SC Asset คัมแบ็คคอนโดโลว์ไรส์ราคาต่ำในรอบ 10 ปี ส่ง “โค้บบ์ ลาดพร้าว – สุทธิสาร” เจาะคนรุ่นใหม่
SC Asset เปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ล่าสุด “โค้บบ์ ลาดพร้าว - สุทธิสาร” (COBBE Ladprao - Sutthisan) คาดเสร็จพร้อมเข้าอยู่ไตรมาส 1 ปี 2570 เตรียมเปิดให้จองครั้งแรกในวันที่ 30-31 สิงหาคมนี้
นางสาวกนกอร หลิมกำเนิด หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านพัฒนาทรัพย์สินแนวสูง บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลว่า ปีนี้ตลาดคอนโดมิเนียมต้องเผชิญกับความท้าทายจากดีมานด์และซัพพลายที่ชะลอตัว แต่ในสถานการณ์ที่ผันผวนนี้ SC ASSET กลับได้รับความสนใจจากผู้คนมากขึ้นในทุกระดับราคา
SC ASSET ได้เน้นพัฒนาโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียมราคาสูงมาโดยตลอด โดยราคาเริ่มต้นที่ 4 ล้านบาทขึ้นไป ขณะที่คอนโดมิเนียมราคาต่ำกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่ SC ASSET เคยหายไปจากตลาดถึง 10 ปี นับตั้งแต่โครงการ Chambers Chaan Ladprao-Wanghin ในปี 2558 ได้กลับมาทำตลาดอีกครั้ง
การกลับมาครั้งนี้จึงนับเป็นโอกาสครั้งสำคัญของบริษัทที่จะเจาะตลาดกลุ่มนี้ ด้วยโครงการ “Cobb Ladprao – Sutthisan” ซึ่งถือเป็นโครงการหายากและมาพร้อมกับราคาที่เข้าถึงง่ายที่สุดในรอบทศวรรษ
นอกจากนี้SC ASSET ยังมีคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “Cobb” อีก 2 โครงการที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ได้แก่
- Cobb Ratchada – Rama 9 ที่มียอดขายแล้วกว่า 86%
- Cobb Kaset – Sripatum ที่มียอดขายสูงถึง 98%
โดยโครงการโค้บบ์ ลาดพร้าว - สุทธิสาร เป็นคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรส์ที่กลับมาทำตลาดในระดับราคาที่เข้าถึงง่ายในรอบ 10 ปี โดยมีราคาเริ่มต้นเพียง 1.99 ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่หรือ New Gen โดยเฉพาะ ภายใต้กลยุทธ์ที่เน้น 3 หัวใจหลัก ได้แก่ :
- ทำเล (Place) : ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพบนต้นซอยลาดพร้าว 64 ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สถานีโชคชัย 4 เพียง 600 เมตร ทำให้เดินทางเชื่อมต่อไปยังย่านธุรกิจและไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
- นวัตกรรม (Product) : โครงการให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลางและชุมชนที่เรียกว่า “Co-Being Community” ซึ่งออกแบบมาเพื่อส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยมีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น มีทั้งพื้นที่ทำงานร่วมกัน (Co-working space) พื้นที่สำหรับทำกิจกรรมและเวิร์กช็อป รวมถึงบริการด้านสุขภาพแบบ Telemed ให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง
- สิ่งแวดล้อม (Planet) : โครงการมีการนำนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนมาใช้ เช่น การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนอาคารเพื่อลดการใช้พลังงานส่วนกลาง, บริการรถรับส่งไฟฟ้า (EV Shuttle Service), และพื้นที่สำหรับแยกขยะ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
โครงการนี้ถือเป็นหนึ่งในแผนการรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ของSC Asset ที่มุ่งมั่นที่จะขยายโอกาสให้คนรุ่นใหม่สามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยในทำเลใจกลางเมืองได้ง่ายขึ้น
ปัจจุบันโครงการได้รับอนุมัติรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว และมีกำหนดเริ่มก่อสร้างในช่วงปลายปีนี้ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมให้เข้าอยู่ได้ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2570 และเตรียมเปิดให้จองครั้งแรกในวันที่ 30-31 สิงหาคมนี้ พร้อมกับราคาพิเศษในช่วงงานเริ่มต้นที่ 1.899 ล้านบาท