โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

นโยบายภาษีทรัมป์เปลี่ยนเกมการค้าโลกอย่างไรในปี 2025

TNN ช่อง16

เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ทรัมป์ส่งหนังสือยืนยันเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย 36% เริ่ม 1 สิงหาคม 2568 รัฐบาลไทยเปิดแผนรับมือ ดันทีมเจรจาเดินหน้าเต็มที่ ขณะธุรกิจไทยเร่งปรับกลยุทธ์–เบนตลาดสู่อาเซียน

เมื่อทรัมป์ประกาศภาษี ไทยต้องเตรียมรับมือเกมใหม่ของโลกการค้า

การประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 คือสัญญาณชัดเจนว่าระบบการค้าโลกกำลังก้าวเข้าสู่บทใหม่อีกครั้ง ในจดหมายทางการที่ส่งถึงรัฐบาลไทย ทรัมป์ยืนยันอัตราภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าจากประเทศไทยที่ 36 เปอร์เซ็นต์ โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ถือเป็นการดำเนินนโยบายอย่างเป็นทางการครั้งแรกหลังกลับเข้าสู่ทำเนียบขาว พร้อมกับแนวคิดปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศผ่านกลไกภาษีที่เข้มข้น

แม้จะไม่ใช่การประกาศขึ้นภาษีต่อประเทศไทยเพียงประเทศเดียว แต่นี่คือระดับภาษีที่สูงกว่าหลายประเทศในภูมิภาคเดียวกัน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเวียดนามที่อัตราภาษีถูกลดลงเหลือเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ ไทยจึงกำลังเผชิญข้อเสียเปรียบในการแข่งขันโดยตรงในตลาดสหรัฐฯ และอาจต้องทบทวนยุทธศาสตร์ส่งออกครั้งใหญ่ในระยะเวลาอันใกล้

เกมเจรจาที่ยังไม่จบ

ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันเดียวกัน นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รายงานต่อที่ประชุมว่าการเจรจากับฝ่ายสหรัฐฯ ยังคงดำเนินอยู่ โดยข้อเสนอจากฝ่ายไทยได้รับการตอบรับในบางส่วน แต่ยังไม่สามารถตกผลึกได้ทั้งหมด ท่าทีจากวอชิงตันครั้งนี้จึงอาจมองได้ว่าเป็นการเปิดช่องให้ทั้งสองฝ่ายมีเวลาปรับจูนจุดยืนให้ลงตัวภายในเดือนกรกฎาคม ก่อนที่มาตรการภาษีจะเริ่มบังคับใช้จริงในเดือนถัดไป

ในมุมของรัฐบาลไทย การเข้าสู่โต๊ะเจรจาถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะพยายามลดผลกระทบต่อภาคธุรกิจไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมหลักที่มีสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกอันดับต้น ๆ ขณะที่ฝ่ายการคลังยังยืนยันว่าจะใช้เวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อหาข้อสรุปที่อยู่บนฐานของผลประโยชน์ร่วม ไม่ใช่การยอมจำนนทางการค้า

งบเยียวยาและมาตรการรองรับ

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลได้กันงบประมาณไว้ล่วงหน้าเพื่อใช้ดูแลกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโครงสร้างภาษีใหม่ วงเงินเฟสแรกอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงบกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568 และยังมีวงเงินสำรองอีก 40,000 ล้านบาท สำหรับกรณีฉุกเฉินหากการเจรจาไม่บรรลุผลหรือสถานการณ์ยืดเยื้อเกินความคาดหมาย

อย่างไรก็ตาม การใช้เงินเหล่านี้ยังไม่เริ่มต้นจนกว่าผลการเจรจาจะชัดเจน โดยรัฐบาลเน้นวางหลักเกณฑ์ให้สามารถช่วยเหลือได้ตรงจุดในทั้งสองภาค คือ ภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาษีนำเข้า และภาคเกษตรที่เกี่ยวเนื่องกับห่วงโซ่อุปทาน

คำถามใหญ่คือ หากการเจรจาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีได้ทันเวลา งบเยียวยาเหล่านี้จะสามารถประคับประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นแรงกระแทกในระยะสั้นได้จริงหรือไม่

การปรับตัวของภาคธุรกิจท่ามกลางความกดดัน

ข้อมูลจากผลสำรวจ UOB Business Outlook Study 2025 สะท้อนภาพการตื่นตัวของภาคธุรกิจไทยต่อแรงกดดันจากภาษีนำเข้า โดยตัวเลขความเชื่อมั่นลดลงจาก 58 เปอร์เซ็นต์เหลือ 52 เปอร์เซ็นต์ หลังข่าวการเก็บภาษีปรากฏในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา

