‘มาร์กี้ ราศรี’ เล่าโมเมนต์สุดฮา ลูกแฝดคิดว่าแม่ไม่มีงานทำ-เผยความเจ็บของสามีหลังสักหัว!
เรียกได้ว่าเป็นนางเอกเบอร์ต้นของเมืองไทย ที่ห่างหายจากการแสดงไปหลายปี สำหรับ “มาร์กี้-ราศรี บาเล็นซิเอก้า” คุณแม่ลูกแฝดคนสวย ที่ผันตัวเองไปทำหน้าที่คุณแม่และศรีภรรยาให้กับสามี “ป๊อก ภัสสรกรณ์” แต่ล่าสุด มาร์กี้ ขอคัมแบ๊กกลับมารับงานแสดงอีกครั้งในรอบ 3 ปี โดยในงาน Disney+ Hotstar เปิดตัวซีรีส์ไทย “30 เพิ่งเริ่มต้น”(The Thirsty Thirty) เจ้าตัวได้เผยถึงสาเหตุที่กลับมาเล่นละคร รวมถึงความน่ารักของลูกที่ไม่รู้ว่าคุณแม่ทำงานอะไร อีกทั้งเรื่องล่าสุดที่ หนุ่มป๊อก สักหัวจนทำเอาหลายคนอึ้ง โดย มาร์กี้ เผยว่า
“กี้ห่างงานละครไปประมาณ 3 ปี เรื่องล่าสุดที่เล่นคือ มามี้ที่รัก ทางช่อง 3 สาเหตุที่กลับมารับละครอีกครั้งเพราะชอบที่ตัวบทของเรื่องนี้ (30 เพิ่งเริ่มต้น) เราไม่เคยเล่นอะไรที่เป็นดราม่าขนาดนี้มาก่อน แล้วก็เป็นซีรีส์รีเมคจากจีน เลยรู้สึกว่าน่าสนใจดี พอต้องมาเล่นดราม่าหนัก ต้องมีการเคาะสนิมกันบ้างค่ะ พอเป็นดราม่า ความที่ตัวเองไม่ชอบทุกข์เรื่องชาวบ้าน ปกติก็จะไม่รับแนวดราม่าเลย แต่อันนี้มันรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วแหละ เราทำอาชีพนักแสดงมาก็นานแล้ว จะมาขี้เกียจแบบนี้ไปตลอดไม่ได้ จะเอาแต่อะไรที่ง่ายๆ ที่ถนัดๆ ไม่ได้แล้ว ถ้ามันจะเหนื่อยก็ต้องสู้สิวะกี้ ยากก็ต้องสู้สิ อันนี้คือคุยกับตัวเองตัวเอง (หัวเราะ) เราจะมากินหมูไปตลอดชีพก็ไม่ใช่ เลยสู้ค่ะ”
แล้วตัวละครที่กี้เล่น สถานการณ์ที่เจอมันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนเลย อ่านบทไปแล้วก็เริ่มเอ๊ะ ลองเช็กโทรศัพท์สามีดูบ้างสิ (ยิ้ม) เล่นไปก็เอ๊ะไป เพราะในเรื่องมันเป็นคนใกล้ตัวหมดเลยที่มาสร้างปัญหา แต่เราก็ไม่ได้ถึงขั้นไประแวงสามีตัวเองนะคะ แค่ว่าอ่านบทไปแล้วก็พารานอยด์ไปเอง ประมาณว่าเรื่องแบบนี้มันก็เป็นไปได้ง่ายเหมือนกัน อย่างบางทีเราอาจจะสนใจตัวเองมากเกินไป ไม่ได้สนใจคนข้างตัวเรา ถือว่าเป็นการเตือนสติว่าการที่อยู่เป็นครอบครัวแล้ว ไม่ใช่แค่ตัวเราอย่างเดียว แต่เป็นเราและเขา ทำยังไงให้เรามีความสุข