โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สภาฯโหวตงบ69 วิปรัฐบาลเหงื่อตกคุมเสียง กมธ.หนุน”ทหาร”เพิ่มเขี้ยวเล็บ

ไทยโพสต์

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว

ควรกำหนดนโยบายที่ชัดเจนในการส่งเสริมการต่อเรือรบภายในประเทศ และเร่งรัดการจัดหาเรือฟริเกตให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ในสมุดปกขาว รวมถึงเพื่อทดแทนเรือฟริเกตที่ใกล้ครบอายุการใช้งานและเตรียมปลดประจำการในอนาคต การจัดหาเรือฟริเกตควรดำเนินการในคลาสเดียวกันอย่างน้อย 2 ลำขึ้นไป เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า

ตลอดสัปดาห์นี้ 13-15 ส.ค.สภาผู้แทนราษฎรมีคิวพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระ 2 และวาระ 3

ในส่วนของการพิจารณาวาระ 2 เป็นการพิจารณาเรียงรายมาตรา หรือพิจารณางบประมาณเรียงตามกระทรวง-หน่วยงาน และโหวตทีละมาตราว่าที่ประชุมเห็นด้วยกับที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ 2569 พิจารณาหรือไม่ จากนั้นพอพิจารณาเสร็จทั้งหมด ที่ประชุมสภาฯ จะลงมติว่าจะให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบในวาระ 3 ต่อไป

ส่งผลให้การคุมเสียง สส.ฝ่ายรัฐบาลในสภาฯ ช่วง 3 วันดังกล่าวจึงสำคัญมาก วิปรัฐบาลต้องไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องเสียงโหวตทั้งรายมาตราวาระ 2 และตอนโหวตเห็นชอบวาระ 3

ซึ่งหากเป็นก่อนหน้านี้ตอนที่ “พรรคภูมิใจไทย” ยังร่วมรัฐบาล วิปรัฐบาลไม่ต้องออกแรงมาก แต่หลังภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ก็ทำให้เสียงรัฐบาลหายไปร่วม 69 เสียง ทำให้ปัจจุบันกลายเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำในสภาฯ จนทำให้การประชุมสภาฯ ช่วงหลัง ต้องมีการ ปิดประชุมสภาฯ กลางคันเกิดขึ้นบ่อยครั้ง

อย่างประชุมสภาฯ นัดล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนสภาฯ จะโหวตเห็นชอบให้ ไชยา พรหมา เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 มีการนับองค์ประชุม ก็เกินกึ่งหนึ่งมาแค่ 2 เสียง ทำให้พอโหวตเสร็จ ก็สั่งปิดประชุมทันที โดยเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ให้เห็นหลายครั้งในช่วงหลัง จนการทำงานในสภาฯ ไม่ขับเคลื่อนลื่นไหลอย่างที่ควรจะเป็น

อย่างไรก็ตาม กับคิวร่าง พ.ร.บ.งบ 2569 แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล-วิปรัฐบาล ย่อมต้องเตรียมการไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด ทำให้ยังไงเสียการประชุมสภาฯ ตลอด 3 วัน 13-15 ส.ค. รัฐมนตรีที่เป็น สส.และ สส.รัฐบาลทุกเสียง อยู่ตรึงสภาฯ ตลอดแน่นอน

อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล” ย้ำความพร้อมของพรรคร่วมรัฐบาลว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะงบประมาณเป็นวาระของประเทศ ไม่ใช่วาระของฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล เชื่อว่างบประมาณจะผ่าน โดย สส.ที่สงวนคำแปรญัตติไว้จะได้เวลาในการอภิปรายคนละ 7 นาที ส่วนคนที่ไม่ได้สงวนคำแปรญัตติได้เวลาคนละไม่เกิน 5 นาที โดยวิปฝ่ายค้านและรัฐบาลได้หารือกันไว้เรียบร้อย

