่ละหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและภาคเอกชน ประชาชน จัดหาเครื่องแอนตี้โดรนป้องกันจังหวัดของตัวเอง โดยเฉพาะเพ่งเล็งในพื้นที่สำคัญ อาทิ ศาลากลางจังหวัด, สนามกีฬา, คลังอาวุธ, สถานีตำรวจ, สถานีขนส่ง และสนามบิน

นอกจากนี้ ให้มีการจัดชุดลาดตระเวนพิสูจน์ทราบบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ หากสามารถควบคุมตัวได้ให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดในทุกประเด็น เช่น ก่อการร้าย ไส้ศึก โดยโทษหนักสุดถึงขั้นประหารชีวิต คงต้องไปดูข้อกฎหมาย ทั้งนี้ได้กำชับห้ามปล่อยตัวง่ายๆ ต้องตรวจสอบไปถึงต้นตอ คนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งคาดว่าน่าจะมีมือที่สามที่ได้รับผลกระทบมาจากการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ บ่อนการพนัน ประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อมาข่มขู่ ก็เป็นไปได้ทั้งหมด แต่หากพบว่าเป็นคนต่างประเทศ ก็ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดในประเทศไทยก่อน หลังสิ้นสุดคดีให้เนรเทศ พร้อมขึ้นแบล็กลิสต์ ไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้อีก

พล.ท.บุญสินยังกล่าวถึงสถานการณ์ในภาพรวมชายแดนไทย-กัมพูชา หลังทหารกัมพูชามีการเพิ่มเติมกำลังต่อเนื่องว่า กำลังฝ่ายไทยมีความเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง

เพจเฟซบุ๊ก "กองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force" ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ได้ตรวจพบความพยายามในการใช้โดรนบินสำรวจที่ตั้งทางทหารและหน่วยงานราชการจำนวนมากในหลายพื้นที่ที่สำคัญของประเทศไทย ซึ่งถือเป็นภัยร้ายแรงที่ส่อให้เห็นถึงความพยายามในการสอดแนม เพื่อกระทำการสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เป็นอันตรายต่อโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร และอาจรวมถึงโครงสร้างพื้นฐานพลเรือน

เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารและหน่วยงานด้านความมั่นคงที่ได้รับมอบหมาย มีอำนาจในการใช้ระบบ Anti Drone ในการทำลายเป้าหมายได้ทันที และผู้ที่กระทำผิด จะเข้าข่ายความผิดฐานจารกรรม/สายลับ ที่กระทบต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร มีบทลงโทษรุนแรง ถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต

ปัจจุบัน สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชายังคงต้องเฝ้าระวัง โดรนคือภัยคุกคามที่ร้ายแรงและส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและชีวิตประชาชน กองทัพอากาศจึงขอความร่วมมือประชาชนทุกท่านที่พบเห็น หรือทราบเบาะแสเกี่ยวกับการบินของโดรน รวมทั้งผู้ที่บังคับโดรน ที่อาจฝ่าฝืนกฎหมาย ได้แจ้งสายด่วนความมั่นคง 1374 หรือหน่วยงานราชการใกล้เคียง ได้ตลอด 24 ชม."

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง มอบหมายให้นายวิรุฬห์ สิทธิวงศ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง เข้าร่วมประชุมหารือมาตรการเร่งด่วน “ภัยคุกคามจากโดรน” โดยมี พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นประธาน โดยจากการประชุม มีประเด็นโดยสรุปว่า สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (ซีเอเอที) ได้ออกประกาศห้ามทำการบินโดรนทุกประเภทในพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลทางภูมิศาสตร์ และความมั่นคงของประเทศ กระทรวงมหาดไทย ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ รวมถึงชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) สอดส่องออกลาดตระเวนในพื้นที่ หากพบเจอผู้ทำการบังคับโดรน ให้ควบคุมตัวไว้ก่อน และส่งให้เจ้าหน้าที่เพื่อทำการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป โดย ผบ.ทสส.จะมีหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการทุกจังหวัดภายในวันนี้

