โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

การเดินทางของ ฌอน ฮิลล์ จากนักกฎหมายนิวยอร์กสู่ ‘แม่ทัพแห่ง de Bijenkorf’ และบทพิสูจน์ครั้งสำคัญของทายาทรุ่นที่ 4 แห่งตระกูลจิราธิวัฒน์

THE STANDARD

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • thestandard.co
การเดินทางของ ฌอน ฮิลล์ จากนักกฎหมายนิวยอร์กสู่ ‘แม่ทัพแห่ง de Bijenkorf’ และบทพิสูจน์ครั้งสำคัญของทายาทรุ่นที่ 4 แห่งตระกูลจิราธิวัฒน์

วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 คือวันแรกอย่างเป็นทางการที่ ฌอน ฮิลล์ (Sean Hill) เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของ ห้างสรรพสินค้า ดี แบนคอร์ฟ (de Bijenkorf) ห้างหรูระดับตำนานอายุกว่า 155 ปีในเนเธอร์แลนด์ การเข้ารับตำแหน่งครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร แต่คือหมุดหมายสำคัญที่ทายาทเจเนอเรชั่นที่ 4 แห่งตระกูลจิราธิวัฒน์ ได้ก้าวขึ้นมานำทัพธุรกิจค้าปลีกในสมรภูมิยุโรปอย่างเต็มตัว

ในฐานะหลานชายคนโตของ คุณตา สัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มเซ็นทรัล และเป็นบุตรชายของ แพทย์หญิงสุวิมล จิราธิวัฒน์ ฮิลล์ พี่สาวคนโตของ ทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเซ็นทรัลคนปัจจุบัน เส้นทางของฌอนจึงถูกจับตามองอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อภารกิจของเขาคือการนำพาอาณาจักรค้าปลีกของตระกูลให้เติบโต ท่ามกลางความท้าทายรอบด้านของตลาดยุโรปที่เปลี่ยนแปลงไป

หลังการเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ THE STANDARD WEALTH ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ ฌอน ฮิลล์ ผ่าน Video Conference จากประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อถอดรหัสความคิด เบื้องหลังเส้นทางชีวิตที่ไม่ธรรมดา และวิสัยทัศน์ของเขาต่อก้าวต่อไปของ de Bijenkorf และกลุ่มเซ็นทรัลในยุโรป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

จากเส้นทางนักกฎหมายสู่บทพิสูจน์บนสมรภูมิค้าปลีกยุโรป

ก่อนจะเข้ามาบริหารอาณาจักรค้าปลีกอย่างเต็มตัว เส้นทางแรกในโลกการทำงานของฌอนเริ่มต้นในฐานะนักกฎหมายและนักการเงิน หลังจากสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีสาขารัฐศาสตร์จาก Boston College และศึกษาต่อด้านกฎหมายที่ Brooklyn Law School ในสหรัฐอเมริกา

การตัดสินใจเลือกเรียนกฎหมายในเวลานั้นถือเป็นการมองการณ์ไกล เพราะเล็งเห็นว่าตระกูลควรมีนักกฎหมายเพิ่มขึ้น นอกเหนือจาก กอบชัย จิราธิวัฒน์ และท่านอื่นๆ ในตระกูล เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในต่างประเทศ

แต่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่พลิกเส้นทางอาชีพของฌอนเกิดขึ้นในปี 2010 เมื่อทศ จิราธิวัฒน์ โทรศัพท์มาชวนให้เขาเข้าร่วมประชุมในดีลประวัติศาสตร์ที่กลุ่มเซ็นทรัลกำลังเจรจาซื้อกิจการห้าง Rinascente ในอิตาลี

ฌอน ฮิลล์ CEO ห้าง de Bijenkorf

“คุณทศบอกผมว่า ‘ผมอยากสร้างคอลเลกชันของห้างลักชัวรีที่ดีที่สุดในโลก’ ผมจำได้เลยว่าฟังแล้วรู้สึกเหมือนเห็นภาพชัดเจนทันที และถามตัวเองว่า ถ้ายังอยู่สายทนายต่อไป ชีวิตก็คงมั่นคง แต่จะรู้สึกภูมิใจในสิ่งที่ทำหรือเปล่า แล้วเมื่อมีโอกาสสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ร่วมกับครอบครัว ผมก็ไม่ลังเลเลยครับ”

การตัดสินใจครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะชีวิตในเมืองไทยของฌอนกำลังลงตัวและลูกชายเพิ่งอายุได้เพียง 4 เดือน แต่เพราะเล็งเห็นถึงโอกาสในการสร้างบางอย่างที่สำคัญ ฌอนจึงเลือกที่จะเดินบนเส้นทางใหม่ และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่นำพาฌอนเข้าสู่ใจกลางของธุรกิจค้าปลีกยุโรปอย่างเต็มตัว

นับเป็นเวลากว่า 10 กว่าปี ที่ฌอนได้สั่งสมประสบการณ์บนเส้นทางสายนี้ จากตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขยายธุรกิจค้าปลีกที่ Rinascente ในอิตาลี สู่ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) ของ KaDeWe Group ในเยอรมนี และกรรมการผู้จัดการ กลุ่มเซ็นทรัล ยุโรป ก่อนจะมารับตำแหน่งสูงสุดที่ de Bijenkorf ในปัจจุบัน

การตัดสินใจครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะชีวิตในเมืองไทยของเขากำลังลงตัวและลูกชายเพิ่งอายุได้เพียง 4 เดือน แต่เพราะเล็งเห็นถึงโอกาสในการสร้างบางอย่างที่สำคัญ ฌอนจึงเลือกที่จะเดินบนเส้นทางใหม่ และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่นำพาฌอนเข้าสู่ใจกลางของธุรกิจค้าปลีกยุโรปอย่างเต็มตัว

จากตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขยายธุรกิจค้าปลีกที่ Rinascente ในอิตาลี สู่ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) ของ KaDeWe Group ในเยอรมนี และกรรมการผู้จัดการ กลุ่มเซ็นทรัล ยุโรป ก่อนจะมารับตำแหน่งสูงสุดที่ de Bijenkorf ในปัจจุบัน

ฌอน ฮิลล์ CEO ห้าง de Bijenkorf

แม้จะข้ามสายงาน แต่พื้นฐาน ‘การคิดแบบนักกฎหมาย’ กลับกลายเป็นความได้เปรียบที่สำคัญที่สุดในการทำงาน ฌอนอธิบายว่าแก่นแท้ของทักษะนี้ไม่ใช่แค่ความรู้เรื่องข้อกฎหมาย แต่คือการฝึกให้คิดอย่างเป็นระบบ วิเคราะห์อย่างรอบด้าน และรู้จักตั้งคำถามที่ถูกต้องเพื่อไปให้ถึงแก่นของปัญหา ทักษะนี้เองที่ทำให้เขากลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญเบื้องหลังดีลการซื้อกิจการที่ซับซ้อนหลายแห่งของกลุ่มเซ็นทรัล

เมื่อถามถึงดีลที่น่าจดจำที่สุด ฌอนไม่ได้เล่าถึงความสำเร็จทางการเงิน แต่กลับย้อนถึงเรื่องราวการปรับโครงสร้างของ KaDeWe Group ในเยอรมนีเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายอย่างยิ่ง

“ดีลนี้มีความหมายกับผมในเชิงส่วนตัวมาก เพราะผมทำงานกับ KaDeWe มานานกว่า 5 ปี ผมรู้จักผู้จัดการแต่ละสาขา และรู้จักพนักงานจำนวนมาก นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของธุรกิจ แต่คือเรื่องราวที่เกี่ยวกับ ‘ผู้คน’ และความผูกพันโดยตรง”

“ผมยังจำได้ดีว่า หลังจากดีลนี้เสร็จสิ้น ผมเดินทางไปที่มิวนิก และมีพนักงานเดินเข้ามาจับมือกับผม พร้อมกล่าวแสดงความยินดีและขอบคุณที่ทุ่มเทจนทำให้ดีลนี้จบลงด้วยดี นั่นเป็นช่วงเวลาที่เต็มด้วยอารมณ์ความรู้สึกอย่างแท้จริง และเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ผมอยากทำให้ดีที่สุด เพื่อพาทุกคนผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปด้วยกัน”

