สรุปอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ประเทศไหนโดนเท่าไหร่ ?
รวมอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐอเมริกา (Reciprocal Tariff) ทรัมป์ เรียกเก็บภาษีแต่ละประเทศในอัตราเท่าไหร่ มีข้อเสนอแลกเปลี่ยนอะไรบ้าง ประเทศไทยโดน Tariff กี่เปอร์เซ็นต์ ?
สถานการณ์ภาษี “Reciprocal Tariff” ของสหรัฐฯ ภายใต้นโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเข้าสู่โค้งสุดท้าย ก่อนที่จะประกาศใช้มาตรการภาษีตอบโต้อย่างเต็มรูปแบบ โดยทรัมป์ยืนยันว่าจะไม่มีการขยายเวลาอีกต่อไป หมายความว่าหลายประเทศทั่วโลกอาจต้องเผชิญหน้ากับอัตราภาษีเต็มพิกัด หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ในนาทีสุดท้าย
ข้อมูลล่าสุดเผยให้เห็นว่ามีทั้งประเทศที่สามารถเจรจา “ผ่อนปรนภาษี” ได้สำเร็จ และกลุ่มที่ยังคงมีความเสี่ยงสูงที่จะเจอภาษีเต็มพิกัด
ประเทศที่สหรัฐฯ “ผ่อนปรนภาษี” (บรรลุข้อตกลง)
ประเทศเหล่านี้ได้บรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ ทำให้ได้รับอัตราภาษีที่ลดลง หรือมีการยกเว้นสำหรับสินค้าบางประเภท
สหราชอาณาจักร (UK) ผลเจรจาภาษี 10% เท่าเดิม
แลกกับโควต้าและการยกเว้นภาษีสินค้าบางประเภท เช่น ยานยนต์และสินค้าการบิน
บราซิลผลเจรจาภาษี 10% ลดลงจาก 50%
แลกกับการอนุญาตให้บริษัทสหรัฐฯ เข้าถึงตลาดพลังงานและเหมืองแร่ของบราซิล รวมทั้งข้อตกลงร่วมลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการนำเข้าเครื่องบิน Boeing เพิ่มเติมจากสหรัฐฯ
สหภาพยุโรป (EU) ผลเจรจาภาษี 15% ลดลงจาก 30%
แลกกับเงื่อนไขที่ EU จะเปิดตลาดให้ประเทศสมาชิกไม่มีภาษี (Zero Tariffs) กับการนำเข้าสินค้าบางชนิด และเพิ่มการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์พลังงานและยุทโธปกรณ์จากสหรัฐฯ มูลค่า 7.5 แสนล้านดอลลาร์ รวมทั้งลงทุนในสหรัฐฯ เพิ่มเติมอีก 6 แสนล้านดอลลาร์
ญี่ปุ่น ผลเจรจาภาษี 15% ลดจาก 25%
แลกกับการลงทุน 550,000 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ พร้อมเปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐฯ เช่น รถยนต์ ข้าว และสินค้าเกษตร
เกาหลีใต้ ผลเจรจาภาษี 15% ลดจาก 25%
แลกกับการลงทุน 350,000 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ ครอบคลุมสินค้าส่งออกและอุตสาหกรรมยานยนต์
ไทย ผลเจรจาภาษี 19% ลดลงจาก 36%
อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดในข้อตกลงการค้าระหว่าง 2 ชาติ
กัมพูชา ผลเจรจาภาษี 19% ลดลงจาก 35%
แลกกับการจำกัดการส่งออกสิ่งทอจากจีนที่ผลิตในกัมพูชา และการอนุญาตให้บริษัทสหรัฐฯ ขยายฐานการผลิตและห่วงโซ่อุปทานในประเทศ พร้อมร่วมมือด้านสิทธิมนุษยชนและแรงงานมากขึ้น
ฟิลิปปินส์ ผลเจรจาภาษี 19% ลดจาก 20%
แลกกับการที่ให้สหรัฐฯ ตั้งฐานทัพโลจิสติกส์ใหม่ และเปิดเสรีสินค้านำเข้าเกษตรบางชนิดจากสหรัฐฯ
อินโดนีเซีย ผลเจรจาภาษี 19% ลดจาก 32%
แลกกับการยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ กว่า 99% และให้สิทธิพิเศษบริษัทพลังงานสหรัฐฯ เข้าทำเหมืองแร่
มาเลเซีย ผลเจรจาภาษี 19% ลดจาก 24%
มาเลเซียได้พยายามดำเนินการเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประธานาธิบดีทรัมป์ โดยมีมาตรการปราบปรามการลักลอบนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง ที่ลักลอบผ่านเข้ามาเลเซีย และเสนอเป็นตัวกลางช่วยไกล่เกลี่ยให้เกิดการหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา
ไต้หวัน ผลเจรจาภาษี 20% ลดลงจาก 32%