'ฮุน เซน'สั่งการทหารแทนบุตรชาย

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยขอเตือนกองกำลังของกัมพูชาที่ใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน บินเข้ามาในอาณาเขตอธิปไตยของประเทศไทย จะดำเนินการทำลายทันทีเมื่อรุกล้ำอธิปไตย กรณีพลโทมาลี โฆษกกลาโหมกัมพูชาเบี่ยงเบน กล่าวหาระบุว่าไทยมีการส่งอากาศยานไร้คนขับหรือ “โดรน” ล่วงล้ำน่านฟ้ากัมพูชานั้น ยืนยันว่าประเทศไทยดำเนินมาตรการควบคุมการใช้โดรนอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดน และไม่มีนโยบายใช้โดรนเพื่อรุกล้ำอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน

นายจิรายุเปิดเผยว่า รัฐบาลไทยตรวจพบรายงานจากสื่อระดับโลก เช่น Reuters ซึ่งเผยแพร่บทความโดยอ้างแหล่งข่าวทางการทูต 3 รายว่า สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและประธานวุฒิสภาคนปัจจุบัน ยังคงมีบทบาทโดยตรงในการควบคุมและสั่งการด้านการทหารในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม้จะไม่ได้ดำรงตำแหน่งในฝ่ายบริหารอย่างเป็นทางการแล้วก็ตาม ในขณะที่นายกฯ ฮุน มาเนต ซึ่งเป็นบุตรชายของสมเด็จฮุน เซน กลับมีบทบาททางการเมืองที่เงียบลงอย่างเห็นได้ชัด

ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อัปเดตสถานการณ์พลเรือนบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ว่า ณ เวลา 10.00 น. วันที่ 3 สิงหาคม 2568 ขณะนี้พลเรือนเสียชีวิตยังคงเดิม 17 ราย บาดเจ็บ 38 ราย รวม 55 ราย โดยในจำนวนผู้บาดเจ็บ อาการสาหัส 6 ราย อยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) สรรพสิทธิประสงค์ 1 ราย, รพ.ศรีสะเกษ 4 ราย, รพ.สุรินทร์ 1 ราย บาดเจ็บปานกลาง 3 ราย ใน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ 1 ราย, รพ.ศรีรัตนะ 1 ราย, รพ.เบญจลักษ์ 1 ราย

สำนักข่าวเบอร์นามาแชร์เพจเฟซบุ๊ก Khalen Nordin ของดาโต๊ะซรี ฮาจิ โมฮาเม็ด คาเล็ด บิน นอร์ดิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาเลเซีย พร้อมภาพการประชุมไตรภาคีผ่านวิดีโอทางไกลกับรักษาการ รมว.กลาโหมของไทย รมว.กลาโหมกัมพูชา โดยระบุว่า บ่ายวันนี้ผมจัดการประชุมไตรภาคีผ่าน video conference กับพลเอกเตีย เซรยฮา รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมประเทศกัมพูชา และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาการ รมว.กลาโหมประเทศไทย

นอกจากนี้ ยังมีพลเอก Tan Sri Hj Mohd Nizam Hj Jaffar ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย และ Mohd Yani Daud รองปลัดกระทรวงกลาโหมมาเลเซีย เข้าร่วมด้วย การประชุมครั้งนี้เป็นขั้นตอนสําคัญในการเตรียมการสู่กัมพูชา-ประเทศไทย (GBC) กําหนดการประชุมในวันที่ 7 สิงหาคม 2025 ที่กัวลาลัมเปอร์ ด้วยจิตวิญญาณของอาเซียน มาเลเซียมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะสนับสนุนกระบวนการที่นําอาเซียนไปสู่ความสงบเรียบร้อย สอดคล้องกับค่านิยมของภูมิภาคที่มีร่วมกันของเรา