ลูกไม้ใต้ต้น ซึมซับ DNA ค้าปลีกจากรุ่นสู่รุ่น

การที่ฌอนสามารถปรับตัวเข้ากับโลกธุรกิจค้าปลีกได้อย่างรวดเร็ว อาจไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนักเมื่อมองย้อนกลับไปในวัยเด็ก เขาคือลูกไม้ที่หล่นใต้ต้นอย่างแท้จริง จากการที่ต้องเดินทางจากอเมริกากลับมาอยู่กับครอบครัวที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เพื่อเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมไทย ทำให้เขาได้มีโอกาสใช้เวลากับคุณตา สัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ อย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ

ภาพจำที่ชัดเจนที่สุดที่เขาได้เรียนรู้จากคุณตาไม่ใช่กลยุทธ์ทางธุรกิจที่ซับซ้อน แต่คือพื้นฐานที่สำคัญที่สุดอย่าง ‘วินัยในการทำงาน’ ที่เขาไม่เคยเห็นจากใครมาก่อน

“ท่านตื่นแต่เช้า ขับรถจากลาดพร้าวไปชิดลม ใช้เวลาขับไปกลับราว 2 ชั่วโมงต่อวัน ทำงานถึง 2-3 ทุ่มทุกวัน และตลอดเวลานั้น ผมได้อยู่กับท่าน เฝ้าสังเกตทั้งวิธีการทำงาน วิธีพูดคุยกับผู้คน ท่านทำงานตลอดเวลาเลยครับ ซึ่งกลายเป็นแบบอย่างอันทรงคุณค่าในชีวิตผมจนถึงทุกวันนี้”

สิ่งที่ฌอนซึมซับไม่ได้มีเพียงการทำงานหนัก แต่ยังรวมถึงความเคารพในคนอื่นและการทำในสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่สอนกันได้ยาก แต่ต้องเรียนรู้จากการใช้ชีวิตร่วมกัน นอกจากการเรียนรู้จากคุณตาแล้ว ฌอนยังเติบโตท่ามกลางผู้บริหารและนักค้าปลีกมืออาชีพในตระกูลอีกหลายท่าน เช่น ปริญญ์ จิราธิวัฒน์ และ ยุวดี จิราธิวัฒน์ ซึ่งช่วยหล่อหลอมให้เขามี DNA ค้าปลีกที่แข็งแกร่ง

ฌอน ฮิลล์ CEO ห้าง de Bijenkorf

เมื่อก้าวเข้าสู่โลกการทำงานจริง บทเรียนสำคัญก็ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นมาถึงผู้บริหารเจเนอเรชันที่ 3 อย่างทศ จิราธิวัฒน์ ผู้เป็นน้าชาย ฌอนเล่าว่าบทเรียนที่สำคัญที่สุดที่ได้เรียนรู้จากทศคือ ‘อย่ากลัวที่จะตั้งคำถามที่ตอบยาก’

“ในช่วงที่ผมเริ่มต้นทำงานใหม่ๆ ผมยังไม่กล้าที่จะถามคำถามเหล่านั้นเพราะกลัวคนจะคิดว่าผมไม่เข้าใจ แต่เมื่อผมได้เห็นคุณทศเข้ามาทำงานและไม่ลังเลที่จะถามทุกคำถาม ไม่ว่าจะเป็นคำถามที่ยากแค่ไหน และคุณทศก็สามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ ผมจึงเริ่มกล้าขึ้น และเรียนรู้ว่าการตั้งคำถามคือกุญแจสำคัญในการหาคำตอบเพื่อนำไปสู่ตัดสินใจที่ถูกต้อง”

