AURAครึ่งปีแรกกำไรพุ่ง23%ที่761ลบ. เดินเกมรุกขยายสาขา–“ทองมาเงินไป”
AURA โชว์ผลงานครึ่งปีแรก 2568 โตแกร่ง ทำรายได้กว่า 17,690 ล้านบาท กำไรสุทธิเกือบ 761 ล้านบาท กำไรพุ่ง 23% โดยมีแรงหนุนจากการขยายเครือข่ายสาขาทั่วประเทศแตะ 547 แห่ง ปั้นพอร์ตสินเชื่อ “ทองมาเงินไป” โตแรงทะลุ 6,572 ล้านบาท มั่นใจครึ่งปีหลังโตต่อ ตอกย้ำศักยภาพผู้นำธุรกิจค้าปลีกทองคำครบวงจร
นายอนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ AURA เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 8,827.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.3% ขณะที่ กำไรสุทธิอยู่ที่ 362.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.8 ล้านบาท หรือ 5.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
สนับสนุนผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 เติบโตเด่นทั้งรายได้และกำไร มีรายได้รวม 17,690.4 ล้านบาท เติบโต 12.8% มีกำไรขั้นต้น 2,206.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.8% โดยอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยครึ่งปีแรกของปีนี้เทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 12.5% และ 11.9% ตามลำดับ ขณะที่ กำไรสุทธิอยู่ที่ 760.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตในครั้งนี้ มาจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องจาก 451 แห่งในช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นเป็น 547 แห่งในไตรมาสล่าสุด หรือขยายตัวกว่า 21.3% โดยเฉพาะสาขาภายใต้แบรนด์ “ทองมาเงินไป” ที่ขยายเพิ่มถึง 67 แห่งในช่วงเวลาเดียวกัน ขณะที่สาขาอื่นๆ ภายใต้ AURORA, เซ่งเฮง, AURORA Diamond และของขวัญ by AURORA ขยายตัวรวมกันอีก 29 แห่ง ตอกย้ำกลยุทธ์ของบริษัทในการครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกเซกเมนต์ในตลาด
หนึ่งในหัวใจสำคัญของการเติบโตคือธุรกิจขายฝากทองภายใต้แบรนด์ “ทองมาเงินไป” (Gold Financing Business) ซึ่งมียอดลูกหนี้ขายฝากขยายจาก 5,183 ล้านบาทในไตรมาสก่อนหน้า ขึ้นมาอยู่ที่ 6,572 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 เพิ่มขึ้นถึง 26.8% โดยยังคงรักษาความสามารถในการบริหารความเสี่ยงและปล่อยสินเชื่ออย่างรอบคอบ ทำให้ธุรกิจเติบโตควบคู่กับความมั่นคงทางการเงิน
ทั้งนี้ ในงวดครึ่งปีแรกของปี 2568 AURA มีกำไรขั้นต้นรวมอยู่ที่ 2,206.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 17.8% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 12.5% เพิ่มขึ้นจาก 11.9% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนควบคู่กับการเติบโตของรายได้จากธุรกิจ Modern Gold และธุรกิจสินเชื่อ “ทองมาเงินไป” ที่ขยายตัวต่อเนื่อง ตอกย้ำความสามารถของ AURA ในการรักษาความสามารถในการทำกำไรได้อย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกทองคำและภาวะราคาทองที่ผันผวน
ในครึ่งปีแรก AURA ยังได้ ลองการระดมทุนรูปแบบใหม่จากธนาคารระหว่างประเทศ โดยเป็นการกู้เงินผ่านผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อว่า “สินเชื่อทองคำ” (Gold Loan) ประมาณ 200 ล้านบาท โดยสินเชื่อประเภทนี้ เป็น Structured Loan ที่เป็นส่วนผสมระหว่าง สินเชื่อการกู้เงินแบบปกติผนวกกับ Put Forward Contract บนราคาทอง แม้ช่วงเริ่มต้นจะได้รับผลกระทบจากราคาทองคำโลกที่ผันผวนสูงจาก 2,800 ดอลลาร์ฯ เป็นกว่า 3,300 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ จนรับรู้ขาดทุนทางบัญชีจากสินเชื่อทองคำราว 28.3 ล้านบาท
แต่บริษัทสามารถบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีระบบ ด้วยกลยุทธ์ Natural Hedge โดยนำเงินกู้ไปซื้อทองคำทันทีเมื่อเบิกใช้ ส่งผลให้กำไรจากการถือทองคำได้หักกลบกับขาดทุนจากสัญญาสินเชื่อทองคำ ส่งผลให้บริษัทไม่มีกำไร/ขาดทุนจากความผันผวนของราคาทองคำ แต่ได้กำไรจากค่ากำเหน็จในการขายทองคำรูปพรรณ เท่านั้น
นอกจากนี้ เพื่อเสริมฐานทุนโตต่อเนื่องบริษัทฯ ได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้มีประกัน มูลค่า 2,500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 4.50% อายุ 2 ปี ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากนักลงทุน โดยนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่มีการออกหุ้นกู้ที่มีหลักประกันเป็นทองคำรูปพรรณ และสินค้าคงเหลืออื่นๆ โดยเป็นการประกันแบบเต็มมูลค่า 100% เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ลงทุน โดยเงินทุนที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ จะใช้รองรับการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อทองมาเงินไป ซึ่งตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อแตะ 8,000 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำที่ยังอยู่ในระดับสูงท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ ยังเป็นแรงส่งให้ความต้องการขายฝากทองและอุปสงค์ทองคำในภาพรวมมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดสินเชื่อที่มีทองคำเป็นหลักประกัน ไทยมีขนาดกว่า 200,000 ล้านบาท ถือเป็นโอกาสในการขยายส่วนแบ่งตลาดของ AURA ในฐานะผู้เล่นรายสำคัญที่มีแบรนด์แข็งแกร่งและเครือข่ายสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