แลกกับคำมั่นว่าจะลงทุนเพิ่มในภาค Semiconductor ของสหรัฐฯ มูลค่ารวมกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ พร้อมรับรองความร่วมมือด้านความมั่นคงไซเบอร์และระบบป้องกันประเทศในระยะยาว
เวียดนาม ผลเจรจา ภาษี 20% ลดจาก 46%
แลกกับการยกระดับระบบตรวจสอบ Supply Chain เพื่อป้องกันการ “Transshipping” (สินค้าที่ไม่ได้เดินทางจากต้นทางไปปลายทางแบบเส้นทางตรง) และเปิดตลาดสินค้าเกษตรอเมริกันบางส่วน
จีน ผลเจรจาภาษี 30% จากสหรัฐฯ / 10% จากจีน
สถานะยังไม่บรรลุข้อตกลงถาวร แม้มีการลดภาษีบางส่วนเมื่อพ.ค. และระงับสงครามภาษีชั่วคราว
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มประเทศที่ได้รับเงื่อนไขผ่อนปรน แม้จะไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่ทำข้อตกลงชัดเจนกับสหรัฐฯ แต่หลายประเทศก็มีการปรับอัตราภาษีในระดับหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็น “การลดลง”
บังคลาเทศ 20% ลดลงจาก 37%
ศรีลังกา 20% ลดลงจาก 44%
คาซัคสถาน 25% ลดลงจาก 27%
ตูนิเซีย 25% ลดลงจาก 28%
บรูไน 25% เพิ่มขึ้นจาก 24%
แอฟริกาใต้ 30% (เท่าเดิม)
แอลจีเรีย 30% (เท่าเดิม)
ลิเบีย 30% ลดลงจาก 31%
บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา 30% ลดลงจาก 35%
เซอร์เบีย 35% ลดลงจาก 37%
เมียนมา 40% ลดลงจาก 44%
ลาว 40% ลดลงจาก 48%
อิรัก 35% ลดลงจาก 39%
และอีกหลายประเทศ
ประเทศที่ยังอาจเจอ “ภาษีเต็มพิกัด” (ยังไม่บรรลุข้อตกลง)
ประเทศเหล่านี้มีความเสี่ยงสูงที่จะเผชิญกับอัตราภาษีใหม่ที่สูงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2025 เป็นต้นไป
ออสเตรเลีย ผลเจรจาภาษี 10% (อาจเพิ่มเป็น 15–20%)
ยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่มีความเสี่ยงที่จะถูกขึ้นภาษี หากทรัมป์ตัดสินใจปรับอัตราพื้นฐานทั่วโลก
อินเดีย ผลเจรจาภาษี 25%
ทรัมป์อ้างถึงนโยบายการค้าที่ไม่เป็นธรรม และการซื้อพลังงานกับอุปกรณ์ทหารจากรัสเซีย แต่การเจรจาระหว่างสองประเทศยังไม่มีความคืบหน้าชัดเจนในขณะนี้
เม็กซิโก ผลเจรจาภาษี 25%
ทรัมป์ให้เหตุผลจากปัญหายาเสพติดและการอพยพผิดกฎหมาย โดยขณะนี้การเจรจายังไม่คืบหน้า
แคนาดา ผลเจรจาภาษี 35% (ยังไม่มีการยกเว้น)
แม้จะมีข้อตกลง USMCA อยู่ แต่แคนาดายังคงถูกขู่ใช้ภาษีเพิ่มเติม โดยทรัมป์อ้างถึงปัญหายาเสพติดเป็นเหตุผลหลัก
รัสเซีย ผลเจรจาภาษี 35% (ไม่มีการลดภาษี)
เนื่องจากถูกระงับสิทธิ์ทางการค้าจากสหรัฐฯ และอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรจากสงครามยูเครน จึงไม่มีการเจรจาภาษีในรอบนี้
โลกกำลังยืนอยู่บนจุดเปลี่ยนของภูมิทัศน์การค้าใหม่ ภายใต้แรงกดดันจาก “ภาษีตอบโต้” ของสหรัฐฯ ซึ่งกลายเป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์สำหรับการต่อรองในระดับโลก
ประเทศที่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ทัน ย่อมลดแรงสั่นสะเทือนได้บางส่วน ขณะที่อีกหลายชาติยังต้องเผชิญความไม่แน่นอน และความเสี่ยงยากจะประเมิน
มาตรการภาษีเหล่านี้จึงไม่ใช่เพียงการเพิ่มต้นทุนทางการค้า แต่ยังสะท้อนถึงการจัดวางอำนาจใหม่ในระบบเศรษฐกิจโลก ซึ่งทุกประเทศต้องเลือกระหว่าง “การยอมรับเงื่อนไข” หรือ “การแบกรับต้นทุนของการเปลี่ยนแปลง” ด้วยตนเอง
เพราะในเวทีการค้าโลกยุคใหม่ ไม่ใช่ทุกประเทศจะมีอำนาจต่อรองเท่ากัน และนี่คือความจริงที่ต้องยอมรับเมื่อ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ เป็นผู้เขียนกติกาใหม่
อ้างอิง: Trade Compliance Resource Hub, Mint, Avalara, White House, Yahoo Finance