ภาษีทรัมป์เก็บอินเดีย 50% เริ่มมีผลวันนี้
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 27 สิงหาคม 2568 เวลา 19.05 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทเดลี 27 ส.ค.- ภาษีศุลกากรที่สหรัฐเรียกเก็บกับสินค้านำเข้าจากอินเดียสูงสุดถึงร้อยละ 50 เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกรายย่อยและการจ้างงานในอินเดีย ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเก็บภาษีสินค้านำเข้าส่วนใหญ่จากอินเดียในอัตราร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม และเก็บเพิ่มอีกร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันนี้ โดยอ้างว่าเพื่อลงโทษอินเดียที่นำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย รวมเป็นร้อยละ 50 กับสินค้าประเภทสิ่งทอ อัญมณี รองเท้า เครื่องกีฬา เฟอร์นิเจอร์ และสารเคมี
สำนักงานศุลกากรและการป้องกันชายแดนของสหรัฐได้แจ้งไปยังบริษัทผู้ส่งสินค้าว่า สินค้าอินเดียที่ถูกลำเลียงขึ้นเรือและอยู่ระหว่างส่งเข้าสหรัฐก่อนเวลา 00.00 น.วันนี้ ตามเขตเวลาตะวันออกออมแสงของสหรัฐ (EDT) ซึ่งช้ากว่าไทย 11 ชั่วโมง จะยังคงเสียภาษีในอัตราเดิม โดยต้องเข้าสหรัฐก่อนเวลา 00.01 น.วันที่ 17 กันยายนตามเขตเวลาตะวันออกออมแสงของสหรัฐ ทั้งนี้ไม่ครอบคลุมถึงเหล็กและอลูมิเนียม รถยนต์นั่ง ทองแดง และสินค้าอีกหลายประเภทของอินเดียที่ถูกเก็บภาษีสูงสุดร้อยละ 50 ตามมาตรา 232 ของกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ
เจ้าหน้าที่กระทรวงการค้าของอินเดียกล่าวว่า อินเดียเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากสหรัฐในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 7.5 แต่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐแย้งว่า อินเดียเก็บภาษีสูงถึงร้อยละ 100 กับยานยนต์สหรัฐและร้อยละ 39 กับสินค้าเกษตรสหรัฐ
อินเดียซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 5 ของโลก และสหรัฐซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกได้เจรจาการค้ากันมาแล้ว 5 รอบแต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ต่างฝ่ายต่างโทษกันว่าเป็นเรื่องทางการเมือง ข้อมูลของสำนักสำมะโนสหรัฐระบุว่า การค้าทวิภาคีปี 2567 มีมูลค่า 129,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.19 ล้านล้านบาท) โดยที่สหรัฐเป็นฝ่ายขาดดุลการค้าให้อินเดีย 45,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.49 ล้านล้านบาท)
กลุ่มผู้ส่งออกประเมินว่า ภาษีสหรัฐอาจจะส่งผลกระทบราวร้อยละ 55 ต่อสินค้าที่อินเดียส่งออกไปสหรัฐราว 87,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.83 ล้านล้านบาท) และจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศคู่แข่งอินเดียอย่างเวียดนาม บังกลาเทศ และจีน ขณะเดียวกันจะทำให้อินเดียสูญเสียความน่าสนใจในการเป็นศูนย์กลางการผลิตทางเลือกแทนจีนสำหรับสินค้าประเภทสมาร์ทโฟนและเครื่องใช้ไฟฟ้า.-814.-สำนักข่าวไทย