ถอดรหัสเบื้องหลัง การผนึกพลังข้ามชาติของ สยามพิวรรธน์ และ Huawei ดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
แลนด์สเคปอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกที่ทวีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น นำมาซึ่งความท้าทายรอบด้านสำหรับประเทศไทย ซึ่งมีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เป็นเครื่องจักรสำคัญของเศรษฐกิจ นอกเหนือจากการเดินเกมรุกจากภาครัฐ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ประเทศไทย ในฐานะจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัย มีคุณภาพ และเป็นมิตร
พร้อมสร้างความมั่นใจในการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยว การส่งมอบประสบการณ์ที่แตกต่างและเหนือความคาดหมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความประทับใจระยะยาวให้นักท่องเที่ยวมาแล้วอยากกลับมาเยือนซ้ำ คือ อีกหนึ่งกุญแจดอกสำคัญ ในการปักหมุดประเทศไทยสู่เดสติเนชั่นอันดับต้นของโลก
เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน พลิกเกมกระตุ้นการท่องเที่ยวไทย ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มFIT (Free Independent Travelers) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง และมีกำลังซื้อสูง
ล่าสุด กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำผู้บริหารโกลบอลเดสติเนชั่นสยามพารากอนสยามเซ็นเตอร์สยามดิสคัฟเวอรี่หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยามและสยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ตกรุงเทพสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในวงการค้าปลีกและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวร่วมมือกับ“Huawei” ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของโลก
นำONESIAM Global Visitor Card บัตรที่มอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่มาเยือนประเทศไทยมาเชื่อมต่อผ่านระบบปฏิบัติการHarmonyOS ของHuawei ที่มีฐานผู้ใช้สมาร์ตโฟนกว่า400 ล้านเครื่องทั่วประเทศจีนพร้อมต่อยอดไปสู่การสร้างGlobal Partner Ecosystem แห่งประสบการณ์ระดับโลกที่ตอบโจทย์ทุกTouchpoint ของนักเดินทางคุณภาพอย่างแท้จริง ตอกย้ำการเป็นผู้นำในการสร้างประสบการณ์ระดับโลก และเป็นGlobal Destination ที่ยกระดับอุตสาหกรรมค้าปลีกไทยสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน
อัมพรโชติรัชสกุลกรรมการผู้จัดการใหญ่สายสนับสนุนธุรกิจบริษัทสยามพิวรรธน์จำกัดกล่าวว่า หนึ่งในคีย์กลยุทธ์สำคัญของกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตและสร้างความยั่งยืนในยุคปัจจุบัน คือCo-Creation & Collaboration to Win หรือ การร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งในและต่างประเทศจากหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เหนือความคาดหมาย ควบคู่ไปกับการปลดล็อกประตูสู่โอกาสการขยายธุรกิจอย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมก้าวขึ้นไปเป็นหมุดหมายสำคัญในฐานะGlobal Destination ที่ช่วยผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นสู่เดสติเนชั่นสำคัญของโลกอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการผนึกกำลังกับ“Huawei” ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของโลกจากประเทศจีนในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญ และเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของวงการค้าปลีกไทยก็ว่าได้ เพราะกลุ่มสยามพิวรรธน์ ถือเป็นธุรกิจค้าปลีกรายแรกและรายเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่คิดนอกกรอบ นำONESIAM Global Visitor Card ซึ่งออกแบบเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ภายใต้แนวคิด“Access the Extraordinary” ด้วยความมุ่งมั่นที่จะให้ผู้ถือบัตรเข้าถึงประสบการณ์เหนือระดับแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งการช้อปปิ้ง ร้านอาหาร การเดินทาง และแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง มาเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการHarmonyOS
