ศิลปะ คือ อะไร? เมื่อ AI ผ่านการทดสอบ ‘ทัวริง’ ที่มีเพื่อแยกแยะจักรกลกับมนุษย์ได้สำเร็จ
ศิลปะ คือ อะไร? เมื่อ AI ผ่านการทดสอบ ‘ทัวริง’ ที่มีเพื่อแยกแยะจักรกลกับมนุษย์ได้สำเร็จนำสู่คำถาม ความสัมพันธ์ระหว่าง ‘มนุษย์-ศิลปะ’
เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา American Vogue ปรากฏภาพโฆษณาแบรนด์ Guess ที่หากมองผ่าน ๆ เหมือนเป็นแค่นางแบบผมบลอนด์หยักศกทั่วไป สวมชุดเดรสลายทางยาวพร้อมกระเป๋าถือที่เข้าชุดกัน แต่หากสังเกตที่มุมด้านซ้ายจะพบตัวหนังสือขนาดเล็กกำกับไว้ว่า ‘เธอคือ AI (Artificial Intelligence)’
หลายสิบปีที่ผ่านมา การรีทัชหรือปรับแต่งภาพถ่ายเพื่อการโฆษณาคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีในปัจจุบัน นี่จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าจับตาเมื่อมีการใช้ ‘นางแบบ AI’ ที่แนบเนียนและเป๊ะทุกกระเบียดนิ้วเสียจนถูกหยิบมาแทนที่ภาพถ่ายคนจริงๆ เพื่อการโฆษณา
จากกรณีดังกล่าว Felicity Hayward นางแบบพลัสไซส์ชื่อดังมองว่า เป็นการทำงานที่ค่อนข้าง ‘มักง่าย’ และสะท้อนถึงความขี้เกียจ ไม่มีคุณค่า ซึ่งอาจทำลายความก้าวหน้าของการเคลื่อนไหวเพื่อความหลากหลายตลอดหลายปีที่ผ่านมาสูญเปล่า
การเคลื่อนไหวของ Vogue ถูกมองว่าอาจส่งผลต่อวงการนางแบบ โดยเฉพาะกลุ่มนางแบบที่มีอายุ เชื้อชาติ หรือคนที่มีรูปร่างหลากหลาย และอาจส่งผลต่อความกดดันเรื่องภาพลักษณ์ของคนในสังคม เพราะการใช้ภาพโฆษณานางแบบ AI ที่ถูกผลิตขึ้นโดยระบบคอมพิวเตอร์สามารถสร้างภาพนางแบบตาม ‘มาตรฐานความงาม (Beauty Standard)’
Tamilla Triantoro รองศาสตราจารย์ด้านการวิเคราะห์ธุรกิจและระบบสารสนเทศ Quinnipiac University สหรัฐอเมริกา ได้ศึกษาการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับ AI โดยมุ่งเน้นอิทธิพลของ AI ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ ความไว้วางใจ และศักยภาพการเลือกของมนุษย์ (Human Agency)
งานศึกษาดังกล่าวถูกนำมาใช้ในการวิพากษ์บทบาทของ Vogue โดยถูกมองว่านิตยสารแฟชั่นนี้สามารถเลือกที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อการโฆษณาได้ แต่ขณะเดียวกันก็ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับ ‘คุณค่าของงานศิลปะ’ เช่นกัน
ย้อนไปเมื่อปี 1950 อลัน ทัวริง (Alan Turing) นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เคยตั้งข้อสงสัยว่าเครื่องจักรสามารถแสดงถูกนำมาแทนมนุษย์ได้หรือไม่ โดยจำลองสถานการณ์ให้มนุษย์คุยกับ ‘บุคคลนิรนาม’ (Turing test) ก่อนตอบคำถามว่า ตัวเองกำลังพูดคุยกับมนุษย์หรือระบบคอมพิวเตอร์
หากผู้ทำการทดลองไม่สามารถบอกความแตกต่างระหว่างบทสนทนากับบุคคลหรือคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์จะผ่านการทดสอบดังกล่าว โดยการทดสอบของทัวริงถูกใช้เป็นเกณฑ์สำหรับการทดสอบระบบคอมพิวเตอร์ต่างๆ จนระบบคอมพิวเตอร์สามารถโต้ตอบกับมนุษย์ได้อย่างเชี่ยวชาญในปัจจุบัน
ถ้า AI สามารถพูดคุยกับมนุษย์ได้อย่างเชี่ยวชาญแล้ว พวกมันสามารถผลิตงานศิลปะได้อย่างมนุษย์หรือไม่?
