สรุปไฮไลท์การเมืองรอบวัน 1 สิงหาคม 2568
# รัฐบาล โดย คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และสำนักนายกรัฐมนตรี และกรมประชาสัมพันธ์ ได้นำคณะเอกอัครราชทูต 3 ประเทศ (บรูไน ญี่ปุ่น เมียนมา) อุปทูต 2 ประเทศ (มาเลเซีย สปป.ลาว) ผู้แทนทางการทูตระดับต่าง ๆ 6 ประเทศ (อินโดนีเซีย สหรัฐฯ สิงคโปร์ จีน เวียดนาม ฟิลิปปินส์) และทูตทหาร รวม 23 ประเทศ
พร้อมสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ ลงพื้นที่ ที่ได้รับความเสียหาย และข้อเท็จจริงเรื่องการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชา พร้อมทั้งนำสังเกตการณ์พื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย ที่ ร้านสะดวกซื้อ สถานีบริการน้ำมัน ปตท.บ้านผือ ต.หนองหญ้าลาด และที่โรงพยาบาล สต.บ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
ทั้งนี้ไทยยืนยันว่าเหตุปะทะครั้งนี้เกิดจากการโจมตีก่อนของฝ่ายกัมพูชา โดยใช้อาวุธระยะไกลโจมตีเป้าหมายพลเรือนอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง ทั้งที่มีการเจรจาหยุดยิงแล้ว ฝ่ายกัมพูชายังละเมิดข้อตกลงและปล่อยข้อมูลบิดเบือนอย่างเป็นระบบ
# ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย คดีที่นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.พรรคประชาชน และ สส.รวม 121 คน (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องเสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสาม กรณีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เป็นผู้ให้ความเห็นชอบการจัดทำโครงการและให้มีการเสนองบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนของศาลฯ พบว่า ผู้ถูกร้อง มี 2 สถานะ คือรองประธานสภาผู้แทนฯ และสส. การสนับสนุนให้ใช้งบประมาณในโครงการทั้ง 3 เป็นการใช้อำนาจของรองประธานสภา จึงเชื่อว่าผู้ถูกร้องใช้อำนาจอนุมัติโครงการ มีเจตนาใช้งบประมาณแผ่นดินไปหาเสียง สร้างคะแนนนิยมให้กับผู้ถูกร้อง เป็นการใช้อำนาจรองประธานสภาเพื่อตนเอง จึงเป็นการฝ่าฝืน รัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง ให้สิ้นสุดสมาชิกสภาพส.ส. ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ร้อง 10 ปี ทำให้ต้องเลือกตั้งแบบแบ่งเขตใน 45 วันนับแต่วันที่ว่างลง