โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

กนง. มีมติเอกฉันท์ ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น1.50% ต่อปี

JS100

อัพเดต 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 15 ชั่วโมงที่ผ่านมา • JS100:จส.100
กนง. มีมติเอกฉันท์ ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น1.50% ต่อปี

การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 4 ของปี 2568 วันนี้ (13 ส.ค.2568) คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 1.75% เป็น 1.50% ต่อปี ถือเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งที่ 3 ของปี 2568 หลังจากการประชุม กนง. 2 ครั้งแรก คือ วันที่ 26 ก.พ.2568 และ 30 เม.ย.2568 มีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งละ 0.25% รวม 0.50% จาก 2.25% เหลือ 1.75% ต่อปี จากนั้นในการประชุม กนง. วันที่ 25 มิ.ย.2568 มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ต่อปี

นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 13 ส.ค.2568 คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.75% เป็น 1.50% ต่อปี โดยให้มีผลทันที

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยในปี 2568 และ 2569 ขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ โดยเศรษฐกิจในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ขยายตัวดีจากการส่งออกกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ การเร่งส่งออกไปสหรัฐฯ และภาคการผลิต

เศรษฐกิจไทยตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2568 มีแนวโน้มชะลอลงจากช่วงครึ่งแรกของปี จากผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมของมาตรการภาษีสหรัฐฯ และจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มระยะใกล้ที่ลดลงตามการแข่งขันในภูมิภาคที่รุนแรงขึ้น ซึ่งมีผลกระทบต่อรายได้ของธุรกิจ SMEs ลูกจ้าง และผู้ประกอบอาชีพอิสระ

ด้านการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวในระดับต่ำจากความเชื่อมั่นและแนวโน้มรายได้ที่ชะลอลง โดยต้องติดตามผลกระทบของการเก็บภาษี transshipment และการแข่งขันกับสินค้านำเข้า

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ โดยราคาอาหารสดปรับลดลงจากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นตามสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย และราคาหมวดพลังงานที่โน้มลงตามราคาน้ำมันดิบโลก อย่างไรก็ดี ราคาสินค้าและบริการอื่นไม่ได้ลดลงตามเป็นวงกว้าง สะท้อนในอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่มีแนวโน้มทรงตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่อยู่ในระดับต่ำ มีส่วนช่วยบรรเทาไม่ให้ค่าครองชีพของประชาชนและต้นทุนของธุรกิจยิ่งสูงไปกว่านี้

เศรษฐกิจไทยในปี 2568 และปี 2569 ขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ อย่างไรก็ดี มาตรการภาษีของสหรัฐฯ จะซ้ำเติมปัญหาเชิงโครงสร้างและขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้งเศรษฐกิจบางภาคส่วนมีความเปราะบางมากขึ้น โดยเฉพาะ SMEs ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำจากปัจจัยด้านอุปทาน คณะกรรมการฯ เห็นว่านโยบายการเงินสามารถผ่อนคลายเพิ่มเติมได้บ้าง เพื่อให้ภาวะการเงินเอื้อต่อการปรับตัวของภาคธุรกิจและช่วยบรรเทาภาระของกลุ่มเปราะบาง จึงมีมติให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ในการประชุมครั้งนี้

สินเชื่อหดตัวต่อเนื่องตามความเสี่ยงด้านเครดิตที่สูงขึ้น โดยเฉพาะใน SMEs และครัวเรือนกลุ่มรายได้ต่ำ ประกอบกับการชำระคืนหนี้ที่เพิ่มขึ้นและความต้องการสินเชื่อของธุรกิจขนาดใหญ่ที่ปรับลดลง จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ สำหรับคุณภาพสินเชื่อยังปรับด้อยลง โดยเฉพาะสินเชื่อ SMEs และสินเชื่อที่อยู่อาศัย

ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าเทียบกับสกุลเงินภูมิภาค ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยปรับลดลงตามคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจ คณะกรรมการฯ เห็นควรให้ติดตามการขยายตัวของสินเชื่อและการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท ซึ่งอาจมีนัยต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รวมทั้งสนับสนุนมาตรการทางการเงินเพื่อลดต้นทุนทางการเงินและบรรเทาภาระหนี้ของกลุ่มเปราะบาง

ภายใต้กรอบการดำเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน คณะกรรมการฯ เห็นว่านโยบายการเงินในระยะข้างหน้าควรอยู่ในระดับผ่อนคลายเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันควรคำนึงถึงการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะปานกลางและขีดความสามารถของนโยบายการเงินที่มีจำกัด การประชุม กนง. ในปี 2568 เหลืออีก 2 ครั้ง คือ วันที่ 8 ต.ค.2568 และวันที่ 17 ธ.ค.2568

#ประชุมกนง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก JS100

แมคญี่ปุ่น ยกเลิกโปรโมชั่น Happy Meals เหตุลูกค้าเก็บการ์ดแต่ทิ้งอาหาร

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สเปนสัญญาณสนับสนุนภารกิจที่นำโดยสหประชาชาติเพื่อรักษาเสถียรภาพของฉนวนกาซา

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทรัมป์เตือนรัสเซีย จะมีผลลัพธ์ร้ายแรงหากยังไม่ยุติสงครามยูเครน

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เลบานอน ไม่ยอมรับการแทรกแซงจากต่างชาติในการปลดอาวุธฮิซบอลเลาะห์

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

มรสุมถล่มไทย! 7 จังหวัดเฝ้าระวังฝนตกหนัก คลื่นลมแรง

สยามรัฐ

คดีลุงพล สะเทือนทุกวงการ! ผกก.เอกราช แนะ ควรยึดทรัพย์สินที่ได้มา

TOJO NEWS

รอบรั้วการศึกษา (14 ส.ค.68)

สยามรัฐ

พลังงานสะอาดขาดแคลน TDRI หวั่นลงทุนต่างชาติเผ่นหนี กระทุ้งเปิด TPA ซื้อขายไฟฟ้าเสรีรับมือ

ฐานเศรษฐกิจ

หุ่นยนต์แอนทิโลปสายลับ! เนียนเข้าฝูง ปกป้อง ‘แอนทิโลปทิเบต’ ใกล้ชิดไร้รบกวน

Xinhua

เดลินิวส์ 14 ส.ค. เขมรหนีตาย-ทะลักไทย ซัดฮุนเซนขายฝัน-ไร้งานไร้เงิน

เดลินิวส์

อุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุก และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ริมถนนพระราม 2

สวพ.FM91
วิดีโอ

CIB ค้นโกดังย่านนครปฐม จับผู้ต้องหาจำหน่ายเครื่องรับสัญญาณดาวเทียมปลอม กว่า 1,558 ชิ้น

สวพ.FM91

ข่าวและบทความยอดนิยม

ไทย พบโดรนบินในพื้นที่ศรีสะเกษ วางตาข่ายป้องกันโดรนทิ้งระเบิด 61 แห่ง

JS100

ภูมิธรรม สั่งกต. เดินหน้าฟ้องยูเอ็น-ศาลโลกกัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา

JS100

เพียงพอแล้ว! กองทัพภาคที่ 2 ขอบคุณกำลังสนับสนุนลวดหนาม

JS100
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...