ความน่าสนใจของการร่วมมือในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้ใช้งานสมาร์ตโฟนHuawei สามารถเป็นสมาชิกONESIAM Global Visitor Card ได้ทันทีแบบsingle sign on พร้อมรับสิทธิประโยชน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟจากเครือข่ายพันธมิตรในGlobal Ecosystem ระดับโลกกว่า150 รายได้อย่างไร้รอยต่อ
ด้วยสิทธิประโยชน์ที่พร้อมตอบโจทย์Customer journey นักเดินทางยุคใหม่ ที่มองหาความคุ้มค่า และประสบการณ์ที่เหนือระดับ ตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง(Pre-trip) ระหว่างการท่องเที่ยว(During-trip) และหลังเดินทางกลับ(Post-trip) ครอบคลุมทุกมิติทั้งไลฟ์สไตล์ การเดินทาง การช้อปปิ้ง การเงิน และสุขภาพ หรือบริการเฉพาะบุคคลได้แบบรู้ใจ ยกระดับประสบการณ์การเดินทางของนักท่องเที่ยว สู่ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่ตรงใจเพียงปลายนิ้วสัมผัส
การที่กลุ่มสยามพิวรรธน์นำเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างHarmonyOS มาใช้ ยังสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และความพร้อมในการปรับตัวเข้ากับโลกยุคดิจิทัล ช่วยเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูทันสมัย อีกทั้งยังต่อยอดไปสู่การสร้างShared Value ผ่านการขยายความร่วมมือระหว่างเครือข่ายพันธมิตร ที่ไม่ได้มองแค่การดึงดูดนักท่องเที่ยวมาใช้จ่ายภายในศูนย์การค้าเท่านั้น แต่ยังมองถึงการสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งร่วมกับพันธมิตร เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทุกฝ่าย ทั้งสยามพิวรรธน์ พันธมิตร นักท่องเที่ยว และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
“เราไม่ได้มองแค่การเก็บรวบรวมข้อมูลเฉพาะบุคคล แต่เรากำลังสร้างอีโคซิสเต็มของข้อมูล ด้วยการเชื่อมโยงทั้งหมดเข้าด้วยกัน รวมถึงการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลในการพัฒนาแคมเปญการตลาดเฉพาะบุคคล ให้สามารถนำเสนอประสบการณ์และสิทธิประโยชน์ที่ตรงใจ ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยว ที่มีรสนิยม ความชอบแตกต่างกันได้ดียิ่งขึ้น เสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวในการให้คำแนะนำโปรโมชั่นหรือสิทธิพิเศษต่างๆอย่างรู้ใจ เพื่อเป็นแมกเนตในการดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มFIT ซึ่งมีศักยภาพสูง ทั้งในด้านไลฟ์สไตล์ กำลังซื้อ และพฤติกรรมการใช้จ่ายเฉพาะตัว ทำให้รู้สึกได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และสร้างความผูกพันกับแบรนด์ให้เกิดความประทับใจ จนอยากบอกต่อและกลับมาใช้บริการซ้ำ”
จากนี้ กลุ่มสยามพิวรรธน์ยังเตรียมพร้อมที่จะประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้และยกระดับประสบการณ์ในอุตสาหกรรมค้าปลีกและการท่องเที่ยวไทย โดยสยามพิวรรธน์เป็นผู้บุกเบิกโซลูชั่นใหม่ ให้ผู้ใช้งานโทรศัพท์Huawei สามารถกลายเป็นสมาชิกบัตรONESIAM Global Visitor Card ได้ด้วยขั้นตอนง่ายๆ แบบsingle sign on บนHarmonyOS ในประเทศจีน
ด้าน จ้าวเย่(Mr. Zhao Ye) หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจและพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มนักเดินทางชาวจีนยุคใหม่ มองหาความสะดวก ความพรีเมียม และประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ดังนั้นการผสานข้อมูล เทคโนโลยี และคอนเทนต์ จะช่วยยกระดับประสบการณ์นักท่องเที่ยวยุคใหม่ที่ใส่ใจในไลฟ์สไตล์เฉพาะตัวได้เป็นอย่างดี การร่วมมือครั้งนี้ จึงไม่เพียงเป็นการผลักดันHarmonyOS สู่การใช้งานจริง แต่ยังช่วยสร้างประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาสให้ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนของHuawei ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
