‘จตุพร’ ฟาด ‘ภูมิธรรม’ เจรจาหยุดยิงถูกริมกินโต๊ะเสียค่าโง่ ทำไทยเสียเปรียบ เชื่อสงครามยังไม่
'จตุพร' ฟาด 'ภูมิธรรม' เจรจาหยุดยิงตกเป็นเครื่องมือ 'อันวาร์' ทำไทยเสียเปรียบ ถูกรุมกินโต๊ะจนตีโง่ เสีย 'ปราสาทตาควาย' คาดสงครามไทยกัมพูชายังไม่ยุติ ยิ่งน่ากังวลห่วงใยคนชายแดน ลั่น ปชช.รักษาชาติบ้านเมืองต้องออกมาสำแดงพลังหนุนช่วยกองทัพ-คนอพยพอยู่ศูนย์พักพิง อย่าลืมนัด 2 ส.ค. ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ
1ส.ค.2568- นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน เมื่อ 31 ก.ค. 2568 ว่า การสู้รบตามชายแดนไทย-กัมพูชา ยังน่ากังวล เพราะนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ไปเจรจาหยุดยิงเสียเปรียบและตกเป็นเครื่องมือของอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซีย ดังนั้น คนไทยต้องสำแดงพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยในวันที่ 2 ส.ค.นี้ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตั้งแต่เวลา 12.00 น.-21.00 น
"ขอให้คนที่ไม่เป็นภาระและสามารถเดินทางมาได้ ไม่ว่าจะอยู่ภูมิภาคใด ภาคเหนือที่น้ำไม่ท่วม ภาคอีสานที่ไม่อยู่แนวชายแดน ภาคกลาง กทม.ปริมณฑล ท่านมาร่วมสำแดงพลังกัน เพราะการร่วมพลังแผ่นดินมีความจำเป็นภายใต้สถานการณ์นี้ที่วันข้างหน้าเอาแน่นอนอะไรไม่ได้เลย"
นายจตุพร เชื่อว่า แม้รัฐบาลพยายามสกัดกั้นปิดหูปิดตาการรับรู้ข่าวสารการสำแดงพลังแผ่นดินทุกรูปแบบ แต่เมื่อสงครามไทย-กัมพูชาไม่มีอะไรดีขึ้นและการปะทะกันยังไม่ยุติ ดังนั้น การชุมนุมแสดงพลังแผ่นดิน 2 ส.ค.นี้ จึงคาดจะมีผู้รักชาติบ้านเมืองมาร่วมจำนวนมากไม่แตกต่างจากการสำแดงพลังเมื่อเมื่อ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา
สิ่งสำคัญประชาชนไม่พอใจนายภูมิธรรม รักษาการนายกฯ ไปเสียรู้กับการเจรจาหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไขเท่ากับถูก 3 ประเทศ คือ กัมพูชา มาเลเซีย และสหรัฐ สมคบคิดกันรุมบีบให้ไทยทำข้อตกลงหยุดยิง แสดงว่าไทยตกเป็นเครื่องมือของอันวาร์ อิบราฮิม
"การเจรจาหยุดยิงเหมือนเล่นไพ่ดัมมี่ อันวาร์ อิบราฮิมกับสหรัฐและนายฮุนมาเนต นายกฯ กัมพูชา รู้เห็นเป็นพวกเดียวกันหมดเท่ากับ 3 รุมหนึ่งจึงถูกกดดันให้ตีโง่ และที่เจ็บใจตอนเดินออกจากการแถลงการเจรจายังให้นายภูมิธรรมไปก่อน แล้วนายกฯ มาเลเซียเดินกอดคอฮุนมาเนตออกไป ซึ่งภาษากายอธิบายถึงการรู้เห็นเป็นใจกัน"
พร้อมทั้งกล่าวว่า นายภูมิธรรม ไปเจรจาไม่ตรวจสภาพทั้ง 11 สมรภูมิชายแดนหรือไม่ว่า ไทยได้เปรียบเสียเปรียบที่จุดไหน และยังไปเกรงใจอันวาร์ อิบบราฮิม ที่ขณะนี้ถูกคนในประเทศขับไล่ออกจากตำแหน่ง ดังนั้น การเดินเกมการเมืองครั้งนี้จึงโง่บัดซบที่สุด
นายจตุพร กล่าวว่า นายภูมิธรรมบอกได้คุยและนำข้อเสนอของกองทัพบก 6 ข้อไปเจรจา แต่ได้คุยถึงยุทธภูมิ 11 จุดหรือไม่ว่า ยังมีปัญหา และถ้ายังไม่พร้อมก็ไม่ควรไปเจรจา อีกอย่างเมื่อกัมพูชาผิดเงื่อนไขการหยุดยิงถึง 2 วัน แล้วทำไมไม่ให้กองทัพเข้าไปจัดการในพื้นที่ปราสาทตาควาย
"เมื่อเจรจาผิดพลาดแล้วเขาไม่ทำตาม พอไปทำตามเราก็เสียเปรียบ แม้เราได้มาหลายที่ ซึ่งเป็นที่ของเรา แต่กรณีปราสาทตาควายสะท้อนให้เห็นว่า การไปเจรจาของนายภูมิธรรมนั้น มันสร้างความเสียหายจริงๆ แล้วการจะไปเจรจาระดับ จีบีซี วันที่ 4 ส.ค.นี้ เราทักท้วงตั้งแต่แรกแล้วว่า โง่หรือไงที่ไปเจรจาที่พนมเปญ"
นอกจากนี้ ทักษิณ ชินวัตร เสมียนประเทศเคยการันตีว่า ไทย-กัมพูชา แข่งกันดำน้ำอึด ไม่มีการรบทำสงครามกันเด็ดขาด แล้วสุดท้ายรบกัน ซึ่งจะว่าอย่างไง การพูดเช่นนี้ยิ่งทำให้คนตามชายแดนตายใจ หลงเชื่อกันไปมาก
ส่วนด้านมนุยธรรม โดยถกเถียงกรณี รพ.สรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี ไม่รับรักษาคนกัมพูชานั้น นายจตุพร กล่าวว่า กลายเป็นเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเลย เพราะในสถานการณ์สงครามและไทยปิดด่านทุกด่าน แล้วคนกัมพูชาจะเข้ามารักษาตัวในไทยได้อย่างไร ยกเว้นคนกัมพูชาที่อยู่ในไทยแล้วต้องรับรักษาเพื่อมนุษยธรรม ดังนั้น เรากำลังมาเถียงในเรื่องปัญญาอ่อน ไม่สมเหตุสมผลกันเลย
"ย่างไรก็ตาม เมื่อการสู้รบยังไม่ยุติ จึงขอให้พี่น้องมาร่วมสำแดงพลังปกป้องแผ่นดินไทยกัน เพราะเราทนเห็นนักการเมืองอ่อนแอ โหลยโท่ยไปเจรจาหยุดยิงไม่มีเงื่อนไขกันไม่ไหว ทั้งๆ ที่รู้ว่า ไทยถูกรุกราน แล้วยังไปเจรจาเสียเปรียบอีก ดังนั้น สถานการณ์เช่นนี้จึงน่ากังวลที่สุด"นายจตุพร กล่าว