เกาหลีใต้เรียกร้องกัมพูชาสอบสวนอย่างละเอียด หลังพบศพชายเกาหลีใต้ในถังขยะของฐานสแกมเมอร์ คาดถูกทรมานจนเสียชีวิต
สำนักข่าว Korea Herald ของเกาหลีใต้ รายงานว่า ตำรวจกัมพูชา พบศพชายชาวเกาหลีใต้ ในสถานที่ซึ่งคาดว่า เป็นฐานที่ตั้งของขบวนการหลอกลวงของกัมพูชา ภายในจังหวัดกำปอต โดยศพถูกห่อด้วยผ้าห่มและถุงพลาสติก ทิ้งไว้ภายในถังขยะขนาดใหญ่ร่วมกับเหยื่ออีกราย และสภาพศพมีใบหน้าบวมช้ำ ซึ่งบ่งชี้ว่าเขาอาจถูกทุบตีจนเสียชีวิต
กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ยืนยันว่าชายผู้เสียชีวิตดังกล่าว เป็นชาวเกาหลีนามสกุล ปาร์ค พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทางการกัมพูชาดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียดทันที ขณะที่ได้ให้การสนับสนุนทางด้านกงสุลแก่ครอบครัวปาร์ค ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า “การยืนยันรายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆ เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก”
Korea Herald ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับปาร์คดูเหมือนจะถูกเชื่อมโยงกับโลกที่ดำมืดของแก๊งอาชญากรรมไซเบอร์ โดยสถานที่ที่พบศพเป็นหนึ่งในฐานปฏิบัติการขนาดใหญ่หลายสิบแห่งในกัมพูชา ที่มีรายงานว่าดำเนินการโดยกลุ่มอาชญากรรมจีน และแก๊งเหล่านี้มักถูกปิดล้อมและมีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา และเป็นที่รู้จักในด้านการหลอกลวงลงทุน ซึ่งเชื่อว่าปาร์คถูกกักขังอยู่ภายในก่อนที่จะถูกสมาชิกแก๊งสังหาร
เจ้าหน้าที่สืบสวนท้องถิ่นรายงานว่า ศพของปาร์ค มีรอยฟกช้ำและคราบเลือดจำนวนมาก พร้อมด้วยอาการบวมที่บ่งชี้ว่าเขาต้องเผชิญกับการทารุณกรรมอย่างรุนแรงต่อเนื่อง
ความโหดร้ายนี้สะท้อนคำบอกเล่าของผู้รอดชีวิตจากขบวนการหลอกลวงในกัมพูชา โดยชายชาวเกาหลีใต้วัย 28 ปีคนหนึ่งที่เพิ่งหลบหนีออกมาได้ กล่าวกับสื่อเกาหลีใต้ว่า “สมาชิกแก๊งชาวจีนจะฆ่าคนได้ง่ายๆ หากมีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง” และชี้ว่าการทุบตี การช็อตไฟฟ้า และการทรมานด้วยน้ำ นั้นกระทำกันเป็นเรื่องปกติ
ที่ผ่านมาองค์การสหประชาชาติ (UN) ระบุว่ากัมพูชาเป็นศูนย์กลางของอาชญากรรมหลอกลวงออนไลน์ โดยมีเครือข่ายเชื่อมโยงกับกลุ่มทุนและบุคคลใกล้ชิดกับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรี
ขณะที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลประเมินว่า มีเครือข่ายขบวนการสแกมเมอร์ลักษณะนี้มากกว่า 50 แห่งดำเนินการอยู่ทั่วกัมพูชา โดยกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนและสื่อท้องถิ่นต่างอธิบายว่า สถานที่เหล่านี้เป็นสถานที่ที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายระดับชาติทำหน้าที่ได้อย่างจำกัด และเปรียบเสมือนเป็นศูนย์รวมของอาชญากร
ทั้งนี้ รายงานระบุว่าอาจมีชาวเกาหลีใต้จำนวนหนึ่งติดอยู่ภายในฐานสแกมเมอร์เหล่านี้ โดยถูกหลอกลวงด้วยประกาศรับสมัครงานที่โฆษณาว่า “งานในต่างประเทศที่ให้ค่าตอบแทนสูง” แต่เมื่อเดินทางไปถึงกัมพูชา กลับพบว่าตนเองตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์และถูกบังคับให้เป็นแรงงานในขบวนการหลอกลวงข้ามชาต
ขณะที่ Korea Herald ยังรายงานว่า ส.ส. คิม กอน (Kim Geon) ได้เผยแพร่ข้อมูลที่ได้รับจากกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ แสดงให้เห็นว่า จำนวนชาวเกาหลีใต้ที่ถูกรายงานว่าถูกลักพาตัวหรือถูกคุมขังในกัมพูชาเพิ่มขึ้นจาก 21 รายในปี 2023 เป็น 221 รายในปี 2024 เฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่ามี 212 คดี ซึ่งบ่งชี้ว่าจำนวนคดีในปีนี้อาจเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของปีที่แล้ว
แม้วิกฤตการณ์จะรุนแรง แต่เกาหลีใต้ก็ยังประสบปัญหาในการแทรกแซง เจ้าหน้าที่ยอมรับว่าขบวนกากหลอกลวงในกัมพูชามักดำเนินการเกินขอบเขตการควบคุมของรัฐ และรัฐบาลเกาหลีใต้ยังขาดอำนาจในการสืบสวนในพื้นที่
อ้างอิง :