ชาวบราซิลจัดม็อบต่อต้านสหรัฐ ประท้วงทรัมป์รีดภาษี 50%
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบราซิเลีย ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ว่าประชาชนในกรุงบราซิเลีย และเมืองรีโอเดจาเนโร รวมตัวประท้วงตามท้องถนนในพื้นที่ เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อการที่รัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกเก็บภาษีจากบราซิลในอัตรา 50% สูงที่สุดในโลก
แม้การประท้วงดังกล่าวไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย แต่ยิ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ระหว่างรัฐบาลสหรัฐยุคทรัมป์กับบราซิล ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในลาตินอเมริกา
ทั้งนี้ ทรัมป์ไม่ปิดบังเหตุผลของตัวเองในการขึ้นภาษีกับบราซิล ว่าไม่เพียงแต่การที่อีกฝ่ายใช้นโยบายและอุปสรรคทางการค้า "ที่ไม่เป็นธรรมอย่างมาก" แต่ยังรวมไปถึงการที่บราซิล "ล่าแม่มด" ด้วยการสอบสวนและดำเนินคดีกับอดีตประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู พันธมิตรทางการเมืองของผู้นำสหรัฐคนปัจจุบัน ในข้อหากบฏ จากการพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งผู้นำ เมื่อปี 2565 ซึ่งโบลโซนารูพ่ายแพ้ให้กับประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ผู้นำบราซิลคนปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน สหรัฐยังใช้มาตรการคว่ำบาตรโดยตรงกับนายอเล็กซองเดร เดอ โมราเอส ผู้พิพากษาศาลฎีกาซึ่งสอบสวนโบลโซนารูในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เดอ โมราเอส ยืนยันว่า จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไป แม้ถูกรัฐบาลสหรัฐสั่งห้ามเข้าประเทศ และอายัดทรัพย์สินบางส่วนของโมราเอส หากมีอยู่ในสหรัฐ.
เครดิตภาพ : AFP