ภารกิจท้าทายในวันที่ยุโรปไม่เหมือนเดิม

การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของ de Bijenkorf ของฌอน เกิดขึ้นในจังหวะที่ตลาดยุโรปกำลังเผชิญกับคลื่นความท้าทายรอบด้าน ทั้งภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น และภูมิทัศน์ของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

ฌอนเล่าว่า แม้ตลาดจีนจะยังคงมีความสำคัญ แต่การชะลอการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยมีนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกาและตะวันออกกลางเข้ามาแทนที่อย่างมีนัยสำคัญ และคลื่นลูกต่อไปที่น่าจับตามองคืออินเดีย ซึ่งมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นกำลังซื้อสำคัญกลุ่มใหม่ของยุโรปในไม่ช้า

ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ กลยุทธ์ของฌอนไม่ใช่การตั้งรับหรือชะลอตัว แต่คือการปรับตัวเชิงรุกเพื่อหาโอกาสในการเติบโต เขาเริ่มเติม ‘ความสนุก’ และความหลากหลายให้กับห้างด้วยการนำเสนอแบรนด์ใหม่ๆ ที่เข้าถึงง่ายขึ้นอย่าง Jellycat เพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นและครอบครัว

ขณะเดียวกันก็มองหา ‘หมวดหมู่สินค้าอื่น’ ที่ยังเติบโตได้ดีสวนกระแส เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์ความงามอย่าง K-Beauty และกลุ่มเสื้อผ้าออกกำลังกาย (Activewear) ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงในอัมสเตอร์ดัม

หัวใจสำคัญอีกอย่างในการทรานส์ฟอร์ม de Bijenkorf คือ ‘อาหาร’ ฌอนได้เรียนรู้จากความสำเร็จของ Food Hall ที่ KaDeWe ซึ่งสามารถเพิ่มจำนวนลูกค้าที่ขึ้นไปใช้บริการจาก 25% เป็นกว่า 50% และสร้างยอดขายเติบโตจาก 50 ล้านยูโรเป็น 80 ล้านยูโร

ฌอนจึงมีแผนที่จะยกเครื่องโซนอาหารของ de Bijenkorf ที่อัมสเตอร์ดัมครั้งใหญ่ เพื่อสร้างให้เป็น ‘ประสบการณ์พิเศษ’ ที่จะดึงดูดให้ลูกค้าใช้เวลาในห้างนานขึ้น

“เรื่องอาหารเป็นสิ่งที่เราเรียนรู้มาจากเอเชียอย่างชัดเจนครับ ถ้าห้างไม่มีโซนอาหาร ลูกค้าจะไม่อยู่ต่อ หรืออาจไม่มาเลยก็ได้ ซึ่งพฤติกรรมนี้ก็เกิดขึ้นในยุโรปเช่นกัน”

ท่ามกลางสมรภูมิค้าปลีกที่การแข่งขันออนไลน์สูง กลุ่มเซ็นทรัลยังคงมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในการลงทุนกับห้างสรรพสินค้า Physical Store แต่ในขณะเดียวกัน de Bijenkorf ก็มีอาวุธสำคัญที่แตกต่างจากห้างอื่นในเครือ นั่นคือ ‘ธุรกิจออนไลน์’ ที่แข็งแกร่งมาก ซึ่งสร้างรายได้คิดเป็นสัดส่วนถึง 35% ของทั้งหมด และถูกนับเป็นสาขาที่ 8 ที่มียอดขายติด Top 3 เป็นรองเพียงอัมสเตอร์ดัมและรอตเทอร์ดัมเท่านั้น

ฌอน ฮิลล์ CEO ห้าง de Bijenkorf

ภาพ : Dr. Victor Wong / Shutterstock

อนาคต Central Group และ de Bijenkorf

เมื่อมองไปข้างหน้าถึงภาพรวมของกลุ่มเซ็นทรัลในยุโรป ซึ่งปัจจุบันมี 42 สาขาใน 7 ประเทศ ฌอนมองว่ากลยุทธ์ในตอนนี้คือการ ‘โฟกัส’ พัฒนาห้างที่มีอยู่ให้แข็งแกร่งที่สุดก่อน แต่ก็ไม่ได้ปิดโอกาสการลงทุนในอนาคต หากเจอห้างที่มี ‘ทำเล’ และ ‘ขนาด’ ที่เหมาะสมจริงๆ เหมือนเช่น Rinascente ที่มิลาน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิหารดูโอโม่ อันเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