การประชุมในวันที่ 7 สิงหาคม จะรวมถึงผู้สังเกตการณ์จากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐประชาชนจีน (PRC) ก่อน GBC ตัวแทนจากทั้งสองประเทศจะประชุมเบื้องต้นตั้งแต่วันที่ 4 ถึง 6 สิงหาคม การอภิปรายนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทุกฝ่ายที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างสันติภาพและพูดคุยอย่างสร้างสรรค์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งนี้จะเป็นส่วนร่วมในการรักษาความสงบสุขและความมั่นคงในภูมิภาคอาเซียน มาเลเซียพร้อมที่จะอํานวยความสะดวกและสนับสนุนทุกขั้นตอนของกระบวนการอันสงบสุขนี้

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาการ รมว.กลาโหม ระบุว่า เรื่องที่จะไปเจรจากับกัมพูชาระหว่างวันที่ 4-7 สค.นี้ ได้ไปเสนอเรื่องกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.แล้ว และ สมช.อนุมัติกรอบนี้เพื่อไปเจรจากับกัมพูชา และขอไม่พูดในรายละเอียดที่จะหารือในการประชุม GBC ที่ตนจะเดินทางไปในวันที่ 7 สิงหาคมนี้

น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์ความตึงเครียดจากการปะทะกันบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พท.ขอสดุดีดวงวิญญาณทหารกล้า ผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญและเสียสละในการปกป้องอธิปไตยไทยจากการรุกรานของกัมพูชา และขอแสดงความความอาลัยอย่างสุดซึ้งต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ทุกคนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ หวังทุกภาคส่วนร่วมกันหยุดยั้งการกระทำครั้งนี้ยุติโดยเร็ว พท.ยืนยันว่า จะไม่ละทิ้งประชาชน จะทำทุกทางเพื่อผลักดันให้ความขัดแย้งครั้งนี้กลับสู่โต๊ะเจรจาอย่างเป็นทางการ

'ฮุน มาเนต'เพ้อรักษาสันติภาพ

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) และผู้นำฝ่ายค้านฯ พร้อมด้วยนายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด และคณะ สส.พรรคประชาชน เดินทางลงพื้นที่ตราด เพื่อรับฟังข้อมูล แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับหน่วยงานราชการ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ เกี่ยวกับการรับมือในการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย

จากนั้นนายณัฐพงษ์ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายความมั่นคงรายงานว่า ในพื้นที่มีการนำ Anti-Drone มาใช้ แต่ยังขาดแคลน Anti-Drone ว่า เชื่อว่า สส.ทุกคน ไม่ใช่เฉพาะพรรคประชาชน พร้อมที่จะสนับสนุนยุทโธปกรณ์ต่างๆ ให้กับหน่วยงานความมั่นคงในการป้องกันประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชายแดน ในสภาคิดว่าไม่น่าติดใจอะไรแล้ว งบประมาณต่างๆ จะต้องถูกเสนอมาโดยหน่วยงานต้นสังกัด ในพื้นที่เร่งเสนอแผนความต้องการงบประมาณ เพื่อผลักดันให้ทันในการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาในวาระที่ 2 และ 3 ภายในเดือนนี้ เพื่อให้กองทัพมีความพร้อมในการปกป้องอธิปไตยของชาติและดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป

นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความแสดงทัศนะเกี่ยวกับความสำคัญของสันติภาพ พร้อมกับคลิปขณะที่เจรจากับนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีที่มาเลเซีย โดยระบุว่า “บางครั้งผู้คนอาจไม่เห็นคุณค่าของคำว่า ‘สงบสุข’ จนกว่ามันจะสูญหายไป หรือไม่มีอยู่จริง เราจึงต้องร่วมกันปกป้องสันติภาพ อย่าปล่อยให้มันสูญสิ้นไปโดยสิ้นเชิง” ผู้นำกัมพูชายังย้ำว่า “คุณค่าที่แท้จริงของสันติภาพจะปรากฏชัดเจนในวันที่ไม่มีมันอยู่แล้ว”และกล่าวเน้นว่า “เราต้องรักษาสันติภาพเอาไว้…ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม”

