บทเรียนผลวิเคราะห์ ‘แผ่นดินไหว’ เห็นจุดอ่อนต้องปรับ-เพิ่มระดับรับมือ
"ทีมข่าวอาชญากรรม" มีโอกาสสอบถามหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหว ศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย ผอ.ศูนย์วิจัยแผ่นดินไหวแห่งชาติ และอาจารย์สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) เพื่อประเมินบทเรียน และทิศทางปรับตัวรับมืออนาคต หลังผ่านเหตุการณ์ใหญ่มานาน 5 เดือน โดย ศ.ดร.เป็นหนึ่ง ระบุ ได้ทราบข้อมูลและพบว่ามีหลายเรื่องที่ต้องเรียนรู้จากเหตุการณ์นี้ การสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นใน กทม.ถือว่ารุนแรงกว่าที่คาด และการสั่นสะเทือนของพื้นดินก็ยังมีลักษณะเหนือความคาดหมาย
"เราคาดอยู่แล้วว่าแอ่งกรุงเทพฯ มันจะขยาย ความรุนแรงแผ่นดินไหว เราก็คาดอยู่แล้วว่ามันจะขยายในช่วงคาบการสั่น ประมาณ 1-5 วินาที แต่ครั้งนี้พบคาบการสั่นยาวกว่านั้น ตั้งแต่ 6-7-8 วินาที ที่แรงเกินความคาดหมาย ทำให้การสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นกับอาคารสูงแรงกว่าที่คิด อีกปัจจัยคืออัตราสลายพลังงานของอาคารสูง เป็นปัจจัยสำคัญควบคุมการสั่นสะเทือน"
จากข้อมูลที่มีไม่ว่าจะจากอาคารที่ติดตั้งอุปกรณ์วัดการสั่น หรือผลการวิเคราะห์ที่ทีมผู้เชี่ยวชาญทำมา พบว่าอาคารสูงหลายหลังพอจะประเมินระดับการโยกตัว และประเมินคาบที่อาคารโยกตัวได้ว่า โยกตัวได้จังหวะเท่าใด เพราะเมื่อนำเหล่านี้มาประกอบกันก็พบอัตราการสลายพลังงานของอาคารสูงเรา อาจต่ำกว่าที่คิดไว้เยอะ
ศ.ดร.เป็นหนึ่ง กล่าวว่า ประเด็นนี้สำคัญเพราะทำให้การคำนวณผลกระทบแผ่นดินไหว เราอาจประเมินต่ำเกินไป ดังนั้น จึงมีหลายเรื่อง รวมทั้งกระบวนการออกแบบและการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร อาจต้องปรับปรุงให้เข้มงวดขึ้น ซึ่งช่วยให้อาคารสูงรุ่นต่อไปปลอดภัยขึ้น นอกจากนี้ อาจยังหาวิธีทำให้อาคารสูงที่มีอยู่สามารถโยกตัวน้อยลงได้ การใช้อุปกรณ์ดูดซับพลังงาน (Dynamic damper) พวกนี้ก็เป็นวิธีการสำคัญที่หลายประเทศใช้กัน และข้อมูลที่เราได้มาจากเหตุการณ์ครั้งนี้ก็มีว่าการใช้ Dynamic damper จะช่วยลดการสั่นสะเทือนรุนแรงของอาคารสูงเป็นจำนวนมากได้
"ผมเป็นผอ.ศูนย์วิจัยแห่งชาติ และมีนักวิจัยสมาชิกประมาณ 50 คน เราทำงานวิจัยต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เราพยายามขยายงานขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเหตุการณ์นี้ทำให้พบว่ามีเรื่องที่ต้องศึกษาเร่งด่วนเยอะพอสมควร"
ส่วนการแบ่งโซนพื้นที่แผ่นดินอ่อน “แอ่งกรุงเทพฯ” แท้จริงแล้วครอบคลุมประมาณ 14 จังหวัด ไม่ใช่แค่ กทม. โดยแบ่งเป็น 10 โซน กทม.อยู่โซน 5 แต่ละโซนจะมีข้อกำหนดในการออกแบบไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะความสามารถในการขยายความรุนแรงของแอ่งดินอ่อนที่มีความแตกต่างกัน
