รวมพลังแผ่นดินฯ แถลงชัดลั่นจุดยืนไม่เอารัฐประหาร-อุ๊งอิ๊ง นัดชุมนุมใหญ่กลาง สิงหา.
กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ประกาศ 3 ภารกิจ “นายกฯ ออก-พรรครวมถอน-ปกป้องอธิปไตย” ย้ำไม่เอารัฐประหาร ไม่เอาแพทองธาร เตรียมชุมนุมใหญ่กลางเดือนสิงหาคม เผยยอดบริจาค 30 ล้าน ซื้อโดรน-อุปกรณ์ มอบกองทัพภาคที่ 2 เสริมความมั่นคงชายแดน
1 กรกฎาคม 2568 - ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายพิชิต ไชยมงคล นายนิติธร ล้ำเหลือ นายแก้วสรร อติโพธิ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และแกนนำกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย แถลงเดินหน้า 3 ภารกิจ คือ หนึ่ง นายกฯ ต้องออก สอง พรรครวมต้องถอนตัว สาม ปกป้องอธิปไตย โดยย้ำ “เราไม่เอารัฐประหาร และไม่เอาอุ๊งอิ๊ง” เช่นกัน
นายจตุพรย้ำว่า “พรรคเพื่อไทยที่บอกเกลียดรัฐประหาร แต่กลับใช้เสียง ส.ว.152 เสียง มาตั้งนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ เอาพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ มาร่วมรัฐบาล แต่ยังด่าประชาธิปัตย์เรื่องบอยคอตเลือกตั้ง ทั้งที่ยังร่วมรัฐบาลด้วย” ชี้เป็นพฤติกรรม “เกลียดเผด็จการแต่นอนกอดกับเผด็จการ” ปากอ้างประชาธิปไตยแต่ใจหนักกว่าเผด็จการ
ส่วนพรรคประชาชน นายจตุพรกล่าวว่า ไม่แปลกใจที่ ครม.ใหม่ มีตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ 2 คน และแถลงให้ประชาชนยุติการชุมนุม ทั้งที่การรัฐประหารไม่เคยเกิดจากการชุมนุม แต่เกิดจากการ “ทุจริต แทรกแซงองค์กรอิสระ สร้างความแตกแยก หมิ่นสถาบัน และขายชาติ” พร้อมถามกลับฝ่ายค้าน หากต้องการหยุดรัฐประหารจริง ต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างถึงที่สุด ทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจกรณี เลี่ยงภาษีตั๋ว P/N การรุกที่ดินเขาใหญ่ การโกงสนามกอล์ฟอัลไพน์ แต่กลับไม่เดินเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งที่มีเหตุเข้าข่าย
“บอกจะโรยเกลือ แต่สุดท้ายเหลือแค่สารส้มทุบ ถ้ายื่นศาลฯ น.ส.แพทองธารจะไปก่อนจะได้คุยกับฮุน เซน แต่พรรคประชาชนก็ไม่ทำ ยังไม่เห็นด้วยกับการยื่นอภิปรายปมคลิปหลุดความมั่นคงกับภูมิใจไทยด้วยซ้ำ สุดท้ายถามว่าคุณอยู่ฝ่ายไหนกันแน่” นายจตุพรกล่าว
พร้อมย้ำว่า “ถ้าฝ่ายค้านทำหน้าที่จริง ปิดประตูรัฐประหารได้ แต่เมื่อไม่ทำ ก็อย่าใส่ความประชาชนว่าเรียกร้องรัฐประหาร”
นายจตุพรยังกล่าวว่า เครือข่าย คปท. ปักหลักหน้าทำเนียบฯ ให้ประชาชนร่วมได้ทุกวัน พร้อมเตรียมเคลื่อนเวทีใหญ่ไปจังหวัดต่าง ๆ ตามสถานการณ์ โดยคาดว่า จะจัดชุมนุมใหญ่รอบใหม่กลางเดือนสิงหาคม ยืนยันข้อเรียกร้องเดิมให้ น.ส.แพทองธารลาออก แม้ปัจจุบันถูกคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว พร้อมย้ำอีกครั้ง “ไม่เอารัฐประหารเด็ดขาด” การยกระดับเคลื่อนไหวขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และเหตุผลการชุมนุมจะเป็นตัวกำหนดมวลชน
ด้าน นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เผยยอดบริจาคจากประชาชนตั้งแต่เปิดรับจนถึง 30 มิถุนายน รวม 30,771,060 บาท จากผู้บริจาค 56,200 คน ใช้ค่าใช้จ่ายกิจกรรมรวม 2,072,535 บาท เหลือ 28,698,525 บาท แบ่งมอบให้กองทัพภาคที่ 1 จำนวน 1,100,000 บาท และตามวัตถุประสงค์จัดสรรให้ กองทัพภาคที่ 2 จำนวน 27,598,535 บาท
โดยกองทัพภาคที่ 2 ประสงค์ไม่รับเงินสด แต่แจ้งความต้องการอุปกรณ์เสริมความมั่นคง นายปานเทพระบุว่า จะจัดซื้อ โดรนลาดตระเวนป่าไม้กลางคืน ห้องน้ำสำเร็จรูป ถังน้ำ ตู้คอนเทนเนอร์ แผ่นพื้นคอนกรีต รถตัดหน้าขุดหลัง เครื่องปั่นไฟ แผงโซลาร์เซลล์ และอุปกรณ์จำเป็นอื่น ๆ วงเงินราว 25 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 2 ล้านบาท จะประสานจัดซื้อเพิ่มเติมให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อความมั่นคง โดยจะส่งมอบที่ ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ในเร็ว ๆ นี้.