เขมรแถน้ำขุ่นๆ อ้างไทยละเมิดอนุสัญญาออตตาวาเสียเอง เพราะไม่ทำลายทุ่นระเบิดที่เก็บกู้ได้
สำนักข่าวเฟรชนิวส์ของกัมพูชารายงานว่า นายลี ธุช รองประธานองค์กรปฏิบัติการและช่วยเหลือเหยื่อทุ่นระเบิดแห่งกัมพูชา (CMAA) กล่าวเมื่อวันที่ 18 สิงหาคมว่า หากทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ไทยจัดแสดงให้คณะเอกอัครราชทูตจาก 33 ประเทศได้รับชมระหว่างลงพื้นที่เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นทุ่นระเบิดใหม่จริงและยังมีสลักติดอยู่ จะหมายความว่าไทยได้ละเมิดอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือ อนุสัญญาออตตาวา เสียเอง เพราะไทยเป็นรัฐภาคีที่มีพันธกรณีในการทำลายทุ่นระเบิดดังกล่าวไม่ใช่เก็บไว้เอง
นายลี ธุช กล่าวว่า ไทยมักเก็บกู้ทุ่นระเบิดและนำไปจัดแสดง แต่หากทุ่นระเบิด 30-40 ลูกที่ไทยจัดแสดงให้คณะทูตได้รับชมเป็นทุ่นระเบิดใหม่จริง แสดงว่าไทยละเมิดอนุสัญญาออตตาวาอย่างโจ่งแจ้งจากการเก็บทุ่นระเบิดสังหารบุคคลเอาไว้แต่ไม่ยอมทำลายทิ้ง เพราะในฐานะรัฐภาคี ประเทศสมาชิกจะต้องทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทั้งหมดที่อยู่ในอธิปไตยของตัวเอง ขณะที่กัมพูชาได้เริ่มทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ยังเก็บไว้อยู่หลังจากที่เริ่มเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา
ด้านนายเฮง รัตนา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการกับระเบิดของกัมพูชา (CMAC) อธิบายว่า ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ไทยได้นำแสดงให้คณะทูตรับชมยังมีสลักติดอยู่ หมายความว่านี่เป็นทุ่นระเบิดใหม่ เพราะทุ่นระเบิดที่ใช้ในสนามรบนั้นตัวสลักจะบิดหรือหักออกเพื่อพร้อมจุดชนวน
นายลี ธุช ยังได้กล่าวเรียกร้องให้ฝ่ายไทยยุติการบุกเข้ามาในดินแดนของกัมพูชาที่ยังคงมีทุ่นระเบิดจากสงครามในอดีตตกค้างอยู่ ซึ่งเป็นภัยอันตรายร้ายแรง อีกทั้งกล่าวอีกว่า ข้อกล่าวหาของไทยที่ว่ากัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดใหม่นั้น ไม่มีมูลความจริง
“เพื่อป้องกันอันตรายเพิ่มเติม อย่างที่ได้อธิบายไปแล้ว เราต้องหยุดการเข้าไปในพื้นที่ที่ยังมีทุ่นระเบิด หากเราหยุดเข้าไปในพื้นที่เหล่านี้ อันตรายก็จะยุติลง เพราะทุ่นระเบิดไม่มีตา ไม่ว่าใครจะเป็นคนชาติใด หากเหยียบหรือสัมผัส มันก็จะทำลายล้างทันที ดังนั้น ผมขอเรียกร้องไปยังฝ่ายไทยว่า ประการแรก หยุดการบุกรุกเข้ามาในเขตแดนของกัมพูชา ซึ่งยังเต็มไปด้วยทุ่นระเบิดที่หลงเหลือจากสงครามในอดีต และประการที่สอง ขอให้มีความรับผิดชอบสูงในการกล่าวหา อย่าเพียงแต่ยกข้อกล่าวหาที่ไร้หลักฐาน หรือสร้างวิดีโอเท็จขึ้นมา ซึ่งโลกสามารถเห็นได้ชัดว่าเป็นการประดิษฐ์ขึ้นมา” นายลีกล่าว
ทั้งยังกล่าวเพิ่มเติมว่า พื้นที่ที่มีรายงานว่าทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดนั้น แท้จริงแล้วเป็นสนามรบเก่าสมัยสงครามกลางเมืองของกัมพูชา ซึ่งในช่วงเวลานั้น กลุ่มติดอาวุธได้วางทุ่นระเบิดไว้เป็นจำนวนมาก ทุ่นระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในพื้นที่ดังกล่าวได้ก่อให้เกิดอันตรายต่อพลเรือนกัมพูชามาโดยตลอด และผู้ใดก็ตามที่เข้าไปในพื้นที่เหล่านี้ยังคงมีความเสี่ยงอยู่เสมอ