ทรัมป์ บรรลุข้อตกลงการค้าเวียดนาม เรียกเก็บภาษีนำเข้า 20%
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศผ่าน Truth Social ว่าสหรัฐอเมริกาบรรลุข้อตกลงการค้าฉบับใหม่กับเวียดนาม โดยถือเป็นข้อตกลงสำคัญลำดับที่ 3 ของรัฐบาลทรัมป์ที่เกิดขึ้นก่อนถึงเส้นตายวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ ซึ่งจะสิ้นสุดระยะเวลาการชะลอการเก็บภาษีตอบโต้ (reciprocal tariffs)
ทรัมป์ระบุว่า สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเวียดนามในอัตรา 20% เพิ่มจากอัตราปัจจุบันที่ราว 10% และจะเก็บภาษี 40% สำหรับกรณี “การส่งผ่านสินค้า” (transshipping) หรือสินค้าที่มีต้นทางจากประเทศที่สามแต่ส่งออกผ่านเวียดนามมายังสหรัฐฯ โดยนายฮาวเวิร์ด ลัตนิค รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ ยืนยันรายละเอียดนี้ผ่านโพสต์บนแพลตฟอร์ม X
ในขณะที่ฝั่งเวียดนามยังไม่มีถ้อยแถลงยืนยันข้อตกลงอย่างเป็นทางการ โดยสื่อทางการของเวียดนาม Việt Nam News รายงานว่า นายโต เลิม เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีอำนาจสูงสุดในประเทศ ได้หารือทางโทรศัพท์กับทรัมป์ โดยระบุว่าทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการปรับรายละเอียดของ “กรอบความร่วมมือ” ซึ่งยังไม่ถือว่าเป็นข้อตกลงขั้นสุดท้าย พร้อมรายงานว่าเวียดนามเสนอให้สหรัฐฯ รับรองสถานะ “เศรษฐกิจตลาด” และผ่อนคลายข้อจำกัดในการส่งออกสินค้ากลุ่มเทคโนโลยีขั้นสูง
อย่างไรก็ตาม ทางทรัมป์ยังอ้างว่าเวียดนามจะ “เปิดตลาดให้กับสหรัฐฯ อย่างเต็มที่” เป็นครั้งแรก โดยสหรัฐฯ จะสามารถส่งออกสินค้าไปยังเวียดนามโดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าเลย (zero tariff) ซึ่งหากเป็นจริง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายสำคัญของเวียดนามที่ยังไม่มีการยืนยันจากทางการ
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ เตรียมขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากเวียดนามสูงสุดถึง 46% หากไม่บรรลุข้อตกลงทันเส้นตาย ในวันที่ 9 กรกฎาคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการตอบโต้ทางการค้าที่อาจกระทบตลาดโลก