สำหรับร่าง พ.ร.บ.งบฯ 2569 มีวงเงินทั้งสิ้น 3,780,600,000,000 บาท มีการปรับลดทั้งสิ้นตามมติของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 8,920,781,300 บาท และให้จัดสรรให้ส่วนราชการตามที่ ครม.เสนอตามความเหมาะสมและจำเป็น จำนวน 8,690,545,700 บาท จัดสรรให้หน่วยงานของรัฐสภา ศาล องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และองค์กรอัยการ 230,235,600 บาท

ในส่วนของ รายงานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่เสนอต่อสภาฯ ที่เป็นข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการกับหน่วยงานต่างๆ

หากพิจารณาในส่วนของ งบกองทัพ-งบทหาร ถือเป็นจุดที่น่าสนใจ เพราะจากสถานการณ์การสู้รบไทย-กัมพูชา ทำให้คนไทยทั้งประเทศเห็นแล้วถึงบทบาทความสำคัญของทหาร-กองทัพ แม้ก่อนหน้านี้จะมีนักการเมือง-นักวิชาการบางส่วนบอกว่าหมดยุคสงคราม-การสู้รบแล้ว กองทัพ-ทหารไม่มีความสำคัญอีกต่อไปแล้ว เสนอให้ตัดลดงบกองทัพให้เหลือน้อยที่สุด ถึงขั้นสร้างวาทกรรม "ทหารมีไว้ทำไม" แต่จากเหตุการณ์ไทย-กัมพูชา ทหารได้แสดงบทบาทการรักษาอธิปไตยของประเทศจนได้ใจคนไทยทั้งประเทศ กลายเป็นกระแสตีกลับไปที่นักการเมืองว่า "นักการเมือง-สส.มีไว้ทำไม"

พบว่าในข้อสังเกตของ กมธ.ต่องบประมาณของกองทัพไว้ โดยมีประเด็นน่าสนใจ เช่น

สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม

กมธ.มีข้อสังเกต-ข้อเสนอแนะว่า หน่วยงานควรสำรวจอัตรากำลังและบทบาทหน้าที่ของนายพล และพิจารณาปรับอัตรากำลังพลให้เหมาะสมตามภารกิจหน้าที่ และไม่บรรจุทดแทนอัตราที่ไม่จำเป็น รวมทั้งเร่งผลักดันโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด (Early Retirement) เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริง โดยการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ให้มีความเหมาะสมและเพียงพอที่จะจูงใจให้ข้าราชการสมัครเข้าร่วมโครงการ โดยต้องประเมินเปรียบเทียบงบประมาณอย่างรอบด้านว่า การให้ข้าราชการนายทหารบางส่วนเกษียณก่อนกำหนด มีความคุ้มค่า และช่วยลดภาระงบประมาณมากกว่าการปล่อยให้ดำรงตำแหน่งอยู่จนครบอายุราชการ

-ควรส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยอย่างเป็นระบบและยั่งยืน โดยส่งเสริมความร่วมมือกับภาคเอกชนไทย เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในเชิงรูปธรรม ควบคู่กับการใช้งบประมาณด้านความมั่นคงให้เป็นกลไกในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

-ควรกำหนดระเบียบเพื่อระบุสัดส่วนการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศจากผู้ผลิตภายในประเทศอย่างชัดเจน พร้อมทั้งกำหนดแนวทางการปรับเพิ่มสัดส่วนดังกล่าวแบบขั้นบันไดในระยะยาว ควบคู่กับการดำเนินนโยบายสนับสนุนทางภาษี และศุลกากรสำหรับผู้ประกอบการไทยที่มีความจำเป็นต้องนำเข้าชิ้นส่วนหรือวัสดุเพื่อการผลิตหรือประกอบภายในประเทศ

-ควรพิจารณาทบทวนรูปแบบการปฏิบัติงานของพลทหาร ภายหลังเสร็จสิ้นระยะการฝึกขั้นพื้นฐาน โดยเปิดให้สามารถปฏิบัติงานในลักษณะ “เช้าไปเย็นกลับ” หรือจัดระบบการปฏิบัติงานเป็นกะที่มีวันหยุดพักผ่อนถี่ขึ้นตามความเหมาะสม เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ และชีวิตส่วนตัว แนวทางดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างแรงจูงใจในการสมัครเข้ารับราชการทหารในระบบสมัครใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

