โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ท่องเที่ยว

อยู่บ้านพ่อแม่ก็สบายดี แต่บางทีก็อยากอยู่คนเดียว แล้วเมื่อไหร่คือเวลาที่ควร ‘ย้ายออก’

The Momentum

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว • THE MOMENTUM

‘อยู่กับพ่อแม่ไม่ต้องจ่ายค่าเช่า แต่อยู่คนเดียวจะพาเพื่อนมาบ้านก็ไม่มีใครว่า’

‘อยู่กับพ่อแม่ไม่ต้องทำความสะอาดบ้าน แต่อยู่คนเดียวจะวางของตรงไหนก็ได้’

หลายคนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ได้ออกไปเรียนไกลบ้าน หรือเมื่อถึงวัยทำงานก็สามารถเดินทางไป-กลับระหว่างบ้านกับที่ทำงานได้ไม่ยาก จึงเลือกอาศัยอยู่กับพ่อแม่ในบ้านหลังเดิมที่เติบโตมา และหลายคนปฏิเสธไม่ได้ว่า การอยู่กับครอบครัวทำให้เกิดความสบายในหลายมิติ

เพราะพ่อแม่บางคนยังคอยดูแลเรื่องอาหาร ทำความสะอาดบ้าน หรือซักรีดผ้าให้ด้วย และบางคนก็รู้สึกอุ่นใจกับบรรยากาศที่สมาชิกในครอบครัวได้นั่งกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา ได้ทำกิจกรรมด้วยกันในบ้าน หรือสามารถติดต่อช่วยเหลือกันได้ทันท่วงทีในกรณีฉุกเฉิน อีกทั้งยังไม่ต้องออกเงินจ่ายค่าเช่าบ้านจำนวนมาก หรือเป็นหนี้ระยะยาว เพราะกู้ซื้อบ้านเป็นของตัวเอง

มีเหตุผลมากมายที่ทำให้หลายคนไม่อยากย้ายออกจากบ้านพ่อแม่ แต่คนกลุ่มนี้ก็มักโดนสังคมครหาว่า ‘ไม่โตเป็นผู้ใหญ่เสียที เพราะพึ่งพาที่อยู่อาศัยจากพ่อแม่’ หรือ ‘ถ้ายังอยู่กับพ่อแม่แล้วจะเริ่มสร้างครอบครัวได้อย่างไร’ และคำกล่าวอื่นๆ จากคนใกล้ตัว ซึ่งลดทอนความมั่นใจแล้วเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง และคิดหนักว่าจะย้ายออกจากบ้านพ่อแม่ดีไหม แล้วถึงเวลาหรือยังที่ต้องย้ายออกไปอยู่ด้วยตัวเอง

บางคนอาจกำลังหาคำตอบว่า อายุเท่านี้ควรอยู่ด้วยตนเองหรือยัง เพราะคนไทยมักเปรียบเทียบกับวัยรุ่นสหรัฐอเมริกา ที่เรามักเห็นตามสื่อต่างๆ ว่า จะเริ่มย้ายออกจากบ้านพ่อแม่ตอนที่เรียนจบไฮสคูล ก็เป็นช่วงอายุประมาณ 18 ปี ซึ่งนับว่าเร็วกว่าเด็กไทยหลายปี เพราะแม้หลายคนจะออกมาอยู่หอคนเดียวตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย แต่ก็เป็นแค่การฝึกฝนที่ต้องไปกลับช่วงปิดเทอม และพ่อแม่เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย เมื่อเรียนจบและเริ่มทำงานไกลบ้านจึงเป็นการย้ายออกมาอยู่คนเดียวอย่างสมบูรณ์

เมื่อเทียบกันแล้วอาจใกล้เคียงประเทศในแถบยุโรป เพราะข้อมูลจากเว็บไซต์ Eurostat ที่รวบรวมสถิติด้านต่างๆ อย่างเป็นทางการของสหภาพยุโรประบุว่า ในปี 2022 คนหนุ่มสาวทั่วสหภาพยุโรปออกจากบ้านพ่อแม่โดยเฉลี่ยเมื่ออายุ 26.4 ปี อย่างไรก็ตาม แต่ละประเทศก็มีค่าเฉลี่ยช่วงอายุแตกต่างกัน เพราะอายุเฉลี่ยในโครเอเชีย 33.4 ปีจึงจะย้ายออก สโลวาเกีย 30.8 ปี รวมถึงประเทศกรีซ บัลแกเรีย สเปน มอลตาและอิตาลีก็มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 30 ปี ในขณะเดียวประเทศในยุโรปที่วัยรุ่นย้ายออกเร็วที่สุดคือ ฟินแลนด์ ด้วยอายุเฉลี่ย 21.3 ปี ส่วนประเทศสวีเดน เดนมาร์ก และเอสโตเนียก็ย้ายออกเร็วไม่แพ้กัน

เมื่อได้เห็นค่าเฉลี่ยของแต่ละประเทศในแถบยุโรป เชื่อว่าหลายคนคงเบาใจว่า เราไม่ใช่เด็กไม่รู้จักโตเสียหน่อย เพราะการจะย้ายออกหรือไม่ล้วนขึ้นอยู่กับสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และบรรยากาศในครอบครัวของเราเอง ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องอายุ

แต่สำหรับคนที่คิดไม่ตกว่าจะย้ายออกดีไหม ก็มีสิ่งที่ต้องพิจารณานอกเหนือจากอายุ 3 ข้อ ได้แก่

  • เรามีความมั่นคงในหน้าที่การงานและการเงินแล้วหรือยัง

เพราะการย้ายออกจากบ้านพ่อแม่เป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะทางการเงิน ทั้งเรื่องค่ามัดจำ ค่าเช่าหรือผ่อนที่พักอาศัย สำหรับบ้านคนอาจเป็นจำนวนเกินครึ่งของเงินเดือน รวมถึงค่าเดินทางที่เมื่อย้ายบ้านแล้วอาจต้องจ่ายค่ารถเพิ่มก็ได้ ไปจนถึงค่าใช้จ่ายในครัวเรือนที่ไม่สามารถหารกับสมาชิกในครอบครัวได้ ทั้งค่าอาหารและค่าข้างของเครื่องใช้ ต้องถามตัวเองว่า เราพร้อมแบกรับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นหรือไม่

ทั้งนี้ต้องคิดว่า เรามีแผนจะย้ายงานเร็วๆ นี้หรือไม่ เพราะหากลงหลักปักฐานกับบ้านไปแล้ว แต่กลับต้องเปลี่ยนที่ทำงานก็อาจทำให้เดินทางลำบาก หรือภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นด้วย

  • รู้ว่าตัวเองอยากอาศัยอยู่ที่ไหน

ทำเลที่พักเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคิดให้รอบคอบ และสำหรับคนที่อยู่บ้านเดิมมาทั้งชีวิตอาจต้องลองพิจารณาดูว่า เราต้องการอะไร เราขับรถเองหรือโดยสารขนส่งสาธารณะ เราชอบเดินห้างหรือชอบซื้อกับข้าวในตลาด อยากวิ่งออกกำลังกายในสวนหรือชอบอยู่ในฟิตเนส ก็ต้องเลือกที่พักให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ เมื่อพิจารณาดูแล้วหลายคนอาจพบคำตอบ เช่น เราอยากอาศัยอยู่ในย่านเดิมที่คุ้นชิน เพียงแค่อยากย้ายออกจากบ้านพ่อแม่เท่านั้นเอง

  • ความจำเป็นที่ต้องย้าย

บางคนมีความจำเป็นต้องย้ายออกจากบ้านด้วยการเรียนและหน้าที่การงาน ตลอดจนปัญหาในครอบครัวที่เมื่ออยู่ใกล้ก็ทะเลาะกันเหมือนลิ้นกับฟัน จนส่งผลต่อจิตใจสมาชิกในครอบครัว แต่เมื่อแยกกันอยู่กลับรู้สึกรักกันมากขึ้นเสียอย่างนั้น เพราะมีการเว้นพื้นที่ไว้คิดถึงกันบ้าง

แต่สำหรับหลายครอบครัวอาจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องย้ายออก เช่น ครอบครัวรักใคร่กลมเกลียวไม่เคยมีปัญหากับสมาชิกในครอบครัว พ่อแม่คอยดูแลสนับสนุนอยู่ที่บ้านไม่เคยบ่นดุด่า ไม่ต้องจ่ายค่าบ้านหรือค่าน้ำค่าไฟ ที่ทำงานอยู่ใกล้บ้าน เดินทางสะดวกรวดเร็วและประหยัด

แม้บางคนจะไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องย้ายออกจากบ้านพ่อแม่ นอกจากอยากลองอยู่คนเดียวสักครั้งในชีวิต อยากลองมีพื้นที่ส่วนตัวอย่างแท้จริง อาจลองเช่าที่พักระยะสั้นก่อน เพราะสุดท้ายแล้วไม่ใช่ทุกคนที่ชอบอยู่ไกลจากพ่อแม่

อ้างอิง:

- https://www.imoving.com/blog/before-your-move/average-age-to-move-out-of-parents-house/

- https://ec.europa.eu/eurostat/web/products-eurostat-news/w/ddn-20230904-1

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก The Momentum

เวียดนาม สิงคโปร์ทุ่มเงิน ขยาย Entertainment Complex หรือไทยกำลังเสียโอกาสครั้งใหญ่?

36 นาทีที่แล้ว

ชนินทธ์แจงปมขัดแย้งใน ‘ดุสิตธานี’ เกิดจากคนในครอบครัว มีความพยายามดึง ‘คนนอก’ เข้ามาเทกโอเวอร์

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ChatGPT ถูกฟ้องในข้อหา ‘ทำคนตาย’ หลังแนะนำวิธี ‘ปลิดชีพ’ กับเด็กอายุ 16 ปี ด้าน OpenAI เตรียมปรับอัลกอริทึมครั้งใหญ่

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ปล่อยตัว ‘อัญชัญ ปรีเลิศ’ ผู้ต้องขัง ม.112 หลังถูกจำคุกนานกว่า 8 ปี 4 เดือน

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความท่องเที่ยวอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

พ่อแม่ยุคใหม่ เลี้ยงลูกด้วย ChatGPT เมื่อคำแนะนำของ AI ช่วยให้เป็นพ่อแม่ที่ดีขึ้น

The Momentum

ทุกคนมีพ่อคนเดียว แต่ไม่รู้พ่ออยากได้อะไร รวมไอเดียของขวัญที่ทำให้พ่อยิ้มได้

The Momentum

‘ยิ่งที่บ้านเข้มงวด เด็กยิ่งโกหกเก่ง’ เมื่อวิธีเลี้ยงลูกแบบเผด็จการ ไม่ได้ทำให้เขาเชื่อฟังอย่างที่คิด

The Momentum
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...