ดาวโจนส์ปิดลบ 11.01 จุด รายงาน PPI ลดความคาดหวังเฟดลดดอกเบี้ย
ดาวโจนส์ปิดลบ 11.01 จุด รายงาน PPI ลดความคาดหวังเฟดลดดอกเบี้ย
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -15 ส.ค. 68 7:42: น.
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสานในวันพฤหัสบดี (14 ส.ค.) โดยดาวโจนส์ปิดลดลง 11.01 จุด หลังรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ร้อนแรงกว่าคาดการณ์ กดดันความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และยังคงปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดลดลง 11.01 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 44,911.26 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 1.96 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 6,468.54 จุด และดัชนีแนสแดค ปิดลดลง 2.47 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 21,710.67 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่าดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากต้นทุนสินค้าบริการที่พุ่งขึ้น สะท้อนสัญญาณเงินเฟ้อมีแนวโน้มเร่งตัว ส่งผลให้นักลงทุนปรับลดคาดการณ์การลดดอกเบี้ยของเฟดตลอดปีเหลือราว 56.7 เบสิสพอยท์ (bps) จากเดิมประมาณ 63 bps แต่นักลงทุนยังคงคาดหวังว่ามีโอกาสสูงที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนก.ย.นี้
Thierry Wizman นักกลยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยจาก Macquarie Group กล่าวว่า ข้อมูลที่ออกมาสามารถตีความได้ว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนก.ย. แต่จะเป็นการลดแบบเหยี่ยว (Hawkish cut) ซึ่งยังเร็วเกินไปที่เฟดจะบอกได้ชัดเจนว่า จะมีการลดดอกเบี้ยต่อเนื่องหรือไม่
ตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่มีกำหนดเผยแพร่ปลายเดือนนี้ จะเป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งหากสะท้อนว่าเงินเฟ้อด้านบริการยังคงร้อนแรง ตลาดอาจตอบสนองในเชิงลบ ขณะที่รายงานอีกฉบับ แสดงให้เห็นว่าจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานรายใหม่ ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา
หุ้น 7 ใน 11 กลุ่ม ที่คำนวนในดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลง ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาอ่อนแอและเงินเฟ้อผู้บริโภคที่ปรับขึ้นพอประมาณ ซึ่งเคยหนุนความคาดหวังว่าการลดดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในเดือนก.ย. แต่ตัวเลข PPI ล่าสุด ได้เพิ่มความกังวลว่าภาษีนำเข้าสหรัฐฯ อาจดันราคาสินค้าในอนาคตและฉุดโมเมนตัมของตลาดหุ้น
ทั้งนี้ ดัชนี PPI ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 3.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. และสูงกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 2.5% จากระดับ 2.4% ในเดือนมิ.ย. ขณะที่ดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 3.7% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 2.9% และเพิ่มขึ้นจากระดับ 2.6% เมื่อเดือนมิ.ย.
Sam Stovall หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนจาก CFRA Research ระบุว่า ตอนนี้นักลงทุนเกิดความลังเล ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ ด้าน Alberto Musalem ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์และกรรมการที่มีสิทธิ์โหวตในปีนี้ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องปรับลดดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งสวนทางกับความเห็นของสก็อต เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ที่ระบุว่ายังมีความเป็นไปได้
ความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัว พบว่าหุ้น Intel พุ่ง 7.4% หลังมีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังหารือเพื่อเข้าถือหุ้นในบริษัท ขณะที่หุ้น Cisco Systems ลดลง 1.6% หลังเผยคาดการณ์ผลประกอบการสอดคล้องตลาดแต่ไม่สร้างแรงหนุน ด้านหุ้น Deere & Co ร่วง 6.8% หลังกำไรไตรมาส 2 ลดและปรับลดคาดการณ์กำไรตลอดทั้งปี ขณะที่หุ้น Tapestry ดิ่ง 15.7% หลังคาดการณ์กำไรต่ำกว่าตลาด โดยทั้ง Deere และ Tapestry เตือนว่าภาษีนำเข้าอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ
ทั้งนี้ ในด้านภูมิรัฐศาสตร์ นักลงทุนต่างจับตาการพบปะกันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เพื่อหาทางยุติสงครามในยูเครน
ที่มา Reuters
รายงาน โดย สิริพงศ์ สิริชุมศรี เรียบเรียง โดย Supak Hopuengju
อีเมล์. supak@efinancethai.com
ดูข่าวต้นฉบับ