และเขาก็ต้องมีความสุขด้วยเหมือนกัน ถามว่าเจอบทหนักกลับบ้านไปได้ปรับทุกข์กับสามีบ้างไหม มีบอกว่าวันนี้ปวดหัวมากเลย เครียดมากร้องไห้ทั้งวัน คอก็เจ็บ ตาก็บวม ถึงขั้นบอกพี่ป๊อกว่าไม่อยากเล่นแล้ว เขาก็บอกว่าทำได้ สู้ๆ อีกนิดหนึ่งก็จะเสร็จแล้ว เราก็บ่นไปอย่างนั้นแหละ วันรุ่งขึ้นตื่นขึ้นมาแล้วก็ไปทำงานต่อ
ถามถึงความกังวลในเรื่องของลูกๆ อาจจะได้เห็นการแสดงของเราในมุมนี้ ไม่น่าจะ เพราะว่าเขายังไม่ได้สนใจ ทุกวันนี้เปิดละครตัวเองให้ลูกดูยังลำบากเลยค่ะ ขนาดเป็นเรื่องที่สนุกๆ พอเปิดมาเจอหน้าแม่ ลูกบอกว่าน่าเบื่อ เปลี่ยนไปดูการ์ตูนทันทีค่ะ แล้วนางก็ไม่รู้ว่าแม่เล่นละคร เหมือนเขาไม่เข้าใจว่าแม่ทำงานอะไร เขาเคยมาถามว่าหม่ามี้ทำงานอะไร เราบอกว่าเล่นละครไง เขาก็จะละครอะไรอ่ะ พอบอกว่าที่เคยเปิดให้ดู เขาก็ทำหน้างงๆ เป็นทั้งคู่เลยค่ะ แต่มีก้าจะช่างสังเกตกว่า บางทีไปเดินห้างเขาก็จะถามว่าทำไมคนถึงมองหม่ามี้ ทำไมถึงทัก รู้จักกันเหรอ เลยบอกว่าเขาคงเห็นหม่ามี้ในละครมั้ง ละคร…แล้วเขาก็ไม่ถามละ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแม่เป็นนางเอก คิดมาตลอดว่าแม่ไม่มีงานทำ ลูกรู้ว่าพ่อเป็นนักร้อง ส่วนแม่ตามพ่อไม่มีงานทำ (หัวเราะ) เอาที่นางสะดวกสะดวกเลยค่ะ
"ล่าสุดที่คุณสามีไปสักที่หัว คือนางชอบของนาง แต่อันนี้เราไม่ขัด เพราะว่าพอผมขึ้นก็มองไม่เห็นแล้ว จริงๆ เขาก็มาถามก่อนว่าโอเคไหม แต่ทุกครั้งที่สัก เขาก็จะมีเรื่องราว แต่รอให้เขาบอกเองดีกว่าว่าสตอรี่เขาคืออะไร เขาเป็นคนมีสตอรี่อยู่แล้ว ถึงสตอรี่ไม่มีเขาก็สามารถสร้างได้ (หัวเราะ) ส่วนเรื่องความเจ็บบอกเลยว่าวันนั้นกี้ไปด้วย เรียกว่าไม่มีช่วงที่ไม่เจ็บเลยอ่ะ เห็นหน้าแล้วรู้เลยว่าเจ็บ ปกติถ้าเรายกมือถือขึ้นมาถ่าย เขาจะฮึบ นั่งเท่ๆ เพื่อที่เวลาเอาไปลงโซเชียลจะได้ดูคูลๆ แต่หนนี้ไม่มีภาพคูล เก็บความเจ็บปวดไม่ได้เลย หยีตาตลอด ส่วนเราไม่สงสารแล้วก็ไม่สม เพราะเป็นสิ่งที่เขาเลือกเอง แต่เราก็ไปนั่งเป็นเพื่อนเผื่อว่าเขาอยากจะกินโน้นกินนี่ คือมันนานมากใช้เวลา 7 ชั่วโมง ในการสักแต่ละอัน 2 อันก็ 14 ชั่วโมง แต่ไม่ได้ทำติดต่อกันนะคะ"