ผ่ารายได้อสังหาฯ ครึ่งปีเกินคาด! เน้นโฟกัสตลาดเฉพาะกลุ่ม
สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในช่วงครึ่งปีแรก 2568 เผชิญความผันผวนจากหลายปัจจัย ทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำหลายรายยังคงสามารถสร้างผลงานได้อย่างน่าพอใจ สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและวางกลยุทธ์ที่แม่นยำเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มตลาดระดับกลางถึงบนที่มีกำลังซื้อสูง
พฤกษา โฮลดิ้ง พร้อมลุยตลาดกลาง-บน ผสานเฮลท์แคร์
บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH รายงานผลประกอบการครึ่งปีแรก 2568 ด้วยรายได้รวม 6,944 ล้านบาท โดย นางสาวปัทมา ปิยะมณีพร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มฯ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงสถานะทางการเงินที่มั่นคงด้วยอัตราหนี้สินสุทธิต่อทุนเพียง 0.32 เท่า และมีวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ใช้กว่า 9,100 ล้านบาท สำหรับทิศทางครึ่งปีหลัง พฤกษาฯ มุ่งมั่นในกลยุทธ์ "The Strategic Rebound" เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งการปรับพอร์ตสู่ตลาดระดับกลางถึงบน การผสานพลังธุรกิจในเครือ และการต่อยอดโมเดลธุรกิจใหม่ เช่น โซลูชันเช่าซื้อ “พฤกษา พาส” และธุรกิจให้เช่าที่อยู่อาศัยแบรนด์ “ไอเพลิน”
ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภายใต้ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) นายธีระ ทองวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฯ กล่าวว่า กลุ่มเรียลเอสเตทมีรายได้ 5,172 ล้านบาท โดยทำยอดขายรวม 5,400 ล้านบาทในครึ่งปีแรก จากการเปิดตัว 8 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 8,500 ล้านบาท ซึ่งมุ่งเน้นตลาดกลางถึงบน โดยเฉพาะความสำเร็จในการขายโครงการ “แชปเตอร์ เจริญกรุง–ริเวอร์ไซด์” ที่ทำยอดขายได้ถึง 733 ล้านบาท และเตรียมเปิดตัวโครงการระดับลักชัวรีอีก 2 แห่งในช่วงครึ่งปีหลัง
ด้านธุรกิจเฮลท์แคร์ในเครือ บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด ก็เติบโตอย่างก้าวกระโดดเช่นกัน นายแพทย์ นิพัฒน์ กุหลาบขาว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฯ ระบุว่า รายได้ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1,044 ล้านบาท และมีกำไร EBITDA เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นเป็น 88 ล้านบาท จากการเปิดศูนย์สุขภาพเฉพาะทางและขยายบริการสุขภาพถึงบ้าน รวมถึงการลงทุนพัฒนาโรงพยาบาลใหม่อีก 2 แห่ง เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดสุขภาพเชิงรุก
ออริจิ้น-แอสเซทไวส์ ตุนแบ็คล็อกแน่น พร้อมลุยตลาดภูเก็ต
ด้านบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 มีรายได้รวม 3,270 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 319 ล้านบาท นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฯ ระบุว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์รวมกว่า 3,610 ล้านบาท และมียอดขายสะสมครึ่งปีแรกแตะ 14,049 ล้านบาท คิดเป็น 47% ของเป้าหมายทั้งปี พร้อมโชว์ยอด Backlog ในมือกว่า 43,336 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องถึง 5 ปี นอกจากนี้ยังเดินหน้าขยายธุรกิจไปยังโรงแรมและคลังสินค้า โดยได้ขายหุ้นโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล แบงค็อก สุขุมวิท ทำให้มีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นกว่า 800 ล้านบาท
