กต. ชี้กัมพูชาไม่รับข้อเสนอร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน
นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกรณีที่มีการสอบถามเกี่ยวกับท่าทีของฝ่ายกัมพูชาที่ออกมาแถลงในประเด็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในช่วงที่ผ่านมา นั้น โดยชี้แจงเพิ่มเติม ดังนี้
กัมพูชาไม่รับข้อเสนอของไทยร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด
1. เป็นที่น่าเสียดายที่กัมพูชาไม่รับข้อเสนอของไทยในการร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิดในการประชุม RBC ระหว่างกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด กับกองบัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2568 โดยฝ่ายกัมพูชาระบุว่าต้องขึ้นอยู่กับพัฒนาการของการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง ตลอดจนเสนอให้มีความร่วมมือเฉพาะในบริเวณที่มีการปักปันเขตแดนแล้วเสร็จก่อน
ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของ GBC อย่างชัดเจน
2. ท่าทีของกัมพูชาดังกล่าว เป็นท่าทีที่ย้อนแย้งกันอย่างชัดเจน โดยกัมพูชาอ้างว่าให้ความสำคัญกับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม แต่กลับสร้างเงื่อนไขและปล่อยให้อาวุธร้ายแรงเช่นนี้ยังคงอยู่และถูกนำไปใช้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของ GBC อย่างชัดเจน และไม่ให้ค่ากับชีวิตและความปลอดภัยของมนุษย์ที่เป็นพี่น้องประชาชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม และตอกย้ำเจตนารมณ์ที่จะยังคงละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศต่อไป
3. นอกจากนี้ ตามการแถลงข่าวของโฆษก กห. กัมพูชา และกรณีนายเฮง รัตนา ผอ. CMAC เช้าวันที่ 17 ส.ค. ที่กล่าวอ้างว่าทุ่นระเบิด PMN-2 ที่นำมาเสนอต่อคณะทูต องค์การระหว่างประเทศ และสื่อมวลชนที่ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2568 ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายเนื่องจากยังไม่ได้ปลดสลักนิรภัย ทางโฆษกกองทัพบกไทยได้ชี้แจงแล้วว่า เป็นการนำเสนอข้อมูลบางส่วน หวังบิดเบือนให้เกิดความสับสน
ซึ่งในความเป็นจริงฝ่ายไทยได้นำเสนอทุ่นระเบิดที่ตรวจพบในทั้ง 2 ลักษณะ คือ ทุ่นระเบิดที่ยังไม่ได้นำไปติดตั้ง และทุ่นระเบิดที่ติดตั้งแล้ว รวมทั้งชิ้นส่วนของทุ่นระเบิดที่ได้ก่อให้เกิดการบาดเจ็บสาหัสและทำให้ทหารไทยพิการมาแล้ว ซึ่งถูกเก็บกู้มาจากบริเวณพื้นที่ภูมะเขือในจุดที่ทหารกัมพูชาเคยวางกำลังอยู่
เดินหน้าเรียกร้องให้กัมพูชากลับมาร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดอย่างจริงจังและจริงใจ
4. การสื่อสารท่าทีของกัมพูชาในเรื่องนี้แสดงถึงความย้อนแย้งระหว่างหลักการและการกระทำอย่างชัดเจน กระทรวงการต่างประเทศจะยังคงเดินหน้าเรียกร้องให้กัมพูชากลับมาร่วมมือกับไทยในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดอย่างจริงจังและจริงใจ และดำเนินการต่อเนื่องในเวทีระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะผ่านกลไก Committee on Cooperative Compliance (คณะกรรมการปฎิบัติการตามอนุสัญญาฯ) ภายใต้กลไกอนุสัญญาออตตาวา ที่จะประชุมในวันที่ 22 ส.ค. นี้ หรือโดยการนำคณะทูตมาพิสูจน์ข้อมูลและหลักฐานด้วยตนเอง เพื่อให้ทุกประเทศและทุกองค์กรร่วมกันกดดันให้กัมพูชาปฏิบัติตามพันธกรณีในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาที่มีความรับผิดชอบ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศบ.ทก. ตอบโต้ข้อกล่าวหาบิดเบือนการรุกล้ำดินแดนของกองกำลังไทย
สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กองกำลังทั้ง 2 ฝ่ายยังวางกำลังตามแนวที่มั่น
จ.สุรินทร์ ขอความร่วมมือปชช. กลับเข้าพื้นที่ งดถ่ายรูป-ไลฟ์สดที่ตั้งหน่วยความมั่นคง
นิด้าโพลชี้สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สถานทูตญี่ปุ่นแถลงแสดงความเสียใจต่อเหตุความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา
- รัฐบาลไทยเดินหน้าทุกมิติเพื่อความเข้าใจของประชาคมโลกกรณีชายแดนไทย-กัมพูชา
- ศบ.ทก. ตอบโต้ข้อกล่าวหาบิดเบือนการรุกล้ำดินแดนของกองกำลังไทย
- รัฐบาลชี้ “ไมเคิล อัลฟาโร” ไม่ใช่นักข่าวทำเนียบขาว ปล่อยเฟคนิวส์ขัด GBC
- กต. เรียกร้องประชาคมโลกประณาม - กดดันกัมพูชา เก็บกู้ทุ่นระเบิดของเก่าและใหม่