-+กองบัญชาการกองทัพไทย +

ในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยอาศัยมาตรการ “ตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต และตัดน้ำมันเชื้อเพลิง” ศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือ ศอ.ปชด. ควรบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ อาทิ ศ.ปอท. กสทช. และ ธปท. เพื่อเร่งรัดขั้นตอนการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้รวดเร็วขึ้น และเพิ่มประสิทธิผลของมาตรการเพื่อสกัดกั้นการกระทำความผิด และมุ่งเน้นให้สามารถสร้างแรงกดดันและผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเครือข่ายอาชญากรไซเบอร์ในพื้นที่เป้าหมาย

-กองทัพบก

หน่วยงานควรขับเคลื่อนนโยบายการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่สามารถผลิตได้ภายในประเทศในสัดส่วนที่เหมาะสมอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อส่งเสริมการพึ่งพาตนเองด้านการป้องกันประเทศ และสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในประเทศ อันจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติในระยะยาว ควรกำหนดแนวทางดังกล่าวให้เป็นระเบียบหรือเกณฑ์ที่ชัดเจน พร้อมทั้งมีการปรับเพิ่มสัดส่วนการจัดซื้อจากผู้ผลิตภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ภาคเอกชนพัฒนาขีดความสามารถในการผลิต และยกระดับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล

กองทัพเรือ

หน่วยงานควรกำหนดนโยบายที่ชัดเจนในการส่งเสริมการต่อเรือรบภายในประเทศ และเร่งรัดการจัดหาเรือฟริเกตให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ในสมุดปกขาว รวมถึงเพื่อทดแทนเรือฟริเกตที่ใกล้ครบอายุการใช้งานและเตรียมปลดประจำการในอนาคต การจัดหาเรือฟริเกตควรดำเนินการในคลาสเดียวกันอย่างน้อย 2ลำขึ้นไป เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าทางงบประมาณตามหลักการประหยัดจากขนาด (Economy of Scale) ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนต่อหน่วย ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษา การจัดหาอะไหล่และการฝึกอบรมกำลังพล เนื่องจากระบบอาวุธและระบบอำนวยการรบมีความเหมือนกัน ส่งผลให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเอื้อต่อการวางกำลังทางยุทธวิธีในระยะยาว ที่ผ่านมาหน่วยงานประสบปัญหาจากการมีเรือในคลาสเดียวกันเพียงลำเดียว เช่น กรณีเรือหลวงภูมิพล ซึ่งแบกรับภาระการใช้งานจนเกินขีดจำกัด ส่งผลให้เครื่องยนต์เสียหายทั้ง 2 เครื่อง และต้องใช้เวลาซ่อมแซมยาวนาน โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2571

-ควรเสนอแผนการจัดหายุทโธปกรณ์ให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามแนวทางเดียวกับการจัดหาเครื่องบินโจมตีขับไล่เป็นฝูงบินของกองทัพอากาศ แนวทางดังกล่าวจะช่วยให้หน่วยงานสามารถดำเนินการจัดหาเรือฟริเกตได้อย่างครบถ้วนตามจำนวนที่จำเป็นทางยุทธวิธีตามที่กำหนดไว้ในสมุดปกขาว โดยไม่ก่อให้เกิดภาระงบประมาณเกินความจำเป็น และสอดคล้องกับการบริหารงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ

-การจัดหายุทโธปกรณ์ของหน่วยงาน เช่น เรือฟริเกต ถือว่าเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมการพึ่งพาตนเองและสร้างระบบนิเวศทางความ

มั่นคงอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ กองทัพเรือ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องควรร่วมกันสร้างมาตรการสนับสนุนอุตสาหกรรมต่อเรือและอิเล็กทรอนิกส์ทางทหารในประเทศ เช่น การลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบ การให้เงินทุนหมุนเวียน หรือการให้สิทธิประโยชน์กับบริษัทที่ผ่านการรับรองจากกองทัพ