ในส่วนของ บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฯ เผยว่า บริษัทฯ ทำรายได้รวมครึ่งปีแรก 3,633 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 400 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายครึ่งปีแรกสูงถึง 12,957 ล้านบาท คิดเป็น 66% ของเป้าทั้งปี โดยปัจจัยความสำเร็จมาจากการทยอยโอนโครงการที่สร้างเสร็จใหม่ รวมถึงโครงการเรือธงอย่าง "เดอะ ไทเทิล เลเจนดารี บางเทา" นอกจากนี้ ASW ยังมี Backlog ที่แข็งแกร่งถึง 32,779 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ต่อเนื่องถึงปี 2570 สำหรับครึ่งปีหลัง ASW เตรียมบุกธุรกิจโรงแรมและการบริการในจังหวัดภูเก็ต เพื่อเพิ่มรายได้ประจำ พร้อมเปิดตัวบีชคลับ "The Salute" และโรงแรม "voco Phuket Bangtao"
เสนาฯ ชูกลยุทธ์เข้าถึงง่าย แก้ปัญหาการเงิน
อีกหนึ่งผู้เล่นสำคัญในตลาดอย่าง บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ก็แสดงศักยภาพในการเติบโต โดยมีรายได้รวมครึ่งปีแรก 2,640 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิ 301 ล้านบาท คิดเป็น 11% ของรายได้รวม ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 37% จากปีก่อนหน้า โดยนางสาวอธิกา บุญรอดชู ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฯ เปิดเผยว่า แม้กำลังซื้อจะชะลอตัวจากปัญหาหนี้ครัวเรือน แต่บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาอสังหาฯ ให้คนไทยเข้าถึงได้ง่ายขึ้นผ่าน 3 โซลูชันหลัก รวมถึงนวัตกรรมทางการเงินอย่าง "LivNex เช่าออมบ้าน" ที่ช่วยให้ผู้เช่าสามารถสะสมเงินดาวน์เพื่อเป็นเจ้าของบ้านได้ในอนาคต รวมถึงบริการที่ปรึกษาทางการเงิน "เงินสดใจดี" ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการเฉพาะ นอกจากนี้ SENA ยังตอกย้ำวินัยทางการเงินที่แข็งแกร่งด้วยการเตรียมชำระคืนหุ้นกู้และออกหุ้นกู้ชุดใหม่ พร้อมตุนยอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) ในมือกว่า 7,453 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
พรีโมฯ บริการเกี่ยวเนื่องอสังหาฯเติบโต
ไม่เพียงแต่ธรุกิจอสังหาฯโดยตรง แต่ผู้ให้บริการเกี่ยวเนื่องกับอสังหาฯอย่างบริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2568 มีรายได้ 433 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% และกำไรสุทธิ 52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากไตรมาสก่อน นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฯ กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งเน้นกลยุทธ์ "Focus On Core" และแบ่งโครงสร้างองค์กรออกเป็น 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ Brokerage, Living, และ Engineering เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและความสามารถในการแข่งขันในตลาด สำหรับครึ่งปีหลัง PRI มีแผนขยายธุรกิจบริหารการขายและการบริหารนิติบุคคลโครงการไปยังจังหวัดภูเก็ต เพื่อรองรับการเติบโตของการท่องเที่ยวและดีมานด์ของชาวต่างชาติ
เมื่อประมวลภาพรวม พบว่าบรรดาดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ต่างหันมาสร้าง “กลยุทธ์เฉพาะกลุ่ม” ไม่ว่าจะเป็นการโฟกัสตลาดกลาง-บน การรุกตลาดต่างชาติ การบุกภูเก็ต หรือการเชื่อมโยงอสังหาฯ เข้ากับธุรกิจเฮลท์แคร์และบริการครบวงจร ทั้งหมดสะท้อนว่าแม้ตลาดอสังหาฯ ไทยยังเผชิญแรงท้าทาย แต่การมุ่งเจาะตลาดที่มีกำลังซื้อจริงและสร้างโมเดลรายได้ใหม่ กำลังกลายเป็น “เข็มทิศ” สำคัญในการพาธุรกิจฝ่าแรงกดดันเศรษฐกิจครึ่งปีหลังและต่อเนื่องไปในอนาคต