โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

บาทปรับตัวแข็งค่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการค้าโลก

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เงินบาทปรับตัวแข็งค่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการค้าโลก หลังสหรัฐประกาศขึ้นภาษีนำเข้า EU-เม็กซิโก 30%

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพรายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม 2568 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (14/7) ที่ระดับ 32.40/42 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (11/7) ที่ระดับ 32.49/50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (12/7) ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศผ่านช่องทางทรูธโซเชียล (Truth Social) ว่าสหรัฐจะเรียกเก็บภาษีอัตรา 30% กับสหภาพยุโรป (EU) และเม็กซิโก โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค. 2568

โดยรายละเอียดในจดหมาย นายทรัมป์ระบุว่า เม็กซิโกได้พยายามสกัดกั้นการหลั่งไหลของผู้อพยพผิดกฎหมายและยาเฟนทานิลเข้าสู่สหรัฐ แต่อย่างไรก็ตามยังคงไม่พอที่จะหยุดยั้งอเมริกาเหนือไม่ให้เป็นแหล่งซ่องสุมการค้ายาเสพติด สำหรับสหภาพยุโรป (EU) นายทรัมป์กล่าวว่า การขาดดุลการค้าของสหรัฐต่อ EU นั้นถือเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ

อย่างไรก็ตามเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้ออกมาแถลงการณ์ในวันเดียวกันว่า การที่สหรัฐเรียกเก็บภาษี 30% สำหรับสินค้าที่นำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) นั้นจะส่งผกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานระหว่างสองฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก โดยสร้างความเสียหายต่อธุรกิจและผู้บริโภค

ทั้งนี้ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EU) ได้เน้นย้ำว่าจะเจรจาเพื่อหาข้อบรรลุร่วมกันและพร้อมจะปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของ EU หากการเจรจาไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ และพร้อมที่จะใช้มาตรการตอบโต้หากจำเป็น

นอกจากนี้ทางเม็กซิโกก็ได้ออกมาแถลงการณ์ในวันเดียวกันว่าการที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีถึง 30% นั้นไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง พร้อมกล่าวว่าเพื่อปกป้องภาคธุรกิจและการจ้างงานทั้งสองฝั่งชายแดน ทั้งสองประเทศตกลงที่จะจัดตั้งคณะทวิภาคี เพื่อแก้ไขประเด็นต่าง ๆ และเพื่อหลีกเลี่ยงการบังคับใช้มาตรการภาษีนี้

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ วันนี้ (14/7) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวถึงเรื่องการเจรจาภาษีสหรัฐว่าทางไทยยังยึดมั่นจุดยืนในการเจรจากับสหรัฐ โดยไทยจะเปิดตลาดให้กว้างขึ้นเป็นประเภทสินค้าที่สหรัฐอยากขาย และที่ไทยอยากซื้อ แต่จะพิจารณาไม่ให้กระทบกับการทำ FTA ประเทศต่าง ๆ นอกจากนี้ยังต้องการส่งเสริมการลงทุนของธุรกิจไทยที่อยู่ในสหรัฐ เนื่องจากสหรัฐต้องการเพิ่มมูลค่าการส่งออกและทำให้ฐานผลิตในประเทศแข็งแรงขึ้น

และสุดท้ายคือการให้ความสำคัญกับการป้องกันการสวมสิทธิ์สินค้า โดยข้อเสนอของสหรัฐจะเป็นการเพิ่มการใช้ส่วนประกอบหรือวัตถุดิบที่มีการผลิตในประเทศไทย (Local Content) โดยอาจจะเพิ่มเป็น 60-70% ที่เป็นต้นทุนที่จะใช้ Local Content จากไทย เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ ทั้งนี้นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทยได้กล่าวว่า ไทยจะต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเป็นการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และควรจะพัฒนาเกษตรแปลงใหญ่ เนื่องจากจะช่วยลดต้นทุนการผลิต

ยิ่งไปกว่านั้นในปัจจุบันหลาย ๆ ประเทศให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะคน ด้านการท่องเที่ยวรวมถึงด้านอาหารมากขึ้น เพราะจะช่วยส่งเสริมให้ประเทสมีความยั่งยืน ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 32.37-32.46 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ 32.39/40 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (14/7) ที่ระดับ 1.1695/98 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ทรงตัวจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (11/7) ที่ระดับ 1.1694/95 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กล่าวว่าจะยังคงดำเนินการนโยบายทั้งสองทางโดยการเปิดโต๊ะเจรจาและเตรียมมาตรการตอบโต้ควบคู่กันไป และการที่ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปได้ย้ำตลอดว่าต้องการหาทางออกผ่านการเจรจานั้น สะท้อนให้เห็นว่าสหภาพยุโรปต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาสงครามการค้า ตราบใดที่้ยังมีโอกาสเจรจา

