เปิดประวัติ “สุชาติ ตันเจริญ” หลังยื่นลาออก สส.เพื่อไทย
เปิดประวัติ “สุชาติ ตันเจริญ”
- นายสุชาติ ตันเจริญ
- เกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2501
- เป็นน้องชายของนายพิเชษฐ์ ตันเจริญ อดีตรมช.พาณิชย์
- มีบุตรชาย 2 คน คือ นายคชาภา ตันเจริญ หรือ มดดำ ดาราและพิธีกรชื่อดัง
- นายศักดิ์ชาย ตันเจริญ (มดเล็ก) อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา และได้รับเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป ในปี 2566 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดฉะเชิงเทรา เขตเลือกตั้งที่ 3 สังกัดพรรคเพื่อไทย
ประวัติการศึกษา
- สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมศาสตร์ จาก Notre Dame College ประเทศสหรัฐอเมริกา
- จากนั้นศึกษาต่อในระดับปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ จาก Notre Dame College ประเทศสหรัฐอเมริกา
เส้นทางการเมือง
สุชาติ ตันเจริญ มีประสบการณ์ในการทำงานด้านการเมืองมาอย่างยาวนานกว่า ด้วยการดำรงตำแหน่งสำคัญต่างๆ ในระบบการเมืองไทย โดยเฉพาะการเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ในปี 2562 และการเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลสุจินดา คราประยูร เมื่อปี 2535 และในรัฐบาลบรรหาร ศิลปอาชา เมื่อช่วงปี 2538
การทำงานของเขาในสภาผู้แทนราษฎรมีความต่อเนื่องยาวนาน โดยได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในหลายสมัย ตั้งแต่ปี 2529 จนถึงปี 2562 รวม 8 สมัย
สุชาติ ตันเจริญ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดฉะเชิงเทรา 9 สมัย เคยสังกัดพรรคการเมืองหลายพรรค ทั้ง พรรคประชาธิปัตย์ พรรคสามัคคีธรรม พรรคไท พรรคชาติไทย พรรคไทยรักไทย ก่อนที่จะย้ายไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยในปี 2566 และได้รับเลือกตั้งเป็น สส.บัญชีรายชื่อ
ตามข้อมูลที่ระบุว่าเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 8 ของพรรคเพื่อไทย และได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2568
นายสุชาติ เปิดเผยถึงเหตุผลการลาออกว่า เป็นความตั้งใจเดิม ที่จะลาออกจากตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เนื่องจากตำแหน่งรัฐมนตรีต้องทำงานเต็มเวลา ทำให้ไม่มีเวลาเข้าไปช่วยงานสภาได้อย่างเต็มที่
ธรรมเนียมปฏิบัติของ สส.บัญชีรายชื่อ ที่ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่ผ่านมายังไม่มีการลาออก แต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีเป็นการทำงานเต็มเวลาอยู่แล้ว ทั้งนี้ในสถานการณ์ที่สภามีเสียงปริ่มน้ำ การลาออกครั้งนี้จะเปิดทางให้ สส.บัญชีรายชื่อ ในลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมาทำหน้าที่แทน
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