“ไอติม พริษฐ์“ แนะ ปรับลดงบสร้างอาคารศึกษาธิการจังหวัด 15 แห่ง
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 11 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระ 2 ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ในมาตรา 24 กระทรวงศึกษาธิการ
โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ขอให้ปรับลดงบประมาณโครงการ ก่อสร้างอาคารสำนักงาน ศึกษาธิการจังหวัด 15 จังหวัด มูลค่ารวม 375 ล้านบาทโดยเสนอให้เปลี่ยนจากวิธีการก่อสร้างอาคารใหม่ มาเป็นวิธีการเช่าสถานที่ใหม่หรือด้วยวิธีการอื่น ขอย้ำชัดๆว่าทางตนและกรรมาธิการทุกคนเห็นตรงกันว่าสถานที่ทำงานของศึกษาธิการจังหวัดใน 15 จังหวัดนี้ ณ ปัจจุบันมีปัญหาจริงและเรามีความจำเป็นที่จะต้องหาที่ทำงานใหม่ที่ปลอดภัยและสะดวกสำหรับเจ้าหน้าที่ แต่สิ่งที่ตนและกรรมาธิการเห็นต่างกันอยู่ คือทางออกการแก้ปัญหานี้ ควรจะเป็นการก่อสร้างอาคารใหม่ 15 อาคาร หรือควรหาสถานที่ใหม่ด้วยวิธีการอื่น โดยให้ 2 เหตุผล ว่าทำไมเห็นว่าเราไม่มีความจำเป็นต้องสร้างอาคารใหม่ขึ้นมาถึง 15 อาคาร
ตนเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องสร้างอาคารใหม่ ด้วยเหตุผลคือ 1.ความคุ้มค่าของงบประมาณ หากศึกษาธิการจังหวัดเป็นหน่วยงานที่ต้องทำงานรูปแบบต่อไปอีก 100 ปีทางเลือกในการสร้างอาคารใหม่ก็พอจะรับได้ แต่ข้อเท็จจริงที่รับรู้กัน ในร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การศึกษาฉบับใหม่ ที่แทบจะทุกพรรคการเมืองเสนอเข้ามา และคาดว่าจะถูกพิจารณาในสภาฯเร็วๆนี้ แทบทุกฉบับมีการพูดถึงเรื่องการทบทวนโครงสร้างและบทบาทหน้าที่ของศึกษาธิการจังหวัด ภายใต้สำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นโครงสร้างใหม่ ที่ถูกเติมเข้ามาในสมัยคสช.มาถึงวันนี้ก็ถูกตั้งคำถามโดยหลายภาคส่วนว่าอาจจะมีการทับซ้อนหรืออย่างน้อยก็ไม่สามารถบูรณาการได้ดีเท่าที่ควรกับโครงสร้างเขตพื้นที่การศึกษาภายใต้ สปฐ. แม้วันนี้สภาฯไม่ต้องมาถกกันว่าโครงสร้างศึกษาธิการจังหวัดควรจะเป็นรูปแบบใด แต่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะมีพ.ร.บ.การศึกษาฉบับใหม่ และเราไม่รู้ว่าเนื้อหาจะกำหนดให้ศึกษาธิการจังหวัดกับเขตพื้นที่ ยังแยกกันทำงานแบบนี้ต่อหรือไม่ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องลงทุนสร้างอาคารใหม่ถึง 15 อาคาร ดังนั้นควรดูความเป็นไปได้ในการใช้พื้นที่ร่วมกันภายใต้กระทรวงศึกษาธิการ หรือสถานที่ของส่วนราชการนอกระทรวงศึกษาฯ และการหาสถานที่ใหม่ในการเช่า เพราะ1อาคารมีการตั้งงบประมาณไว้เฉลี่ยอาคารละ 25 ล้านบาท หากเราหาสถานที่ใหม่ในการเช่าเดือนค่าเช่าที่ 5 หมื่นบาทต่อเดือน ดังนั้น 25 ล้านบาท สามารถเช้าได้ 40 กว่าปี หรือหากสถานที่เช่าใหม่ค่าเช่า 1 แสนบาทต่อเดือน 25 ล้านบาทนี้ก็ทำให้เราสามารถเช่าสถานที่ได้กว่า 20 ปี