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีฟรีดริช แมร์ซ ของเยอรมนีกล่าวว่า หากผลกระทบของภาษีนำเข้าของสหรัฐนั้นเกิดขึ้นจริง ทางเยอรมนีคงต้องชะลอแผนนโยบายเศรษฐกิจส่วนใหญ่ไว้ก่อน เพราะอาจส่งผลรุนแรงถึงอุตสาหกรรมส่งออกของเยอรมนี ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสงครามการค้านี้ ทางสหภาพยุโรปได้พยายามที่จะสร้างพันธมิตรเพิ่ม

โดยล่าสุดฟอน เดอร์ เลเยน ประกาศว่าได้บรรลุข้อตกลงกับอินโดนีเซียแล้วเรื่องการเมือง เพื่อเป็นการเดินหน้าของข้อตกลงทางการค้า ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1651-1.1697 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1684/86 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (14/7) ที่ระดับ 146.93/94 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (11/7) ที่ระดับ 146.99/00 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ วันนี้ (14/7) สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายทรัมป์กล่าวว่าเมื่อเทียบกับสหภาพยุโรปเรื่องการเปิดประเทศ ญี่ปุ่นนั้นอยู่ในระดับที่ต่ำกว่ามาก และยังกล่าวถึงเรื่องการนำเข้ารถยนต์จากญี่ปุ่น

โดยระบุว่าทางญี่ปุ่นขายรถยนต์ให้กับสหรัฐหลายล้านคันต่อปี แต่ทางญี่ปุ่นไม่ยอมรับสินค้าทั้งรถยนต์รวมถึงสินค้าเกษตรจากทางสหรัฐเลย อย่างไรก็ตามญี่ปุ่นเปลี่ยนท่าทีการเจรจาอย่างรวดเร็วหลังจากที่ทางสหรัฐ ส่งจดหมายเรียกเก็บภาษีนำเข้าญี่ปุ่นที่ 25% ซึ่งส่งสัญญาณถึงความคืบหน้าและบรรลุข้อตกลงในไม่ช้านี้ ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 146.86-147.22 เบย/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ 147.22/23 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับปัจจัยที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2568 ของจีน (15/7), ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน มิ.ย. ของสหรัฐ (15/7), ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน มิ.ย.ของสหรัฐ (16/7), รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) (7/7), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ (17/7), ยอดค้าปลีกเดือน มิ.ย.ของสหรัฐ (17/7), ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือน มิ.ย.ของสหรัฐ (17/7), และอัตราเงินฟ้อเดือน มิ.ย.ของญี่ปุ่น (18/7)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -8.1/-7.9 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -5/-4.2 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : บาทปรับตัวแข็งค่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการค้าโลก

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ประชาชาติธุรกิจ

สธ. ออกประกาศ ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 ก.ค. ย้อนหลัง 10 ปี

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

อู่ซ่อมพอร์ต EP.66 | เงินต้นทาง 2.3 ล้าน มีทั้งหุ้นและกองทุนรวม จัดพอร์ตไม่สมดุล ขาดของที่ควรมี

เทรเชอริสต์

3 อันดับกลุ่มกองทุนที่ดัชนีเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นสูงสุด และ ลดลงมากที่สุด ใน 1 สัปดาห์ ( ศุกร์ที่ 4 ก.ค. 68 เทียบกับ ศุกร์ที่ 27 มิ.ย. 68)

เทรเชอริสต์

ดัชนีกองทุนเทรเชอริสต์ รายสัปดาห์ ( ข้อมูล ณ ศุกร์ที่ 4 ก.ค. 68 เทียบกับ ศุกร์ที่ 27 มิ.ย. 68 )

เทรเชอริสต์

[Vision Exclusive] TU แนะเปิดเจรจา FTA หวังต่อรองภาษีสหรัฐ

หุ้นวิชั่น

2 บิ๊ก"อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต"รุกจัดงานสัมมนาผู้บริหารตัวแทนประจำปี 2568

สยามรัฐ

EKH จบซื้อหุ้นคืน 342 ล้านบาท 55 ล้านหุ้น จากวงเงินไม่เกิน 400 ล้านบาท ตั้งแต่ 13ม.ค.-11ก.ค.

กรุงเทพธุรกิจ

GULF เพิ่มสัดส่วนถือหุ้น “AISBB” เป็น 50% เท่ากับ ADVANC

หุ้นวิชั่น

GULF เปิดตัว Data Center และ คลาวด์ ปี 69 หลังซื้อหุ้นเพิ่ม "เอไอเอส บรอดแบนด์" จาก ADVANC

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

บาทปรับตัวแข็งค่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการค้าโลก

ประชาชาติธุรกิจ

ราคาทองวันนี้ (14 ก.ค. 68) ดีดขึ้น 200 บาท รูปพรรณบาทละ 52,450 บาท

ประชาชาติธุรกิจ

BON Coffee ชูกลยุทธ์รุก ตจว. - ออนไลน์โฟกัส B2C รับมือเศรษฐกิจ

ประชาชาติธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...