หุ้น SAWAD ราคาพุ่ง โบรกฯ ชี้กำไร Q2/68 ออกมาดีกว่าคาด แต่มอง NPL ยังขยับขึ้น
#SAWAD #ทันหุ้น-หุ้นบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ SAWAD ราคาปรับตัวขึ้น 7.96% จากการประกาศงบไตรมาส 2/68 มีกำไร 1,270 ล้านบาท ซึ่งโบรกเกอร์ชี้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่มอง NPL ยังปรับขึ้น เป็นปัจจัยที่ต้องติดตามในช่วงครึ่งปีหลัง โดยจะมีการประชุมนักวิเคราะห์ในวันที่ 18 ส.ค.นี้
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น SAWAD ช่วงเช้าอยู่ที่ 24.40 บาท บวก 1.80 บาท หรือ 7.96% ระหว่างวันราคาได้ปรับขึ้นมาสูงสุดที่ 24.50 บาท โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 615.59 ล้านบาท
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า SAWAD รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท ทรงตัว YoY แต่เพิ่มขึ้น 15% QoQ ซึ่งกำไรดังกล่างสูงกว่า BB Consensus ราว 14% หลังกำไรก่อนสำรอง (PPOP) เพิ่ม 18% QoQ (-0.2% YoY) เพราะ OPEX ลดลง 14% QoQ (-19% YoY) จากการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย ส่วนรายได้รวมเพิ่ม 1% QoQ (-10% YoY) องค์ประกอบรวมชดเชย ECL สูงขึ้น
ในขณะที่ NPL / Loan (ไม่รวมธุรกิจบริหารสินทรัพย์) อยู่ที่ 3.84% จาก 3.76% ณ สิ้นงวดก่อน (สิ้นปี 2567 ที่ 3.58%) จากมูลหนี้NPL ขยับขึ้น 2% QoQ รวมถึงฐานสินเชื่อลดลง โดยกำไรครึ่งแรกปีนี้ที่ 2.4 พันล้านบาท (- 6% YoY) คิดเป็นสัดส่วน 52% ของประมาณการกำไรฯ ทั้งปีฝ่ายวิจัย และ BB Consensus
ส่วนแนวโน้มในครึ่งปีหลัง ฝ่ายวิจัยมองว่า สินเชื่อน่าจะเริ่มกลับมาเติบโต QoQ ได้บ้าง ตามฤดูกาล และ Cost of fund ลดลง เพราะการ Repricing หุ้นกู้ตามวงจรดอกเบี้ย ภาพรวมเป็นปัจจัยหนุนต่อ NII อย่างไรก็ดีการลดลงของ OPEX ยังต้องติดตามความต่อเนื่อง ขณะที่ Coverage ratio ไม่ได้สูง จึงคงมองว่า Credit cost ไม่น่าลดลงเร็ว ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันโดยรวมคาดกำไรสุทธิเฉลี่ยต่อไตรมาสช่วงครึ่งหลังปี 2568 ที่ 1.1 –1.2 พันล้านบาท
ฝ่ายวิจัยเอเซีย พลัส คงแนะนำ Neutral ราคาหุ้นอาจมีแรงหนุนจากกำไรที่ดีกว่าตลาดคาด แต่คุณภาพสินทรัพย์ฟื้นตัวช้ากว่ากลุ่มฯ และระดับ Coverage ratio ตามที่กล่าวข้างต้น บนธีมดอกเบี้ยขาลงในไทย โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 24.00 บาท
ด้านบล.กสิกรไทย ระบุว่า SAWAD รายงานกำไรไตรมาส 2/68 ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ 17% และสูงกว่าตลาดคาด 14% ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Opex) ที่ต่ำกว่าคาด 11% และอัตราส่วนต่างดอกเบี้ยที่สูงกว่าคาด โดยยังคำแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 21 บาท ฝ่ายวิจัยกสิกรไทย จะทบทวนคำแนะนำและประมาณการอีกครั้ง หลังการประชุมนักวิเคราะห์ในวันที 18 ส.ค.นี้ ประเด็นสำคัญจากาการประชุมครั้งนี้น่าจะเป็นแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ในช่วงครึ่งหลังปี 2568 และเป็า credit cost รวมถึงผลขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ถูกยึด