ไทยอยากคุยตรงกัมพูชายุติขัดแย้งมากกว่าให้ฝ่ายที่ 3 ไกล่เกลี่ย
ขณะที่ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชากำลังระอุ โดยวันนี้ (25 ก.ค.) ทั้งสองฝ่ายยิงปะทะกันเป็นวันที่ 2 นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับรอยเตอร์ว่า สหรัฐ จีน และมาเลเซีย ผู้เป็นประธานอาเซียนได้เสนออำนวยความสะดวกในการหารือ แต่ไทยพยายามจะใช้การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งแบบทวิภาคี
“ผมไม่คิดว่าเราจำเป็นต้องมีการไกล่เกลี่ยจากประเทศสาม”
“เรายืนหยัดในจุดยืนของเราว่ากลไกทวิภาคีเป็นทางออกที่ดีที่สุด นี่คือการเผชิญหน้าระหว่างสองประเทศ” นิกรเดชกล่าว พร้อมเสริมว่าฝ่ายกัมพูชาต้องยุติความรุนแรงตามแนวชายแดนก่อน
“ประตูของเรายังคงเปิดอยู่” โฆษกกระทรวงต่างประเทศไทยย้ำ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย กล่าวในวันพฤหัสบดี (24 กค.) ว่า ได้พูดคุยกับผู้นำทั้งสองประเทศแล้วและเรียกร้องให้หาทางออกอย่างสันติ
“เราขอบคุณ (สำหรับข้อเสนอ) และไม่อยากตัดความเป็นไปได้ที่ประเทศที่ 3 จะมาช่วย แต่ตอนนี้เราเชื่อว่า กลไกทวิภาคียังไม่หมดหนทาง” นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวกับผู้สื่อข่าว
ด้านนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตของกัมพูชลา โพสต์โซเชียลมีเดียเมื่อคืนวันศุกร์ว่า ตอนแรกทั้งไทยและกัมพูชาเห็นชอบข้อเสนอหยุดยิงของอันวาร์ แต่ต่อมาไทยเปลี่ยนใจ
ในประเด็นนี้ เมื่อราว 20.30 น.วันนี้ (25 ก.ค.) กระทรวงการต่างประเทศแถลงผ่านโซเชียลมีเดียว่า
“ รัฐบาลไทยขอขอบคุณท่าน นรม. Anwar Ibrahim สำหรับข้อเสนอหยุดยิงที่ไทยเห็นด้วยอย่างยิ่งในหลักการและพร้อมพิจารณา อย่างไรก็ดี ฝ่ายกัมพูชายังคงโจมตีไทยอย่างต่อเนื่องตลอดวันโดยไม่เลือกเป้า ดังนั้น ตามข้อเท็จจริง การหยุดยิงใด ๆ ต้องมีเงื่อนไขที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่ โดยฝ่ายไทยให้ความสำคัญในลำดับต้นกับความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และขณะนี้ การกระทำของฝ่ายกัมพูชายังคงแสดงออกถึงความไม่จริงใจ และยังคงทำให้พี่น้องประชาชนคนไทยตกอยู่ในอันตราย ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติและพี่น้องประชาชนจนถึงที่สุด”