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า เหตุผลที่ 2.ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ หากสถานที่ทำงานปัจจุบันมีความทรุดโทรมถึงขั้นที่ว่าไม่มีความปลอดภัยในการทำงานต่อการจะแก้ปัญหานี้ด้วยการก่อสร้างอาคารใหม่ก็ดูจะเป็นวิธีที่ค่อนข้างจะประหลาดและไม่เท่าทันต่อสถานการณ์ เพราะหากของบมาใช้ในการก่อสร้างอาคารใหม่ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะสร้างเสร็จ แต่ในทางกลับกันหากเราของบประมาณมาหาสถานที่ใหม่เพื่อเช่าก็สามารถย้ายเข้าทำงานได้ทันที ดังนั้นหากเราให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่จริงๆการใช้วิธีการเปลี่ยนงบประมาณ ปี 69 ที่เป็นงบก่อสร้างมาเป็นงบในการเช่าสถานที่ใหม่แทนก็น่าจะตอบโจทย์ที่สุด หรือแม้ในกรณีแย่ที่สุด ไม่สามารถแปลงงบ69 ซึ่งเป็นงบก่อสร้างมาเป็นงบในการเช่าสถานที่ใหม่ได้เพราะติดระเบียบ ดังนั้นการใช้งบปี 70 มาเช่าสถานที่ใม่เจ้าหน้าที่ก็ยังย้ายเข้าสถานที่ใหม่ได้เร็วกว่าการใช้งบ69 มาก่อสร้างอาคารใหม่
นายพริษฐ์ กล่าวว่า เมื่อย้อนดูในบรรดา 8 จังหวัดที่เคยได้งบก่อสร้างศึกษาธิการเมื่อปี68 สำรวจเบื้องต้นแล้วน่าจะมีแค่ 1-2 จังหวัดเท่านั้นที่มีการก่อสร้างเสร็จแล้วและทางสำนักงบประมาณก็ชี้แจงมาว่าส่วนใหญ่คาดว่าจะย้ายเข้าไม่ได้ต้นปี 69 หมายความว่าหาก การก่อสร้าง 15 อาคาร เราอนุมัติงบก่อสร้างในวันนี้การก่อสร้างอาคารก็ยังสร้างไม่เสร็จและยังไม่สามารถย้ายเข้าไปได้จนกว่าจะถึงต้นปี 70 แต่ในทางกลับกันแม้ในสถานการณ์เร็วร้ายที่สุดที่เราต้องรอถึง งบ70 เพื่อตั้งงบมาเช่าสถานที่ใหม่ หน่วยงานทำงานเร็วและเตรียมการล่วงหน้าหน่วยงานก็สามารถหาสถานที่ใหม่และเตรียมการย้ายเข้าสำหรับเจ้าหน้าที่ได้ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 70 หรือไตรมาส4ของปี 69 ซึ่งเร็วกว่าด้วยซ้ำ
“วันนี้ สส. 500 คนจะต้องลงมติเรื่องนี้ ผมขอฝากคำถามว่า หากท่านทำธุรกิจที่มีพนักงาน 50 คน และท่านต้องหาสถานที่ทำงานในต่างจังหวัดโดยที่ท่านไม่รู้ว่าอีก 3 ปีข้างหน้า ธุรกิจท่านจะยังอยู่หรือไม่ ท่านจะเลือกอย่างไรระหว่างการหาที่ในการเช่ากับการสร้างอาคารขึ้นมาใหม่ และหากสมมติท่านทำธุรกิจแล้วพนักงาน 50 คนกำลังทำงานในสถานที่ที่ไม่ปลอดภัยท่านจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ระหว่างเร่งหาที่เช่าใหม่เพื่อรีบย้ายเข้า กับการก่อสร้างอาคารใหม่แล้วรอให้ก่อสร้างเสร็จถึงจะย้ายเข้าได้ หากเราในที่นี้ปฏิบัติกับเงินภาษีของประชาชนที่มาจากหยาดเหงื่อของประชาชน เสมือนกับเงินส่วนตัวของเราที่มาจากหยาดเหงื่อของพวกเรากันเอง ผมเชื่อว่าทุกท่านจะเห็นด้วยกับผมและกรรมาธิการเสียงข้างน้อย””นายพริษฐ์ กล่าว