สำหรับภารกิจที่ de Bijenkorf เป้าหมายนั้นชัดเจนและท้าทาย ฌอนตั้งเป้าที่จะผลักดันให้ห้างเติบโตสู่ระดับรายได้ 1,000 ล้านยูโร หรือราว 3.8 หมื่นล้านบาทให้ได้เหมือนที่ Rinascente เคยทำสำเร็จมาแล้ว แต่ลึกไปกว่าตัวเลขทางการเงิน ภาพความสำเร็จสูงสุดที่ฌอนอยากเห็น คือการสร้าง de Bijenkorf ให้เป็นสถานที่แห่งความสุขและความทรงจำ เขามองเห็นความงดงามในชื่อของห้างที่แปลว่า ‘รังผึ้ง’

“เปรียบเหมือนสิ่งที่เรากำลังพยายามสร้างสถานที่ที่ผู้คนแวะเวียนเข้ามา มีปฏิสัมพันธ์กับเรา แล้วบินจากไปพร้อมพลังบางอย่าง เหมือนผึ้งที่ไปผสมเกสร และทำให้เกิดดอกไม้บานมากมายในที่อื่นๆ หน้าที่ของเราคือการสร้าง ‘ประสบการณ์’ และ ‘ความทรงจำ’”

ภาพจำที่เขาประทับใจที่สุด คือเหตุการณ์ที่ลูกค้านำร้องเพลงคริสต์มาสใน Food Hall ของ KaDeWe จนพนักงานและลูกค้าร่วมร้องตามกันทั้งโซน นั่นคือความสำเร็จที่แท้จริงของคนทำรีเทลในมุมมองของเขา หากวันหนึ่งภาพเหล่านั้นเกิดขึ้นที่ de Bijen-korf ไม่ว่าจะเป็นเสียงหัวเราะหรือรอยยิ้ม นั่นคือวันที่เขาจะรู้สึกว่าภารกิจของเขาสำเร็จแล้ว

ชีวิตและมรดกที่อยากส่งต่อ

นอกเหนือจากบทบาทผู้บริหาร ฌอนยังเป็นคุณพ่อของลูกสองคน เขาถ่ายทอดบทเรียนที่สำคัญที่สุดที่เขาได้รับมา นั่นคือ ‘ความสำเร็จจะไม่เกิดขึ้นเองหากไม่มีความพยายาม’ และต้องลงมือทำ เขาพยายามใช้เวลาทุกนาทีกับครอบครัวให้มีคุณภาพที่สุดเมื่อมีโอกาส

“แม้ว่าผมจะมีเวลาอยู่กับลูกๆไม่มาก แต่เมื่ออยู่ด้วยกัน ผมจะพยายามใช้เวลานั้นให้ดีที่สุด ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีทีวี เราจะทำกิจกรรมร่วมกันจริงๆ อย่างสุดสัปดาห์นี้ ผมกับลูกชายจะตื่นแต่ 6 โมงเช้า แล้วไปขี่จักรยานขึ้นเขาด้วยกัน เราสองคนจะใช้เวลา 5 ชั่วโมง อยู่ด้วยกันโดยไม่มีสิ่งรบกวน นั่นแหละครับคือเวลาคุณภาพที่แท้จริง และผมอยากให้ทุกนาทีที่เราใช้ร่วมกันมีความหมายครับ”

เมื่อมองภาพตัวเองในอีก 10 ปีข้างหน้า ฌอนยังคงเห็นตัวเองทำงานและใช้ชีวิตอยู่ในยุโรป ที่ซึ่งธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัลยังเติบโตต่อไปได้อีกมาก เขาไม่ได้มองไกลไปกว่าบทบาทปัจจุบัน แต่ยึดมั่นในหลักการที่เรียนรู้จากองค์กรว่า ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวหรือไม่ หากทำงานได้ไม่ดีก็จะไม่ก้าวหน้า เขาจึงขอทุ่มเท 100% ให้กับ de Bijenkorf ในวันนี้ แล้วอนาคตค่อยว่ากันอีกที