ด้านสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และหัวหน้าพรรคประชาชาติกัมพูชา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กระบุข้อความถึงการสั่งปลด “ธี โสวันทา” อินฟลูเอนเซอร์คนดัง และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกัมพูชา โดยระบุข้อความแปลเป็นไทยได้ว่า “เราไม่มีเวลามาอบรมสั่งสอนเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีวินัยในขณะที่ภารกิจของชาติกำลังเรียกร้องให้เราแก้ไข” หลายต่อหลายครั้งที่ ธี โสวันทา โพสต์ข้อความไม่เหมาะสมลงในเฟซบุ๊ก ตัวผมเองได้โทรศัพท์ไปหาเขาเพื่อให้เขาลบข้อความ 2 ข้อความออกเมื่อไม่กี่วันก่อน วันนี้เขาก็โพสต์ข้อความที่กระทบกระเทือนกองทัพ ในขณะที่กองทัพกำลังปกป้องอธิปไตยของชาติ

ผมได้แจ้งท่านผู้ทรงคุณวุฒิ กวง จำเริญ ประธานพรรคประจำจังหวัดกันดาล ให้ขับเขาออกจากพรรคประชาชนกัมพูชา และได้แจ้ง พล.อ.ซก สกา รองนายกรัฐมนตรีและ รมต.มหาดไทย ให้ปลดธี โสวันทา ออกจากตำแหน่งรองผู้ว่าราชการเมืองอริยกษัตรา และให้ออกจากระบบราชการโดยสิ้นเชิง

สำหรับโพสต์ของ “ธี โสวันทา” ที่เป็นสาเหตุของประเด็นดังกล่าวนั้น เธอได้โพสต์ระบุข้อความแปลเป็นไทยว่า “จะเห็นได้ว่าทหารแนวหน้าของเราส่วนใหญ่มีโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคกระเพาะ โรคตับ โรคไต… สาเหตุหลักมาจากการดื่มแอลกอฮอล์…”.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

‘วิน ศิริวงศ์’ จูงมือแฟนสาว เข้าพิธีแต่งงานสุดอบอุ่น

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันที่ทหารเสียชีวิตคุณอยู่ไหน?

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ถอยเถิดทหารกล้า?

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

งานด่วนในมือ พม.

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ด่วน! ชาวบ้านผวา ได้ยินเสียงดังบนท้องฟ้าพร้อมลูกไฟขนาดใหญ่

Khaosod

อินเดียยังคงนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย แม้ทรัมป์ขู่ลงโทษ

JS100

สหราชอาณาจักรขู่จำคุกผู้ลักลอบขนคนเข้าเมืองที่ลงโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย

JS100

เผยวงจรปิดอีกมุม หลัง "เป๊ก ผลิตโชค" ถูกแทง ก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง

Khaosod

ไฟฟ้าดับวันนี้ 4-6 ส.ค.นี้ กทม. นนทบุรี สมุทรปราการ อัปเดตที่นี่

ฐานเศรษฐกิจ

อินเดียไม่สนคำขู่ทรัมป์ สั่งซื้อน้ำมันรัสเซียต่อ ด้านมอสโกเริ่มซ้อมรบร่วมกับจีน ในเขตทะเลญี่ปุ่น

Manager Online

ภูเขาไฟรัสเซียปะทุครั้งแรกในรอบกว่า 500 ปี

JS100

แฉทรัมป์‘หมกมุ่น’อยากได้รางวัลโนเบลสันติภาพ เพราะโหยหาเกียรติยศ-ริษยาโอบามา-ลิ่วล้อเชลียร์

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...