แรงขายหุ้นใหญ่ถล่ม SET ปิดร่วง -24.31 จุด ขีดจุดต่ำสัปดาห์หน้า 1,060 จุด ห้ามหลุด!

ความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายวันนี้ (27 มิ.ย.68) อยู่ที่ 1,082.42 จุด ลดลง -24.31 จุด คิดเป็น -2.20% มูลค่าการซื้อขาย 38,598.23 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,104.92 จุด ลดลงต่ำสุด 1,078.57 จุด

ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หุ้นไทยปิดร่วง -24.31 จุด จากความกังวลด้านการเมืองในประเทศ กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับขึ้น คือกลุ่ม PF&REIT (CPNREIT, AXTRART) ส่วนกลุ่มที่ปรับลงกดดัชนี คือ กลุ่มพลังงาน GULF,PTT กลุ่ม ICT ADVANC,TURE) กลุ่มอิเล็กฯ DELTA กลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT

หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ AXTRART ปรับตัวเพิ่มขึ้น นักวิเคราะห์กรุงศรีมอง Valuation น่าสนใจ จากที่ได้แปลงสภาพจากกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (LPF) เป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ซึ่งให้สามารถลงทุนในสินทรัพย์ในอนาคต การวิเคราะห์ของเราพบว่า AXTRART สามารถลงทุนได้ถึง 1.3 หมื่นล้านบาท โดยไม่ต้องเพิ่มทุน และน่าจะเพิ่มเงินปันผล AXTRART มีพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่ง

โดย 76% เป็นทรัพย์สินกรรมสิทธิ์ในศูนย์การค้าของ Lotus’s รายได้หนุนจากสัญญาเช่าระยะยาวกับ CPAXT ซึ่งค่าเช่าปรับขึ้น 10% ทุกๆ 3ปี อิงจากประมาณการของสำนักงานตรวจสอบบัญชีและราคาปิดล่าสุด AXTRART ให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจที่ 8% และผลตอบแทนที่แท้จริงที่ 6% นอกจากนี้ ยังมีการซื้อขายที่ P/NAV ทำสถิติต่ำสุดที่ 0.88 เท่า ซึ่งถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่เน้นผลตอบแทนเงินปันผล

AMARC นักวิเคราะห์คงคำแนะนำ Buy เนื่องจากมองว่าบริษัทมีแนวโน้มเติบโตดีจากการขยายขอบข่ายบริการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหารซึ่งเกี่ยวข้องกับการบริโภคและส่งออก

เราปรับกำไรสุทธิปี 68-70 ขึ้น สะท้อนมุมมองบวกมากขึ้นต่อการเติบโตรายได้และอัตรากำไรดีกว่าคาดเดิม คาดปี 68-70 กำไรสุทธิเติบโต 28%CAGR และมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 5-6% ต่อปี ขณะที่ราคาปัจจุบันซื้อขาย PE ปี 68 ที่ 12 เท่า

MITSU19 ปรับขึ้นตอบรับประเด็นบวกหลังกลุ่มพันธมิตร NATO ได้ตกลงที่จะเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศจากเดิม 2% ของ GDP เป็น 5% ภายในปี 2035 หนุนต่อหุ้น Mitsubishi heavy Industry ที่มีสัดส่วนรายได้จากกอาวุธสงครามอยู่ที่ 20% ซึ่งคิดเป็นรายได้จากยุโรปถึง 15%

MALEE, COCOCO นักวิเคราะห์มองบวกต่อ ประเด็น IFBH (6603.HK) บริษัทน้ำมะพร้าวแบรนด์ IF จากไทยเตรียมเข้า IPO ในตลาด HK บน Valuation ที่ premium ในกรอบ PE24 26-28x และหากปี 68 เติบโตอีก 50% (อิงการเติบโตปี 24) จะเทียบเท่า PER25F 17-19 เท่า โดยยังคงแนะนำ Buy สำหรับ MALEE บน TP25F 11.1 บาท อิง PER 17 เท่าใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มเครื่องดื่ม

RCL หุ้นกลุ่ม เรือ Container ปรับลงตอบรับ WCI พลิกปรับลงต่อเนื่อง ล่าสุด -9%w-w อยู่ที่ 2983 เหรียญต่อ 40 ft ประเมินจิตวิทยาลบต่อหุ้นเรือ Container อาทิ RCL

BDMS, BH นักวิเคราะห์พิ้นฐานมองกลุ่มโรงพยาบาลที่มีเครือข่ายโรงพยาบาลในภูเก็ตปรับลงจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ จากปัจจัยลบระยะสั้นต่อการเดินทางไปจังหวัดดังกล่าว โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากอาจไม่มั่นใจต่อความปลอดภัย โดยสัดส่วนรายได้เรียงจากมากไปน้อยได้แก่ BDMS สัดส่วนรายได้ 6% และ BH สัดส่วนรายได้ 1%

ขีดเส้นห้ามหลุด!

นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยทางเทคนิค บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า แนวโน้มหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า (วันที่ 30 มิ.ย. - 4 ก.ค.68) คาดว่าจะถึงจุดตัดสินว่าจะไปทางไหน เพราะมีโอกาสลงต่อ แต่แนวรับ 1,060 จุดห้ามหลุด ถ้าหลุดให้หยุดเล่น

"ถ้าอยากเล่นต่อดัชนีควรยกฐานเหนือ 1,060 จุดให้ได้ เพราะถ้าหลุดให้เลิกเล่นทันที"