เส้นทางของ ‘ฌอน ฮิลล์’ จากเด็กชายที่เดินทางข้ามทวีปมาเรียนรู้วัฒนธรรมกับคุณตา สู่การเป็นนักกฎหมาย และแม่ทัพแห่ง de Bijenkorf คือบทพิสูจน์ล่าสุดของการส่งต่อภารกิจในตระกูลจิราธิวัฒน์ ที่เดิมพันครั้งนี้ไม่ได้วัดกันแค่ตัวเลขพันล้านยูโร แต่คือความสามารถในการนำ ‘ศาสตร์’ ของนักการเงินและ ‘ศิลป์’ ของนักค้าปลีก มาทำให้ตำนานที่มีอายุนับร้อยปียังคงเติบโตต่อไปได้ในวันที่โลกไม่เหมือนเดิม

ภาพปก : NurPhoto / Contributor / Getty Images

หมายเหตุ : ใช้อัตราแลกเปลี่ยน 1 ยูโร เท่ากับ 37.80 บาท ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2568

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก THE STANDARD

Seiko 5 Sports x Pepsi การใช้ชื่อ “Pepsi Watch” ของจริงอย่างเป็นทางการ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อายิโนะโมะโต๊ะ ประกาศหนุนซีเกมส์-อาเซียนพาราเกมส์ 2025 ส่งเสริมโภชนาการกีฬา

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

"สารจากนักรบ" ร.ต.ธนาวุธ ผู้นำหมวดนำทีมเข้าตีช่องอานม้าปะทะกัมพูชา

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

ปิโตรนาสว่าสูงแล้ว! แต่หนีทหารได้นานกว่า “อดีตพระอลงกต” เผยเคยเป็นผู้ออกแบบ “ตึกปิโตรนาส”

เดลินิวส์

กาตาร์ เผยอิสราเอลยังไม่ตอบรับข้อเสนอหยุดยิงในกาซา

JS100

บิ๊กเต่า แจงปม ร้อง ภูมิธรรม ทบทวน โผตำรวจ ชี้ อยากให้ใช้กฎหมาย-ความสามารถเป็นตัวชี้วัด

Khaosod

สลด!หนุ่มใหญ่โรคประจำตัวกำเริบขณะขับรถ กระอักเลือดนอนตายข้างทาง

Manager Online

กรมการข้าวโชว์โมเดล “ข้าวยั่งยืน” อุบลฯ ต้นแบบการผลิตข้าวมาตรฐานใหม่ของไทย

Manager Online
วิดีโอ

สืบต้นตอ “หนอนสกรูกินเนื้อ” หลังพบผู้ป่วยคนแรกในสหรัฐฯ

Thai PBS
วิดีโอ

ชาวบ้าน ร่วมส่งผู้ว่า ไตรภพย้ายรับตำแหน่งที่เพชรบุรี ทิ้งผลงานปราบยา–อิทธิพล ผู้ว่าฯ ระยอง คนใหม่ เตือนรับมือพายุคาจิกิ

BRIGHTTV.CO.TH

ข่าวและบทความยอดนิยม

เส้นทาง ‘สุทธิสาร จิราธิวัฒน์’ จากการปลุกปั้น เพาเวอร์บาย, ซุปเปอร์สปอร์ต และไทวัสดุ สู่ซีอีโอ CRC คนใหม่

THE STANDARD

สินค้าไทยไปสหรัฐฯ ‘เกินครึ่ง’ เสี่ยงโดนภาษีสวมสิทธิ์ หากสหรัฐฯ กำหนดเกณฑ์ Local Content 40-60%

THE STANDARD

รู้จักกลไก Negative Income Tax ระบบสวัสดิการใหม่ ที่ทุกคนต้องยื่นภาษี? วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย ใครควรได้รับเงินโอนบ้าง?

THE STANDARD
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...