“ทนายเกิดผล” ยันพฤติกรรม “หมอบี” ผิดปกติ จ่อรวบรวมหลักฐานเอาผิด
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 9 สิงหาคม 2568 เวลา 1.03 น. • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทกรุงเทพฯ 8 ส.ค. – “ทนายเกิดผล” ระบุพฤติกรรม “หมอบี” ผิดปกติ น่าสงสัย ทางวัดมีมติให้ดำเนินคดี แต่ต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานก่อน
ความคืบหน้ากรณี “หมอบี” เปิดบัญชีรับบริจาคเงินให้วัดพระบาทน้ำพุ หลังจากที่ทางเจ้าอาวาสและหมอบีโต้ข้อเท็จจริงกันไปมา ล่าสุดทนายเกิดผลมองพฤติกรรมหมอบีผิดปกติ และโยนความผิดให้หลวงพ่อ ส่วนตำรวจกองปราบฯ มองการเบิกเงินสดของหมอบี บ่งชี้พฤติกรรมน่าสงสัย
นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความวัดพระบาทน้ำพุ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีหมอบีเปิดบัญชีรับบริจาคให้วัด ว่า วันนี้จะนำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเรื่องหมอบี เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม หลังจากที่มีคนมาร้องเรียนกับหลวงพ่อ หลวงพ่อจึงเรียกหมอบีให้นำเอกสารมาชี้แจง ซึ่งเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารรายละเอียดการดำเนินการแต่ละโครงการ โดยหมอบีนำมาให้หลวงพ่อเซ็นรับทราบว่าหลวงพ่อดูแล้ว ซึ่งจากการดูร่วมกันหลายฝ่าย เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่ไม่ได้ลงวันที่ ทำขึ้นมาว่ามีกิจกรรมอะไรที่ทำไปแล้วบ้าง ส่วนการแจ้งความตอนนี้ วัดมีมติว่าให้ดำเนินคดีกับหมอบีอย่างแน่นอน แต่ว่าขณะนี้หลักฐานยังไม่เพียงพอจะต้องมีการรวบรวมก่อน
จากที่หมอบีบอกว่าเงินบางส่วนนำไปใช้จ่ายโครงการอื่นนั้น ก็เป็นเรื่องที่หมอบีนำมาอ้าง เนื่องจากเบิกเงินมาส่งให้หลวงพ่อไม่ครบ ส่วนเรื่องที่หมอบีระบุว่ามีการนำเงินไปให้หลวงพ่อโดยตรงนั้น ก็ข้อมูลตรงกัน แต่เงินสดที่ได้มา ก็มีเจ้าหน้าที่ของวัดที่คอยทำบัญชีรายรับรายจ่ายอยู่ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน โดยตอนนี้ตัวเลขที่ไม่ตรงกันมีอยู่ 5.4 ล้านบาท
ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้หมอบีมีความผิดปกติ เนื่องจากให้ข้อมูลไม่ตรงกับข้อมูลที่ตนรับทราบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็แจ้งหลวงพ่อแล้วว่ามีมูลความผิด และยังมองว่าหมอบีโยนความผิดให้หลวงพ่อกับเลขาเขา แต่เขาจะพูดอย่างไรก็ได้เพราะหลักฐานเป็นอีกแบบ ซึ่งทางวัดตอนนี้มีหลักฐานเรียบร้อยแล้วแต่สิ่งที่ตนยังกังวลใจอยู่ คือหลวงพ่อรู้ไม่เท่าทัน ที่ผ่านมาหลวงพ่อเชื่อหมอบีเกือบทั้งหมด กระทั่งเห็นหลักฐานจึงเกิดคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนจะมองว่าวัดเป็นเหยื่อหรือไม่นั้น ก็ตอบไม่ได้เพราะทางวัด คณะกรรมการคนอื่นๆ ไม่รู้เรื่อง มันเป็นเรื่องระหว่างหลวงพ่อกับหมอบี 2 คนที่รู้
ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม กล่าวว่า การประชุมช่วงบ่ายเป็นการแบ่งงานให้ตำรวจกองปราบที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ ทั้งสืบสวนและสอบสวน ซึ่งผลของการให้ข้อมูลของหมอบีเมื่อคืนนี้ หลักๆมาเพื่อแสดงเจตจำนงว่าไม่ได้หลบหนี และนำเอกสารมาให้ดูตั้งแต่ปี 62 ว่าเอาเงินไปทำอะไรบ้าง ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเนื่องจากเอกสารมีจำนวนมาก โดยทางตำรวจก็จะมีการขอเอกสารจากทางวัดมาตรวจสอบด้วยเช่นกัน ว่าทางวัดเองมีการรู้เห็นเกี่ยวข้องกับโครงการต่างๆ อย่างไรบ้าง ส่วนจะเชิญเจ้าอาวาสมาให้ข้อมูลหรือไม่นั้นต้องตรวจสอบรายละเอียดก่อน หากมีความชัดเจนก็จะมีการเรียกเจ้าอาวาสมาให้ข้อมูล
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.เอนก ยอมรับว่า การเบิกเงินสด จะทำให้เส้นทางการเงิน หรือเห็นการเคลื่อนตัวของเงินขาดช่วง แต่อย่างไรก็ตามการเบิกถอนเป็นเงินสด ก็บ่งชี้พฤติกรรมบางอย่างที่น่าสงสัยเช่นเดียวกัน หากมองเป็นเรื่องเป็นพื้นๆ การรับบริจาคเงินผ่านบัญชีเรา หากเราบริสุทธิ์ใจและไม่หวังที่จะเอาใช้เพื่อประโยชตัวเอง ก็โอนไปเลย ไม่เห็นจะต้องไปเบิกเงินสดให้มานับกันวุ่นวาย
ส่วนเรื่องบ้านราคาหลักสิบล้านนั้น เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญ ที่เป็นผลต่อรูปคดี ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งเราก็จะต้องตรวจสอบทรัพย์สินทุกอย่างของหมอบีว่ามีอะไรบ้าง และได้มาอย่างไร ซึ่งในวันนี้การสืบสวนเพิ่งเริ่ม ตอนนี้ทางวัดยังไม่ได้แจ้งความแต่ก็มีการคุยกันแล้ว อย่างไรก็ตาม หากพบความผิดอาญาแผ่นดิน ตำรวจกองปราบก็สามารถดำเนินการได้เลย
หากตรวจสอบข้อมูลแล้ว แล้วมีข้อสงสัยจะเรียกหมอบีมาให้ปากคำเพิ่มเติม แต่เมื่อคืนจากการสังเกตเจ้าตัวมีสีหน้ากังวล ส่วนเรื่องพยานเมื่อเช้าที่เรียกมาสอบปากคำ ก็ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เป็นเบาะแสที่เราสามารถสืบสวนสอบสวนไปในทิศทางที่ดีได้ แต่คนนี้ยังไม่ใช่คนเบิกเงิน. -414-สำนักข่าวไทย