ประเด็นข้างต้นนำมาสู่ ‘การทดสอบทัวริงสุนทรียศาสตร์ (Aesthetic Turing Test)’ คือ การให้ AI ผลิตผลงานสร้างสรรค์อย่างเพลง รูปภาพ หรือภาพยนตร์ และให้ผู้ทำการทดสอบตอบคำถามว่าผลงานดังกล่าวถูกสร้างโดย AI หรือมนุษย์
โดย Tamilla Triantoro มองว่า สาเหตุที่มนุษย์บางส่วนชื่นชอบผลงานของ AI เพราะ AI สามารถปลอมแปลงรูปแบบผลงานของมนุษย์ จากการฝึกฝนในห้องสมุดที่รวบรวมผลงานศิลปะขนาดใหญ่ที่มนุษย์สร้างขึ้น
แม้การเรียนรู้ผลงานสร้างสรรค์ของ AI จะไม่ใช่การเรียนรู้ผ่านจิตวิญญาณของศิลปะเยี่ยงมนุษย์ แต่การเรียนรู้ผ่านสูตรคณิตศาสตร์ ทำให้เครื่องมือเหล่านี้สามารถวิเคราะห์ผลงานเพลงหรือภาพถ่ายที่มนุษย์รู้สึกว่าสวยงานหรือติดหูได้มากกว่า
เดิมผลงานที่สร้างจาก AI จะให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาดหรือน่าขนลุกผ่านแววตาที่ไร้ชีวิตชีวา แต่นั่นก็เป็นหนทางที่เราจะเรียนรู้ ‘การจับผิด’ ผลงานที่สร้างโดยคอมพิวเตอร์ ขณะเดียวกัน AI ก็กำลังพัฒนาเพื่อกลบข้อผิดพลาดนั้น จนบางครั้งเราก็แยกไม่ออก
อย่างกรณีนางแบบ AI ของ Vogue ซึ่งไม่ใช่รูปผู้หญิงจริงๆ แต่เป็นภาพผู้หญิงที่อยู่ในอุดมคติจนเกินจริงและไม่มีใครเปรียบได้ ซึ่งความสมจริงนี้ถูกทำให้มองว่าเป็น AI จากความสมบูรณ์แบบของเธอ
นอกจากนั้น การเข้ามาของ AI ยังทำให้การชื่นชมศิลปะด้วยอารมณ์หรือความรู้สึกของมนุษย์ถูกทำให้ชะงักลง และถูกแทนที่ด้วยความสงสัยเชิงวิเคราะห์ว่าผลงานชิ้นนี้ถูกผลิตขึ้นโดยใคร ซึ่งเป็นการรบกวนหน้าที่ที่แท้จริงหรือแก่นแท้ของการชื่นชมศิลปะ
ในโลกที่เทคโนโลยีกำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้ผลงานศิลปะสามารถสร้างสรรค์ได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว โดยผู้สร้างบางคนไม่ต้องออกไอเดียหรือฝึกทักษะใด และการเสพผลงานศิลปะของผู้รับสารเริ่มเปลี่ยนไป
เหล่านี้นำมาสู่คำถามถึงความเป็นศิลปะในปัจจุบัน
มันคืออะไรกันแน่? ระหว่างความสวยงามที่เต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบไร้ข้อผิดพลาดและปราศจากเรื่องราวของมนุษย์ หรือความไม่สมบูรณ์แต่เต็มไปด้วยความหมายทางใจของมนุษย์
อ้างอิงจาก