เจาะแผน ESTAR ครึ่งปีหลัง บุกตลาดบ้านหรูกรุงเทพฯ-ระยอง 3,500 ล้าน
บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR เดินหน้าเร่งเครื่องธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 ประกาศปรับกลยุทธ์องค์กรครั้งใหญ่ ด้วยการขยับสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่แบบเต็มตัว ภายใต้แนวคิด “Creating What’s Different” ชู 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 3,500 ล้านบาท บน 2 ทำเลศักยภาพ “กาญจนาภิเษก–พุทธมณฑลสาย 1” และ “บ้านฉาง–ระยอง”
นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการ ESTAR เผยว่า ปีนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของบริษัทที่ไม่ได้เน้นแค่ยอดขาย แต่ต้องการส่งมอบประสบการณ์อยู่อาศัยที่เหนือระดับ โดยใช้กลยุทธ์ 4 แกนหลัก ได้แก่ การโฟกัสกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูง, เลือกช่วงเวลาเปิดตัวที่เหมาะสม, ยกระดับคุณภาพดีไซน์ และการปักหมุดในทำเลเชื่อมเมืองคุณภาพ
โครงการเรือธงของครึ่งปีหลัง ได้แก่
- แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ กาญจนาภิเษก–พุทธมณฑล สาย 1 มูลค่า 1,500 ล้านบาท บ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ราคา 20–30 ล้านบาท เจาะกลุ่มผู้ซื้อระดับบนโดยเฉพาะ
ขณะเดียวกัน ESTAR ยังเดินหน้าเสริมพอร์ตในระยอง ซึ่งเป็นตลาดที่แข็งแกร่งต่อเนื่องในกลุ่มบ้านแนวราบของ ESTAR โดยมีไฮไลต์ 3 โครงการใหม่ ได้แก่
- แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ อู่ตะเภา–บ้านฉาง มูลค่า 1,100 ล้านบาท ราคา 11–20 ล้านบาท เปิดขายแล้วและมียอดขายเฟสแรกกว่า 70%
- แกรนด์ เธร่า พรีม่า บูรพาพัฒน์–สุขุมวิท มูลค่า 200 ล้านบาท เตรียมเปิดขายไตรมาส 3
- เวลาน่า บูรพาพัฒน์–สุขุมวิท มูลค่า 700 ล้านบาท ดีไซน์แบบ French Villa เตรียมเปิดตัวไตรมาส 4
ทั้ง 3 โครงการออกแบบเพื่อรองรับดีมานด์กลุ่มผู้ซื้อระดับกลางถึงบนที่ยังมีศักยภาพสูงในพื้นที่ EEC โดยเฉพาะบ้านฉาง ซึ่งกำลังได้รับแรงหนุนจากการพัฒนาเมืองการบินภาคตะวันออกและสนามบินอู่ตะเภา
ข้อมูลจากสศช. ระบุว่า ระยองมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงสุดในประเทศ ขณะที่ตลาดบ้านแนวราบใน EEC มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง คิดเป็น 34% ของตลาดบ้านแนวราบทั้งประเทศ ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ ESTAR ตั้งใจจับให้มั่นในระยะยาว
ไม่เพียงโครงการเพื่อขาย ESTAR ยังวางแผนธุรกิจรายได้ประจำ (recurring income) ผ่านโครงการ SEASTAR Serviced Apartment & Hotel และคลับสุขภาพ The Sphere Sport Club ที่ตั้งเป้ารายได้แตะ 50 ล้านบาทในปีนี้ พร้อมขยายบริการ One Stop Living Service สำหรับลูกบ้านเพื่อสร้างระบบนิเวศอยู่อาศัยครบวงจร
นายไพโรจน์ย้ำว่า ครึ่งปีหลัง ESTAR ตั้งเป้ารายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ให้ได้ตามแผน 2,000 ล้านบาท จากแรงส่งของยอดโอนครึ่งปีแรกและแบ็กล็อกที่รอส่งมอบกว่า 1,000 ล้านบาท พร้อมผลักดันให้แบรนด์พร้อมเข้าสู่การแข่งขันในตลาดอสังหาฯ ระดับลักชัวรีอย่างแท้จริง