D กำไร Q2/68 โต 27% อานิสงส์งานเทรดดิ้งโต 50% – พร้อมลุยงานประมูลเต็มสูบ
D ผลงาน Q2/68 รายได้กว่า 265 ล้านบาท ขณะที่กำไรพุ่ง 27% รับอานิสงส์งานเทรดดิ้งขายอุปกรณ์ทันตกรรม สร้างรายได้ 113.9 ล้านบาท โตก้าวกระโดด 50% มั่นใจผลงานปีนี้โดดเด่น ชูจุดแข็งด้านทันตกรรมแบบครบวงจร พร้อมลุยงานประมูลเต็มสูบ ขณะที่งานด้านบริการทันตกรรมลูกค้าต่างชาติเข้าใช้บริการต่อเนื่อง
8 สิงหาคม 2568 นายพรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D ผู้ให้บริการทันตกรรมแบบครบวงจร เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ในไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 มีรายได้รวมจำนวน 265.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าจำนวน 24.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10% และมีผลกำไรสุทธิ จำนวน 19.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 4.2 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 27% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในไตรมาส 2/2568 มีรายได้โดดเด่นจากการขายวัสดุและอุปกรณ์ทางทันตกรรม หรือ เทรดดิ้ง โดยมีรายได้จากการขายจำนวน 113.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 38.1 ล้านบาท หรือโตเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า
เนื่องจากบริษัท เดนทัล วิชั่น จำกัด (บริษัทย่อย) ได้ส่งมอบงานจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ ด้านอุปกรณ์ทันตกรรม ประเภทโต๊ะปฏิบัติการทันตกรรม ให้กับคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 127 ชุด โดยมีมูลค่า 28.41 ล้านบาท
ส่วนการให้บริการด้านทันตกรรม มีรายได้จำนวน 151.2 ล้านบาท ลดลง 8% เนื่องจากรายได้กลุ่มลูกค้าคนไทยลดลง จากกำลังซื้อในประเทศปรับตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากลูกค้าคนไทยจำนวน 53.6 ล้านบาท ในขณะที่ลูกค้าหลักที่เป็นชาวต่างชาติยังเข้าใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนรายได้จากลูกค้าชาวต่างชาติจำนวน 97.6 ล้านบาท
“ผลงานของกลุ่ม D ในไตรมาส 2 ของปีนี้ งานด้านเทรดดิ้งเติบโตโดดเด่น มีรายได้ก้อนใหญ่จากงานประมูล ของบริษัทย่อย เดนทัล วิชั่น และจากศักยภาพในการเป็นผู้นำธุรกิจให้บริการด้านทันตกรรม รวมทั้งการจัดจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์ทันตกรรมแบบครบวงจร เป็นจุดแข็งของกลุ่มบริษัท เราจึงมีคุณสมบัติพร้อม มีมาตรฐานและเป็นการยอมรับในวงการ ทำให้เรามีความพร้อมสามารถลุยงานประมูลได้เต็มที่ ทั้งในมหาวิทยาลัยภาครัฐบาล และภาคเอกชน ที่มีการเปิดการเรียนการสอนคณะทันตแพทย์” นายพรศักดิ์ กล่าว
ในส่วนของโรงพยาบาลทันตกรรม กรุงเทพ อินเตอร์เนชั่นแนลหรือ BIDH ที่เน้นให้บริการกลุ่มลูกค้าคนไทยมีรายได้สูง ผู้บริหารชาวต่างประเทศที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย (Expat) และกลุ่มนักท่องเที่ยว (Tourist) ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง ในไตรมาส 2 ปี 2568 มีรายได้จำนวน 36.3 ล้านบาท