แม้จะมีความกังวลชัดเจน แต่ธุรกิจไทยส่วนใหญ่กลับแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มเชิงรุกในการปรับตัว หลายกิจการเริ่มมุ่งขยายตลาดใหม่ภายในภูมิภาคอาเซียน เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม รวมถึงบางรายที่เริ่มหันกลับมาให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศมากขึ้น ในขณะเดียวกัน มีแนวโน้มเพิ่มการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อจัดการห่วงโซ่อุปทาน และพัฒนาแนวทางด้านความยั่งยืนผ่านกลยุทธ์ ESG

ประเด็นที่น่าจับตาคือ ภาคธุรกิจขนาดกลางจำนวนไม่น้อยเริ่มวางแผนใช้พลังงานหมุนเวียน และหันมาออกแบบองค์กรให้สอดรับกับความคาดหวังของผู้บริโภครุ่นใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น

ปัญหาแรงงานและความพร้อมในการเปลี่ยนผ่าน

แรงงานยังคงเป็นปัจจัยท้าทายที่สุดสำหรับหลายธุรกิจ โดยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ระบุว่ายังขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ และมีปัญหาในการรักษาพนักงานไว้ในองค์กร ยิ่งในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน และตลาดแรงงานมีแรงดึงดูดจากหลายทิศทาง การรักษาคนจึงกลายเป็นโจทย์ที่ซับซ้อนมากขึ้น

ในเวลาเดียวกัน เทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยเฉพาะระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ก็กำลังเข้ามามีบทบาทในองค์กรหลายแห่ง ไม่ใช่เพียงเพื่อทดแทนแรงงานเท่านั้น แต่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในส่วนงานต่าง ๆ เช่น การจัดการข้อมูล การบริหารสต๊อกสินค้า หรือแม้แต่การให้บริการลูกค้า

สิ่งที่ปรากฏจากแนวโน้มนี้คือ ภาคธุรกิจไทยกำลังเปลี่ยนผ่านจากการปรับตัวเชิงรับไปสู่การปรับโครงสร้างเชิงรุก เพื่อลดการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่ง และเพิ่มภูมิคุ้มกันในยุคที่กฎเกมการค้าเปลี่ยนแปลงเร็วและรุนแรงกว่าที่เคย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TNN ช่อง16

รู้จักกับ (Embryo freezing) การแช่แข็งตัวอ่อน เพิ่มอัตราการตั้งครรภ์ ความหวังของคนอยากมีลูก

21 นาทีที่แล้ว

คนไทยอ่านหนังสืออะไร อ่านมากแค่ไหน ? สํารวจพฤติกรรมการอ่าน-ซื้อหนังสือของคนไทย ปี 67

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

สภาพอากาศวันนี้ -14 ก.ค.ไทยฝนฉ่ำ ฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นสูง 1-2 เมตร

ฐานเศรษฐกิจ

หนุ่มสุรินทร์ขับขี่รถจักรยานยนต์ พุ่งเข้ากลางลำรถเทรลเลอร์ เสียชีวิตสภาพเดิมกลางถนน จ.ชลบุรี

สวพ.FM91

เครื่องกรองน้ำยี่ห้อดัง แจงปมสงสัย ประสิทธิภาพระบบกรอง RO

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

จดหมายแจ้งภาษีทรัมป์ถึง “ไทย” ว่อนโซเชียลจั่วหัวถึง “รักษาการนายกฯสุริยะ –คิงร.10” ย้ำมีบวกเพิ่มแน่ถ้าตอบโต้ นักวิเคราะห์เตือน ถ้าทีมไทยแลนด์เจรจาล้มเหลว เตรียมเดินหน้าเข้าสู่เศรษฐกิจถดถอย

Manager Online

‘พิชัย’ ลั่นยังมีเวลาถึง 1 ส.ค. โน้มน้าวสหรัฐทบทวนเก็บภาษีสินค้าไทย

The Bangkok Insight

เสียงปริ่มน้ำ รัฐบาลเหนื่อย บีบนายกฯ เลือกทางออก

ไทยโพสต์

ฉบับวันที่ 9 กรกฎาคม 2568

ไทยโพสต์

ศาลตีตกทักษิณ ขอพิจารณาลับ ไต่สวน9ผู้คุมคุก

ไทยโพสต์

ข่าวและบทความยอดนิยม

ทองลงต่อนักลงทุนคลายกังวล สงครามการค้า สหรัฐฯ -ยุโรป

TNN ช่อง16

ทองเริ่มย่อตัว ทดสอบแนวรับสำคัญ 3,310 ดอลลาร์

TNN ช่อง16

ทองคำปรับขึ้นแรงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ได้รับปัจจัยหนุนเงินดอลลาร์อ่อนค่า นักลงทุนจีนเข้าซื้อทองคำอย่างคึกคัก

TNN ช่อง16
ดูเพิ่ม
Loading...