“มะเขือ” ของดีใกล้ตัวที่ไม่ควรเขี่ยทิ้ง เสริมสุขภาพหลายด้าน
ประโยชน์ของมะเขือ ที่ไม่ควรเขี่ยทิ้ง
มะเขือเป็นผักพื้นบ้านที่เราคุ้นเคยกันดี โดยเฉพาะมะเขือเปราะ มะเขือพวง และมะเขือยาว มักถูกเสิร์ฟเป็นผักเคียงคู่กับน้ำพริกหรืออาหารไทยหลายชนิด แต่หลายคนกลับเขี่ยทิ้งเพราะไม่ชอบรสชาติหรือเนื้อสัมผัส ทั้งที่จริง ๆ แล้วมะเขืออุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย
คุณค่าทางโภชนาการในมะเขือ
- อุดมด้วยใยอาหาร ช่วยระบบขับถ่าย
- มีวิตามินซี วิตามินเอ และวิตามินบี
- แร่ธาตุสำคัญ เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม
- มีสารพฤกษเคมีสำคัญอย่าง “ไนตัสซิน” และ “แอนโทไซยานิน” ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
ประโยชน์ของมะเขือ
1.ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด
สารต้านอนุมูลอิสระในมะเขือช่วยลดการอักเสบ ลดคอเลสเตอรอล และป้องกันหลอดเลือดตีบตัน
2.ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ใยอาหารในมะเขือช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล จึงดีต่อผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก
3.เสริมสุขภาพระบบย่อยอาหาร
ใยอาหารสูงช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดี ลดอาการท้องผูก
4.ต้านมะเร็งและชะลอวัย
สารแอนโทไซยานินและโพลีฟีนอลช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ ลดความเสี่ยงมะเร็ง และช่วยให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์
5.ช่วยลดความดันโลหิต
โพแทสเซียมในมะเขือช่วยปรับสมดุลความดัน ลดความเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง
6.ช่วยในการลดน้ำหนัก
มะเขือให้พลังงานต่ำ ไขมันน้อย แต่มีใยอาหารสูง จึงทำให้อิ่มท้องได้นาน
วิธีบริโภคมะเขือ
- รับประทานสดเป็นผักเคียง
- ใส่ในแกงไทย เช่น แกงเขียวหวาน แกงเผ็ด
- ทำผัดหรือต้มจิ้มน้ำพริก
- ดัดแปลงเป็นเมนูสุขภาพ เช่น มะเขืออบหรือนึ่ง
ข้อควรระวัง
มะเขือมีสาร “โซลานีน” ซึ่งหากรับประทานมากเกินไปอาจทำให้ท้องไส้ปั่นป่วนได้ แต่โดยทั่วไปในปริมาณที่กินเป็นอาหารประจำวันถือว่าปลอดภัย
แหล่งที่มาอ้างอิง
1.กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข: ข้อมูลโภชนาการผักพื้นบ้าน
2.National Library of Medicine (NIH): Health benefits of eggplant and bioactive compounds
3.Mayo Clinic: Dietary fiber and its health effects