-กองทัพอากาศ

ควรพิจารณาการจัดหาเครื่องบินลำเลียงทดแทนเครื่องบินที่มีอายุการใช้งานยาวนานและควรปลดระวาง เนื่องจากไม่คุ้มค่าต่อการซ่อมบำรุงในระยะยาว โดยการจัดหาควรคำนึงถึงภารกิจที่สามารถใช้งานร่วมกับภาคพลเรือนเพื่อช่วยเหลือประชาชน และเสริมสร้างขีดความสามารถของประเทศในการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยต้องพิจารณาความคุ้มค่าการใช้งาน รวมถึงบริบทด้านภูมิรัฐศาสตร์ ในแนวทางที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมหาอำนาจอย่างสมดุลในเชิงยุทธศาสตร์

สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ

ต้องส่งเสริมการมีส่วนร่วมภาคเอกชนไทยในระบบอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ใช้กลไกของหน่วยงานกลางที่สามารถกำกับดูแลได้อย่างอิสระ รวมทั้งต้องกำหนดตัวชี้วัดที่เป็นสากล หากพบว่ามีโครงการใดที่แอบอ้าง ต้องมีอำนาจในการระงับโครงการ และมีบทลงโทษอย่างชัดเจน

แม้การอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ช่วง 13-15 ส.ค.จะเป็นเรื่องของตัวเลขงบของแต่ละหน่วยงาน แต่ก็คาดว่า สส.ฝ่ายค้านอาจอภิปรายงบบางหน่วยงานโยงไปถึงสถานการณ์การเมืองเวลานี้ เช่น งบ ก.กลาโหม-งบ ก.การต่างประเทศโยงถึงเหตุการณ์ไทย-เขมร เป็นต้น ที่ทำให้การประชุมสภาฯ ตลอด 3 วัน แม้อาจไม่เดือด แต่ก็ไม่จืดชืดเกินไป.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

‘เทพไท’ ฟันธงพ่อนายกฯ ต่อดีลไม่ได้ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ไขก๊อกพ้นนายกฯ ก่อนศาลตัดสินแน่นอน!

49 นาทีที่แล้ว

‘จิรายุ’สรุปสถานการณ์ชายแดน 7 จังหวัดเช้านี้สงบเรียบร้อยดี!

57 นาทีที่แล้ว

ผ่ารายงาน กมธ.งบ 69 ชงพระที่มีสมณศักดิ์ต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินทุกๆ 3 ปี!

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘หมอยง’ บอกจากประสบการณ์ 40 ปี ‘เด็กเก่ง-เด็กอัจฉริยะ’ แต่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้!

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

สาวร้องสื่อ! อดีตแฟนหนุ่ม ชาวอังกฤษ บุกพังทรัพย์สิน

THE PATTAYA NEWS

ทบ.โต้กลับกัมพูชา ย้ำหลักฐานชัด ทุ่น PMN-2 เพิ่งลักลอบติดตั้ง

สำนักข่าวไทย Online

กองทัพ สรุปเหตุพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา 12 ส.ค. ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เรียกร้องกัมพูชา ร่วมมือ"กู้ทุ่นระเบิด"

The Better

ตร.พบเก๋งต้องสงสัย เข้าไปตรวจแทบช็อก พระวัดดังบึงกาฬ อยู่กับ สีกา

Khaosod

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 13 ส.ค. 68

AEC10NEWs

อัปเดตสถานการณ์ 7 จังหวัด ชายแดนไทย–กัมพูชา ‘ไม่มีการปะทะ’

The Bangkok Insight

สภาพอากาศวันนี้ 13 ส.ค. เตือน 37 จังหวัดฝนตกหนัก กทม.ฝนฉ่ำ 60% ของพื้นที่

The Bangkok Insight

เตือน ภาคอีสาน ตะวันออกและใต้ มีฝนตกหนัก

INN News

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...