สื่อดังไขข้อสงสัย มือถือของคนเกาหลีเหนือเป็นยังไง แชตได้เหมือนคนทั่วโลกไหม?
สมาร์ตโฟนที่ลักลอบนำออกมาจากเกาหลีเหนือ เผยรายละเอียดสุดสะพรึง ภายใต้ระบอบเผด็จการของ "คิมจองอึน"
BBC ได้รับสมาร์ตโฟนเครื่องหนึ่งที่สามารถหลุดออกมาจากเกาหลีเหนือได้สำเร็จ
สมาร์ตโฟนที่ถูกลักลอบนำออกจากเกาหลีเหนือ เผยให้เห็นระดับการควบคุมประชาชนอย่างเข้มงวดภายใต้ระบอบเผด็จการของ "คิมจองอึน"
นับตั้งแต่ราชวงศ์คิมเริ่มปกครองประเทศในปี 1948 เกาหลีเหนือก็แทบจะตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง โดยมีคิมจองอึนเป็นผู้นำคนที่ 3 ในตระกูล
วิถีชีวิตของชาวเกาหลีเหนือและการปกครองแบบเผด็จการยังคงเป็นปริศนาให้คนทั่วโลกสงสัย ดังนั้นเมื่อ BBC สามารถได้มาซึ่งสมาร์ตโฟนที่ลักลอบนำออกมาจากประเทศเมื่อปีที่แล้ว จึงเป็นเรื่องน่าทึ่งไม่น้อยที่จะได้เห็นว่าโทรศัพท์ถูกปรับเปลี่ยนอย่างไร เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีที่คนทั่วโลกใช้อยู่ในปัจจุบัน
ภายนอกสมาร์ตโฟนเครื่องนี้ดูไม่ต่างจากโทรศัพท์มือถือทั่วไป แต่จากการสืบสวนล่าสุดพบว่า ตัวเครื่องถูกจำกัดการใช้งานอย่างเข้มงวด และไม่สามารถปลดล็อกข้อจำกัดเหล่านี้ได้
ในวิดีโอที่ BBC เผยแพร่ จีน แม็คเคนซี ผู้สื่อข่าวประจำกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ได้ลองพิมพ์คำบางคำและคำสั่งบางอย่างลงในโทรศัพท์ ซึ่งถูกระบบปิดกั้นทันทีแบบอัตโนมัติ
ระบบแก้คำอัตโนมัติ
เมื่อเธอลองพิมพ์คำว่า "โอปป้า" ซึ่งในภาษาเกาหลีเหนือหมายถึง "พี่ชาย" แต่ในภาษาแสลงของเกาหลีใต้ใช้เรียกแฟนหนุ่ม โทรศัพท์จะเปลี่ยนคำนี้โดยอัตโนมัติเป็น "สหาย" ทันที
จากนั้นมีข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ระบุว่าคำว่า “โอปป้า” สามารถใช้ได้เฉพาะกับพี่ชายเท่านั้น
ภาพหน้าจออัตโนมัติ
โทรศัพท์เครื่องนี้ยังถูกตั้งค่าให้จับภาพหน้าจออัตโนมัติทุก ๆ 5 นาที โดยภาพทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ลับที่ผู้ใช้สามารถเห็นได้ แต่ไม่สามารถเปิดดูหรือเข้าถึงได้
ดูเหมือนว่ามีเพียงเจ้าหน้าที่รัฐบาลเท่านั้นที่สามารถดึงภาพเหล่านี้ออกมาได้ สะท้อนให้เห็นถึงการเฝ้าจับตาพฤติกรรมผู้ใช้อย่างต่อเนื่องและรอบคอบ
BBC
ชาวเกาหลีเหนือแอบลักลอบนำข่าวและรายการทีวีจากต่างประเทศเข้ามา
“เกาหลีเหนือเป็นประเทศเดียวในโลกที่อินเทอร์เน็ตแทบไม่มีอิทธิพลเลย สถานีโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ทั้งหมดถูกควบคุมโดยรัฐ” แม็คเคนซี กล่าวไว้ในบทความของเธอ
“เหตุผลที่ต้องควบคุมเข้มงวดเช่นนี้ก็เพราะเรื่องราวเกี่ยวกับตระกูลคิมจำนวนมากเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น สิ่งที่พวกเขาเล่าให้ประชาชนฟังหลายอย่างไม่ใช่ความจริง” มาร์ติน วิลเลียมส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและข้อมูลข่าวสารของเกาหลีเหนือ ให้ความเห็น
แม็คเคนซี ยังระบุว่า “ทุกเดือนมีแฟลชไดรฟ์และการ์ด micro-SD นับพันชิ้นถูกลักลอบข้ามพรมแดนเข้ามา โดยบรรจุข้อมูลและเนื้อหาจากต่างประเทศไว้เต็มไปหมด”
เธอเล่าว่า การ์ด SD เหล่านั้นบรรจุ “ภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ และเพลงป๊อปจากเกาหลีใต้ รวมถึงข่าวต่างประเทศ” ซึ่งล้วนถูกออกแบบมาเพื่อท้าทายโฆษณาชวนเชื่อของเกาหลีเหนือ
“บางคนเล่าให้เราฟังว่า พวกเขาร้องไห้ขณะดูละครเหล่านี้ และเป็นครั้งแรกที่เริ่มตั้งคำถามกับความฝันของตัวเอง” อี กวางแบค ผู้อำนวยการกลุ่ม Unification Media Group (UMG) องค์กรไม่แสวงหากำไรในเกาหลีใต้กล่าว
คัง กยูริ วัย 24 ปี เคยเป็นเจ้าของธุรกิจประมงในเกาหลีเหนือ แต่ในปี 2023 เธอตัดสินใจหลบหนีออกจากประเทศทางเรือ เพื่อหนีจากการควบคุมทางความคิดของรัฐ
“ฉันเคยคิดว่าการที่รัฐจำกัดเราขนาดนี้เป็นเรื่องปกติ คิดว่าประเทศอื่นก็เป็นแบบเดียวกัน” เธอเล่า “แต่สุดท้ายก็รู้ว่ามีแค่เกาหลีเหนือเท่านั้นที่เป็นแบบนี้”