เจาะลึก 'ข้อห้าม' และ Timeline การไต่สวน 'แพทองธาร' คดีคลิปเสียงฮุน เซน
วันนี้ (21 ส.ค. 2568) ศาลรัฐธรรมนูญ ได้ไต่สวน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในคดีหมายเลข 18/2568 กรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งอาจนำไปสู่การสิ้นสุดสถานะความเป็นรัฐมนตรีเฉพาะตัวของเธอ
โดยคดีนี้สืบเนื่องมาจากการที่ประธานวุฒิสภาได้ยื่นคำร้องจากสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 36 รายต่อศาลฯ เพื่อให้วินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธารสิ้นสุดลงหรือไม่ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82
และอ้างอิงมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) ในประเด็นการขาดความซื่อสัตย์สุจริต และฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
กระบวนการไต่สวนในวันนี้เป็นไปอย่างเข้มงวดภายใต้ข้อกำหนดของศาลรัฐธรรมนูญ
ไทม์ไลน์สำคัญในวันไต่สวน (21 ส.ค. 2568)
เวลา 09.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงศาลรัฐธรรมนูญ
เวลา 10.00 น. นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งเป็นพยานในคดีนี้ เดินทางมาถึงศาล
เวลา 10.30 น.
- ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเริ่มออกนั่งบัลลังก์
- ศาลเริ่มทำการไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการ สมช. ซึ่งเป็นพยานคนแรก โดยใช้เวลาไต่สวนนานถึง 50 นาทีเต็ม ในระหว่างนี้ นางสาวแพทองธารถูกเชิญให้ออกไปรอด้านนอกห้องพิจารณา
- ก่อนเริ่มกระบวนการไต่สวน ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการถ่ายทอดสดบรรยากาศในห้องพิจารณาผ่านระบบกล้องวงจรปิดเป็นเวลาสั้นๆ ไม่ถึง 10 นาที เพื่อให้ประชาชนและสื่อมวลชนเห็นบรรยากาศก่อนการไต่สวน
ในส่วนของพยานบุคคล นายฉัตรชัย บางชวด ได้กล่าวปฏิญาณตนต่อศาลว่า "ข้าพเจ้าขอปฏิญาณว่า นายฉัตรชัย บางชวด จะให้ถ้อยคำด้วยความซื่อสัตย์สุจริตทุกประการ"
เวลา11.35 น. ศาลรัฐธรรมนูญเริ่มการไต่สวนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก่อนการไต่สวน นางสาวแพทองธารได้ปฏิญาณตนต่อศาลด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า "ข้าพเจ้า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ขอปฏิญาณว่าจะให้ถ้อยคำด้วยความซื่อสัตย์สุจริตทุกประการ" ในช่วงสั้นๆ ไม่ถึง 1 นาทีนี้ เจ้าหน้าที่ศาลฯ ได้มีการถ่ายทอดสดบรรยากาศก่อนการไต่สวน
เวลา 13.00 น. กระบวนการไต่สวนเสร็จสิ้นลง โดยกระบวนการทั้งหมดใช้เวลารวมกว่า 2 ชั่วโมง หลังการไต่สวนเสร็จสิ้น สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้มีการถ่ายทอดสดผ่าน CCTV อีก 2 นาที
คำสั่งและข้อห้ามของศาล
ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่ง ห้ามการถ่ายทอดภาพและเสียงในการไต่สวนครั้งนี้อย่างเข้มงวด ด้วยเหตุผลสำคัญ 2 ประการ ได้แก่ 1. พยานบุคคลที่มาให้ถ้อยคำเป็นพยานคู่คดี และ 2. คดีมีความลับเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ
นอกจากนี้ ศาลยังกำหนดข้อห้ามอย่างเข้มงวดสำหรับผู้เข้าฟังการไต่สวน ได้แก่ 1. ห้ามนำข้อความการไต่สวนไปเผยแพร่ 2. ห้ามบิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมาย และ 3. ห้ามสร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน
กำหนดนัดหมายต่อไป
เดิมทีศาลกำหนดให้คู่กรณียื่นคำแถลงปิดคดีในวันที่ 27 ส.ค. 2568 แต่เพื่อให้ตุลาการมีเวลาเพียงพอในการจัดทำคำวินิจฉัย ศาลจึงใช้อำนาจตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 31 มีคำสั่งให้คู่กรณียื่นคำแถลงปิดคดีเป็นหนังสือต่อศาลภายในวันที่ 25 ส.ค. 2568 หากไม่ยื่นจะถือว่าไม่ติดใจยื่น
ส่วนการอ่านคำวินิจฉัยและลงมติ ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดหมายในวันที่ 29 ส.ค. 2568 เวลา 15.00 น.
ภายหลังการไต่สวนเสร็จสิ้น นางสาวแพทองธารมีสีหน้าค่อนข้างเคร่งเครียดในระหว่างที่ศาลอ่านกระบวนวิธีพิจารณา แต่เมื่อลงจากห้องพิจารณาคดีได้ยิ้มและโบกมือทักทายประชาชนและสื่อมวลชนที่มารอให้กำลังใจ เธอได้รับกำลังใจจากแฟนคลับที่ตะโกนเรียก "นายกรัฐมนตรีหญิงในดวงใจ สู้ๆ" โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ ก่อนเดินทางกลับ