“ในยุคที่การตลาดขับเคลื่อนด้วยดาต้า เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคลHuawei ยังตั้งใจนำQuick App, Petal Ads และSkytone (บริการอินเทอร์เน็ตข้ามประเทศ) ที่อยู่ในระบบปฏิบัติการHarmonyOS มาสนับสนุนกลยุทธ์การตลาดของสยามพิวรรธน์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมมอบข้อมูลท่องเที่ยว คูปองดิจิทัล และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินระหว่างเดินทาง รวมถึงสิทธิพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปประเทศจีน เช่น สิทธิประโยชน์ด้านการชำระเงินและการช้อปปิ้ง นอกจากนี้ยังมีแผนประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อในจีน มาเลเซีย และประเทศอื่นๆ ทั่วภูมิภาคอีกด้วย”
อัมพร ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า การผนึกกำลังกับพันธมิตรที่หลากหลาย เพื่อนำจุดแข็งของแต่ละองค์กรมาช่วยเติมเต็มศักยภาพให้กับธุรกิจ ไม่เพียงสร้างการเติบโตให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้าได้ไกลกว่าเดิมอย่างรวดเร็ว แต่ยังช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ที่กว้างขึ้น ช่วยให้ธุรกิจสามารถรับมือและตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเสมือนมีป้อมปราการ ที่ช่วยสร้างความได้เปรียบให้กับธุรกิจจากผู้เล่นรายอื่นๆ อีกด้วย
“เรายังคงยึดมั่นในการพัฒนา‘Global Destination’ ที่ครองใจผู้คนทั่วโลกมาโดยตลอด ไม่ใช่เพียงแค่สถานที่ แต่คือการสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและเหนือความคาดหมาย และเราจะเดินหน้าต่อไปด้วยพลังของพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน เพื่อสร้างระบบนิเวศแห่งความสำเร็จร่วมกันและเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจอย่างไร้ขีดจำกัด และเราหวังว่า การร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกอย่างHuawei จะร่วมกันยกระดับประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวไทย เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน”
อย่างไรก็ตาม สยามพิวรรธน์เข้าใจดีว่าการจะสร้างประสบการณ์ที่ครบวงจรและตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของนักท่องเที่ยวได้และเกิดประโยชน์สูงสุดกับนักท่องเที่ยว เราจึงได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรในหลากหลายอุตสาหกรรม ภายใต้ONESIAM Global Partner Ecosystem ซึ่งรวมอยู่ในONESIAM Global Visitor Card กว่า150 รายทั่วโลก
อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, การบินไทย, เครือโรงแรมเคมปินสกี้, Merlin Entertainments (SEA LIFE Bangkok), Meridian Cruise, Mistine, Jim Thompson, Dear Tummy, Grab, SOOKSIAM, ICONCRAFTมาร่วมเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก โดยพันธมิตรเหล่านี้ครอบคลุมหลากหลายภาคอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นภาคการท่องเที่ยว สายการบิน โรงแรมและรีสอร์ท บริษัททัวร์ชั้นนำ สถานที่ท่องเที่ยว การเดินทางคมนาคม การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ บริการทางการเงิน การจับจ่ายใช้สอย ร้านอาหาร ฯลฯ ที่ล้วนมีความเชี่ยวชาญและข้อมูลลูกค้าในกลุ่มของตัวเอง ดังนั้นการร่วมมือกันทำให้สามารถรวบรวมข้อมูลและทำความเข้าใจพฤติกรรม ความชอบ และรสนิยมของนักท่องเที่ยวได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
หนึ่งในพันธมิตรสำคัญจากภาครัฐ คือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) นางสาวฐาปนีย์เกียรติไพบูลย์ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกล่าวถึงการผนึกพลังในครั้งนี้ ว่าสยามพิวรรธน์ ถือเป็นต้นแบบของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ที่ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ที่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ รวมถึงการผนึกกำลังกับพันธมิตรระดับโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสบการณ์เหนือระดับและสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เข้ามาเยี่ยมเยือนอย่างต่อเนื่อง