เมื่อถามถึงข้อกังวลสำหรับวิศวกรที่อาจต้องรับมือกับแผ่นดินไหวในอนาคต ศ.ดร.เป็นหนึ่ง แนะผู้ที่จะพัฒนาอาคารสูงรุ่นใหม่ที่ยังไม่ได้สร้างการออกแบบก่อสร้าง อาจต้องพิจารณาถึง “ข้อมูลใหม่” แม้ยังไม่ได้ปรับปรุงมาตรฐานให้ดีขึ้น แต่ครั้งนี้ได้เรียนรู้หลายเรื่องเพิ่ม มองว่ากรมโยธาธิการและผังเมืองควรมีมาตรฐานชั่วคราว
"ยังไงก็ตาม การพิจารณาก่อสร้างอาคารสูงจากนี้ไป อาจจะต้องนำบทเรียนครั้งนี้ประกอบการออกแบบด้วย อาจต้องพิจารณาใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น การใส่ damper หรือ การออกแบบกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กให้สามารถโยกตัวได้มากขึ้น ไม่เกิดความเสียหายแบบเปราะ แบบที่เห็นในหลายอาคารจากเหตุการณ์ล่าสุด ซึ่งเห็นว่ามีจุดอ่อนเยอะ ต้องระมัดระวังเรื่องพวกนั้นมากขึ้น"
อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วไม่ใช่เหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุด เพราะยังมีโอกาสพบเหตุการณ์ที่ร้ายแรงกว่า แม้โอกาสนั้นจะน้อย และแม้อาคารจะรอดจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัย หากเจอเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุด ดังนั้น การประเมินความเสี่ยงอาคารที่มีอยู่ก็สำคัญ เมื่อประเมินพบจุดอ่อนก็ควรต้องหาวิธีเสริมกำลัง หรือปรับปรุงให้สั่นน้อยลง
ศ.ดร.เป็นหนึ่ง ยังให้ข้อมูลถึงรอยเลื่อนที่ต้องเฝ้าระวัง จากการวิเคราะห์ความเสี่ยงอาคารสูงใน กทม. ข้อเท็จจริงแหล่งกำเนิดทั้งหมดที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asia) ที่จะมีผลกระทบต่อ กทม. เมื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงแล้วสามารถคำนวณกลับว่าแหล่งกำเนิดใด หรือแผ่นดินไหวประเภทใดที่เป็นอันตรายจริงๆ กับ กทม. ซึ่งพบมี 3 รูปแบบ ได้แก่
แบบแรก คือ แผ่นดินไหวประมาณ 7-7.5 ที่ จ.กาญจนบุรี แบบที่ 2 คือ แผ่นดินไหวประมาณ 8 ที่รอยเลื่อนสะกาย และแบบที่ 3 คือ แผ่นดินไหวประมาณ 8.5-9 ที่แนวมุดตัวของแผ่นเปลือกโลกที่อาระกัน (Arakan)
ทั้งนี้ ใน 3 รูปแบบนี้ แบบที่ 2 เพิ่งเกิดไป เพราะแผ่นดินไหว 7.7 ใกล้เคียง 8 ที่รอยเลื่อนสะกาย และเราก็ได้รับผลกระทบที่รุนแรงพอสมควร แต่อีก 2 แบบที่พูดถึงนี้มันยังไม่เกิด
"คิดว่าทุกแบบเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นยาก แต่เราก็คิดว่าโอกาสที่จะเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของเราคงจะไม่เกิน 10% แต่ถึงประเมินไว้เช่นนั้น แบบที่ 2 ก็ดันเกิดขึ้นมาแล้ว แล้วเราก็ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นการเตรียมพร้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก" ศ.ดร.เป็นหนึ่ง ระบุ.
ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน